Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
รู้มาก
•
ติดตาม
16 มี.ค. 2021 เวลา 16:54 • ประวัติศาสตร์
หลายๆคนคงจะเข้าใจว่าอาณาจักรอยุธา และ พม่านั้น ต่างก็สลับกันเป็นมหาอำนาจในแถบภูมิภาคนี้ แต่รู้หรือไม่ครับว่ายังมีอีกอาณาจักรหนึ่งในคาบสมุทรมลายูที่เป็นมหาอำนาจทางทหารและการค้าทางทะเลเช่นเดียวกันกับอยุธยาและพม่าซึ่งน้อยคนนักที่จะทราบ
มหาอำนาจที่ผมกำลังกล่าวถึงนั้นก็คือ ปัตตานี หรืออาณาจักรลังกาสุกะ ครับใช่แล้วครับอาณาจักรที่อยู่ในภาพยนต์ เรื่องปืนใหญ่จอมสลัด นั้นแหละครับ อาณาจักรแห่งนี้ นับว่าเป็นมหาอำนาจแห่งแหลมมลายูและมีความเก่าแก่กว่าอาณาจักรอยุธยา อาณาจักรลังกาสุกะ ซึ่งนับถืออิสลาม มีกษัตริยา(เจ้าผู้ครองนครซึ่งเป็นสตรี) ครองราชย์ต่อกันในราชวงศ์เดียวถึง 4 พระองค์ คือ รายาฮีเยา รายาบิรู รายาอูงู รายากูนิง
อาณาจักรลังกาสุกะ ภาพจาก ภาพยนต์เรื่อง ปืนใหญ่จอมสลัด
นางพญาพระองค์แรกผู้วางรากฐานความเจริญรุ่งเรืองในทุกๆ ด้านให้บังเกิดแก่นครรัฐปัตตานี ก็คือ รายาฮีเยา ถึงตอนนี้ทุกท่าก็คงอยากทราบกันแล้วใช่มั้ยครับว่า เหตุใด นครที่ทั้งเจริญมั่งคั่งและรุ่งเรืองเช่นจึงมีกษัตริยาปกครองต่อกันถึง 4พระองค์
เหตุนี้เริ่มจากรัชสมัยของสุลต่าน มุฎ็อฟฟัร ซาห์
ตามบันทึกทางประวัติศาตร์กล่าวว่า พระองค์ได้เสด็จไปเยือนกรุงศรีอยุธยาด้วยพระองค์เอง เพื่อเจริญสัมพันธไมตรีในรัชสมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ แต่กษัตริย?อยุธยาก็ไม่ได้ถวายการต้อนรับให้สมพระเกรียติเพราะทรงพระราชดำริว่า พระราชฐานะขององค์สุลต่านนั้นตํ่ากว่า และเมื่อพระเจ้าตะเบงชเวตี้นำกองทัพพม่าเข้าโจมตีกรุงศรีอยุธาองค์สุลต่านจึงนำทัพเรือ 200ลำเข้ายึดพระราชวังหลวงสมเด็จพระมหาจักรพรรดิจึงต้องเสด็จหนีไปที่เกาะพราหมณ์
แต่พระเจ้าตเบงชเวตี้ก็ทรงเลิกทัพกลับไปฝ่ายอยุธยาจึงสามารถยึดพระราชวังคืนได้ และองค์สุลต่านก็หายสาบสูญไป ทางปัตตานีเชื่อว่าองค์สุลต่านนั้นสิ้นพระชนม์แล้วพระอนุชาของพระองค์จึงเสด็จขึ้นครองราชย์แทน พระองค์มีพระราชธิดา 4พระองค์ คืแเจ้าหญิงฮิเยา เจ้าหญิงบิรู เจ้าหญิงอูงู เจ้าหญิงอามัสกรันจังและ พระราชโองรถอีก 2พระองค์แต่เจ้าหญิงอามัสกรันจังสิ้นพระชนม์แต่วัยเยาว์จึงคงเหลือพระธิดาและพระโอรสที่เจริญชันษาเพียง 5พระองค์เท่านั้น
รายาฮีเยา รายาอูงู และรายาบิรู ภาพจากภาพยนต์เรื่อง ปืนใหญ่จอมสลัด
รัชกาลของสุลต่านมันโซร์ไม่ยืนยาวเท่าใดนักพระองค์ก็สิ้นพระชนม์แต่ก่อนหน้านั้นพระองค์ทรงมีพระราชโองการให้เจ้าชายปาติกสยามพระราชโอรส ของอดีตสุลต่านมุฎ็อฟฟัร ซาห์ซึ่งมีพระชนมายุ ๙พรรษาสืบทอดบัลลังค์
โดยมีผู้สำเร็จราชการ คือพระนาง อาอิซาห์ พระขนิษฐภคินีของสุลต่านมันโซร์
เมื่อสุลต่านพระองค์ใหม่ขึ้นครองราชย์ได้ไม่ถึง ๑ปีเจ้าาชายบัมบังพระราชโอรสอีกพระองค์ของสุลต่านมุฎ็อฟฟัรก็ปลงพระชนม์ทั้งพระนางอาอิซาห์และสุลต่านปาติกสยาม ใน ปี ๒๑๑๖ แต่เจ้าชายเองก็ถูกขุนนางคนสนิทปลงพระชนม์ให้ตายตกตามกันไปเช่นเดียวกันครับ นี้เวรกรรมหรือจรวดครับเนี่ยยยยย
หลังจากนี้เจ้าชายบาฮาดูร์ในฐานะพระราชโอรสองค์โตของอดีต สุลต่านมันโซร์จึงขึ้นครองราชย์เป็นสุลต่านเป็นเวลา 11ปีการบริหารงานแผ่นดินของพระองค์สร้างความไม่พอใจให้แก่ขุนนางส่วนนึง พวกนางเหล่านั้นจึงพากันยุยงให้เจ้าชายบีมา พระอนุชาต่างมารดาปลงพระชนม์สุลต่านด้วยกริซ แต่สุดท้ายเจ้าชายบีมาก็ถูกขุนนางคนสนิทหักหลังเช่นกัน แหมฟังดูคุ้นๆมั้ยหละครับ สรุปแล้วก็ไม่เหลือพระราชโอรสองค์ใดเลย
ถถึงตอนนี้หลังจากฆ่ากันไปฆ่ากันมาอยู่ 10กว่าปีแล้วในที่สุดก็มาถึงทางตันครับ เพราะว่าไม่มีพระราชโอรสเหลือแล้วหนะสิครับ จะเหลือก็แต่องค์หญิงทั้ง 3พระองค์
ทุกฝ่ายจึงต้องกลับมาร่วมกันอย่างเลียงไม่ได้ ผลประโยชน์นี้อยู่เหนือความขัดแย้งจริงๆ นั้นเพราะว่าเหล่าขุนนางเองต่างก็เสียผลประโยชน์จาการในครั้งนี้ เพราะเรือสินค้าจากนานาชาติไม่กล้าเข้ามาจอด และเศรษฐของเมืองก็แย่ตามลงไป แล้วแบบนี้จะเหลืออะไรให้กินจริงมั้ยครับเหล่าเสนาบดีจึงต้องรีบสรรหาผู้ที่จะมาครองปัตตานีจากพระธิดาทั้ง 3ก็จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก องค์หญิงฮีเยา
องค์รายาฮีเยา ทรงประทับเหนือราชบัลลังค์ ภาพจากปืนใหญ่จอมสลัด
หลังจากนั้นก็ทรงได้รับการสถาปนาเป็น รายาฮีเยา กษัตริยาพระองค์แรกแห่งนครรัฐปัตตานีใน พ.ศ.๒๑๒๗ พระชนมายุได้ 32พรรษา นับว่าทรงเป็นกษัตริยาองค์แรกที่ได้ปกครองรัฐในแหลมมลายูแต่ หลังจากนั้นไม่นานเหล่าเสนาบดีก็เอาอีกแล้วครับเกิดอยากจะทดสอบบารมีของเจ้าผู้ครองนครหญิงพระองค์นี้ขึ้นมา
คือ เจ้าเมืองกายุคลัต หรือเมืองสายบุรีได้นำกองทหาร 5000นายเข้ายึด พระราชวังอิสตานานีลัมเพื่อจะก่อการกบฎและตัวเจ้าเมืองพร้อมทหารคู่ใจกว่า 40นายก็บุกถึงท้องพระโรว่ากันว่าเจ้าเมืองกายุคลัตกับทหารมีววิชาคงกระพันสามรถต่อสู้กับทหารรายาฮีเยานับพันนับหมื่นได้เมื่อทัพของกบฏเข้ามาถึงท้องพระโรงบรรดาเสนาบดีขององค์รายาก็หนีกันหมดแต่องค์รายาก็เสด็จรับฝ่ายกบฏทำให้ผู้รุกรานต่างตกตลึงกันเป็นแถวเพรคาะสิ่งที่ฝ่าย กบฎได้เห็นคือพระนางฮีเยาในฉลองพระองค์สีเขียวมีสร้อยพระศอเป็นด้ายทองคำร้อยด้วยบุปผาชาติทรงประทับยืนอยู่เหนือราชบัลลังค์มีเพียงราชองครักษ์ 2นายถวายอารักขาเท่านั้นจากนั้นองค์รายาฮีเยาก็ทรงถอดมาลัยจากพระศอแล้วโยนพระราชทานให้และไม่แม้แต่จะทรงเปิดพระโอษฐเอ่ยสิ่งใด
ขญธที่ทหารกำลังตลึงกันอยู่นั้นเจ้าเมืองยสายบุรีก็ได้หมอบลงถวายคำนับเบื้องพระบาทวางกริซแล้วหยิบเอามาลัยมาพันไว้รอบศรีษะพร้อมถวายพระพรองค์รายาจึงเสด็จเข้าที่ประทับ เจ้าเมืองสายบุรีทราบอยู่แก่ใจถึงนัยยะนั้น เพราะวันรุ่งขึ้นเจ้าเมืองกายุคลัตก็นำไพร่พลกลับและไม่เคยมาเหยียบแผ่นดินปัตตานีอีกเลย
เหตุการณ์ในครั้งนี้สร้างความเคารพยำเกรงให้กับเสนาบดีและขุนนางจนไม่มีผู้ใดกล้าท้าทายพระราชอำนาขของเจ้าผู้ครองนครอีกเลยและองค์รายาฮีเยายังประหารผู้ที่เกี่ยวข้องกับการสิ้นพระชนม์ของพระราชบิดาจนหมดสิ้น
ในบทความนี้แอดมินขอจบไว้เพียงเท่านี้ก่อนนะครับแล้วในบทความหน้าแอดมินจะมาพูดถึงสงครามระหว่างลังกาสุกะและอยุธาที่มีสมเด็จพระนเรศวรเป็นจอมทัพซึ่งผลที่เกิดขึ้นนั้นทุกคนต้องคาดไม่ถึงอย่างแน่นอน
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย