17 มี.ค. 2021 เวลา 07:15 • ประวัติศาสตร์
สวนเอเดนอยู่ที่ไหน!?
2
สวนเอเดนอยู่ที่ไหน?
เป็นคำถามที่ดีครับสำหรับสวนเอเดนอยู่ที่ไหนแล้วก็เป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ค้นคว้ามานับทศวรรษ แต่อย่างไรมีวิธีการศึกษาอยู่บ้างที่พอจะทราบว่าสวนเอเดนอยู่ที่ไหน ถึงไม่สามารถที่จะชี้ชัดได้ 100% เนื่องจากงานในปฐมกาลผู้เขียนคือโมเสสที่น่าเป็นไปได้มากที่สุด อาจจะมีหลายส่วนเพราะหนึ่งโมเสสเอาไกล้พระเจ้ามากที่สุดนับแต่ที่มีการบันทึก 2 คือพระคัมภีร์ 5 เล่มแรกเขียนด้วยภาษาฮิบรู และมีทฤษฎีอื่นอีกมากมายรวมทั้งในสมัยของโมเสสมีภาษาเขียนที่แน่นอนและไม่ห่างจากเวลาในปฐมกาลมากนักพี่พอจะมีข้อมูลต่างๆของในสมัยพระเจ้าแรกเริ่มสร้างโลก
มีแม่น้ำสายหนึ่งไหลจากเอเดนรดสวนนั้น จากที่นั่นก็แยกออกเป็นสี่สาย ชื่อแม่น้ำสายที่หนึ่งคือปิโชน เป็นแม่น้ำที่ไหลรอบแผ่นดินฮาวิลาห์ ที่นั่นมีแร่ทองคำ ทองคำที่เมืองนั้นเป็นทองคำเนื้อดี และมียางไม้ตะคร้ำและโมรา ชื่อแม่น้ำสายที่สองคือกิโฮน ไหลรอบแผ่นดินคูช ชื่อแม่น้ำสายที่สามคือไทกริส ไหลไปทางทิศตะวันออกของเมืองอัสซีเรีย และแม่น้ำสายที่สี่ชื่อยูเฟรติส
ปฐมกาล 2:10‭-‬14 TH1971
4
สวนเอเดนในพระคัมภีร์ (ปฐก. 2:4-14)
“ในวันที่พระเจ้าทรงสร้างแผ่นดิน และฟ้าสวรรค์ ต้นไม้ตามทุ่งนายังไม่เกิดขึ้นบนแผ่นดิน และพืชตามทุ่งนาก็ยังไม่งอกขึ้นเลย เพราะพระเจ้ายังมิได้ทรงทำให้ฝนตกบนแผ่นดิน ทั้งยังไม่มีมนุษย์ที่จะทำไร่ไถนา แต่มีน้ำพลุ่งขึ้นมาจากแผ่นดิน ทำให้พื้นดินเปียกทั่วไป พระเจ้าทรงปั้นมนุษย์ด้วยผงคลีดิน ระบายลมปราณเข้าทางจมูก มนุษย์จึงเป็นผู้มีชีวิต พระเจ้าทรงปลูกสวนแห่งหนึ่งไว้ที่เอเดน ทางทิศตะวันออก และทรงให้มนุษย์ที่พระองค์ทรงปั้นมานั้นอยู่ที่นั่น ..มีแม่น้ำสายหนึ่งไหลจากเอเดนรดสวนนั้น จากที่นั่นก็แยกออกเป็นสี่สาย ชื่อแม่น้ำสายที่หนึ่งคือ ปิโชน (Pishon) เป็นแม่น้ำที่ไหลรอบแผ่นดินฮาวิลาห์ ที่นั่นมีแร่ทองคำ ทองคำที่เมืองนั้นเป็นทองคำเนื้อดี และมียางไม้ตะคร่ำ และโมรา ชื่อแม่น้ำสายที่สองคือ กิโฮน (Gihon) ไหลรอบแผ่นดินคูช ชื่อแม่น้ำสายที่สามคือ ไทกรีส (Tigris) ไหลไปทางทิศตะวันออกของเมืองอัสซีเรีย และแม่น้ำที่สี่ชื่อ ยูเฟรติส (Euphrates) ข้อความตอนนี้จากพระคัมภีร์ทำให้เรารู้ว่าสวนเอเดนนั้นเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำ 4 สายคือ
1. ปิโชน (Pishon)
2. กิโฮน (Gihon)
3. ไทกริส (Tigris)
4. ยูเฟรตีส(Euphrates)
1
สิ่งที่ยากของคัมภีร์ตอนนี้ที่จะระบุถึงสวนเอเดนก็คือแม่น้ำทั้ง 4 สายตั้งแต่สมัยอับราฮัมจนถึงปัจจุบันแม่น้ำเหลือแค่ไทกริส-ยูเฟรติสเท่านั้น
จึงทำให้มีคำถามเรื่องของแม่น้ำปิโชนและกิโฮนอยู่ไหนกันแน่?
และสิ่งที่เป็นคำถามอีกอย่างหนึ่งคือในเมืองทีบอกว่าแผ่นดินแถวนี้อุดมสมบูรณ์แต่ในปัจจุบันกับเป็นตรงกันข้ามคือแผ่นดินเหล่านี้กลายเป็นทะเลทราย
ใน ปี 1611 ได้มีการแปลพระคัมภีร์ฉบับกษัตริย์เจมส์ (King James Version) กล่าวว่าดินแดนคูช หรือ คูธ (Cush) คือบริเวณที่แม่น้ำกิโฮนที่อ้างถึงไหลเวียนอยู่ในเอธิโอเปีย (And the name of the second river is Gihon : the same is it that compasseth the whole land of Ethiopia) จึงทำให้บรรดานักค้นคว้าหลงไปค้นหาสวนเอเดนถึงอัฟฟริกา
กาลเวลานับพันปีน่าจะทำให้ภูมิประเทศเปลี่ยนไป พระคัมภีร์ฉบับ Today's English Version ให้คำอธิบายว่า คูช (Cush) คือดินแดนของเมโสโปเตเมีย (Mosopotamia) หรือบาบิโลน (Babylonia)
1
มีนิยายและตำนานเล่าขานกันต่อมา ซึ่งพบว่ามีความเหมือนกันกับพระคัมภีร์อยู่ 2 เรื่องคือ เรื่องฟ้าสวรรค์ และแผ่นดินโลกมีการแบ่งแยกกันอีกเรื่องคือมนุษย์ถูกสร้างมาจากดิน
3
สวนเอเดนตามตำนานโบราณของพวกชูเมอร์ (Sumer)
แผ่นจารึกได้บันทึกการสร้างของ
เทพเจ้าแห่งน้ำ "เอ็นไก" เป็นตำนานของชาวซูเมอร์
ตำนานของสวนเอเดนเก่าแก่มากประมาณอายุไม่ต่ำกว่า 3,000 ปีก่อนคริสตกาล ถ้าสวนยังอยู่ และอาจสาปสูยไป เพราะอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปของแผ่นดินในแถบนี้ ระยะการเปลี่ยนแปลงของแผ่นดินนั้นกล่าวกันว่า ในพื้นที่แคบ ๆ ของดินแดนตะวันออกของทะเลเมดิเตอรเรเนียนและทะเลอีเจี้ยนน้ำแข็งเคยจับหนาในเขตยูเรเซีย (Eurasia) แห้งตลอดถึงช่องแคบเฮอร์มุช ซึ่งทำให้แม่น้ำโบราณมีสภาพดุจการทดน้ำ และกระแสน้ำไม่ได้ไหลดุจดังในสภาวะปัจจุบัน แต่ดินแดนสวนเอเดนนั้น จะถือกำหนดเกิดขึ้นมาตอนใด แล้วทำไมดินแดนที่อุดมสมบูรณ์จึงหายไป ทำให้ชนที่อาศัยอยู่ไปตั้งหลักแหล่งอยู่ ณ ลุ่มแม่น้ำสินธุ ตอนนี้เราพอจะรู้จากพระคัมภีร์ได้ว่าหลังจากที่อาดัม และเอวาได้ทำบาปด้วยการไม่เชื่อฟัง แล้วก็ถูกขับไล่ออกจากสวนเอเดนให้ไปทำไร่ไถนาในที่ดินที่ตัวถือกำเนิดมานั้น .. และทรงตั้งพวกเครูบ (ทูตสวรรค์จำพวกหนึ่ง) ทางทิศตะวันออกของสวนเอเดน และตั้งกระบี่เพลิงที่หมุนได้รอบทิศไว้เฝ้าทางที่จะเข้าไปสู่ต้นไม้แห่งชีวิต (ดู ปฐก. 3:23-24)
นอกจากนั้นก็มีร่องรอยทางภาษา เพราะคำจารึกในแผ่นคูนิฟอร์ม (Cuneiform) มีคำว่า เอเดน หรือ อีดิน (Edin) ปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรกในแผ่นดินซูเมอร์ อายุราวประมาณ 3,000 ปีก่อนคริสตกาล มีการกล่าวถึงวัฒนธรรมของยูเบต (Ubaid) ซึ่งมีคำพูดของพวกซูเมอเรียน (Sumerians) ที่เรียกสวนเอเดนง่ายๆ “ที่ราบแห่งความอุดมสมบูรณ์”
1
มีการเอาตำนานโบราณชื่อ “มหากาพย์อาทราคาซีส” มาเปรียบเทียบกับพระคัมภีร์ปฐมกาลว่า คล้ายกับปฐมกาลมาก จารึกโบราณของพวกซูเมอรเรียนได้บันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับน้ำท่วมโลกเอาไว้ด้วย นักวิชาการได้พบเรื่องน้ำท่วมโลกจาก “มหากาพย์กิลกาเมช” (Gilgamesh) เรื่องมีอยู่ว่า มีผู้กล้าที่ผูกพันกับนิยายงูใหญ่ ซึ่งต้นไม้ที่ว่านี้ก็คือต้นไม้ที่อยู่กลางสวนเอเดน ที่มีกระบี่เพลิงเฝ้าไว้ (ดู ปฐก. 3:24) เขาต้องไปยังที่ต่ำ จากซูเมอร์ไปสู่พื้นที่ของอ่าวเพื่อที่จะค้นหาต้นไม้นั้นเพื่อทำให้ตนเองเป็นอมตะ ซึ่งก็หาไม่พบ สรุปความได้ว่ามนุษย์ไม่ควรหวังว่าจะมีความเป็นอมตะ แต่ก็มีมนุษย์คนหนึ่งที่ได้รับความอมตะคือโนอาห์แห่งบาบิโลน เรื่องราวนี้เป็นตอนหนึ่งของประวัติศาตร์มนุษยชาติของบาบิโลน
สวนเอเดนจากภาพถ่ายดาวเทียม
มีนักโบราณคดีท่านหนึ่ง ผู้ไม่ยอมแพ้การค้นคว้าเรื่องสวนเอเดน ท่านคือ ดร.จูลิส ซารีน แห่งมหาวิทยาลัยเซาท์เวสมิซซูรี่ ซึ่งท่านมีความเชื่อว่ามันจะต้องมีอยู่จริง ท่านได้พากเพียรค้นหามา 7 ปี ถึงขนาดขอความช่วยเหลือจากดาวเทียม โดยวิธีถ่ายภาพทางอากาศบริเวณประเทศอิรักต่อกับประเทศอิหร่าน ตอนก้นอ่าวเปอร์เซีย
2
ดร.ซารีน เชื่อว่าในครั้งนั้นดินแดนแถบนี้จะต้องถูกน้ำท่วมและผู้คนถอยหนีน้ำไปรวมกันแล้วเกิดเมืองชื่อ “อีริดู (Eridu)” และ “เมืองเออร์ (Ur)” ที่ซี่งอับราฮัมอยู่มาก่อนเดินทางไปคานาอัน และพบซากเมืองอยู่ก้นทะเลคูเวตที่เรียกกันว่า “เมืองยูเบเดียน (Ubaidian)”
จากการถ่ายภาพจากดาวเทียมทำให้เราทราบว่ามีร่องรอยของแม่น้ำโบราณปิโซนที่แห้งขอดไปแล้วทอดยาวไปทางอาระเบีย ซึ่งจากจารึกโบราณของซาอุดิอาราเบียและคูเวตเรียกว่า “วาดีริมาห์ และวาดี บาติน (Wadi Rimah and Wadi Batin)” ตรงกับที่พระคัมภีร์กล่าวเอาไว้
ส่วนแม่น้ำกิโฮน ก็ไหลอยู่ทางเหนือของอ่าวเปอร์เซีย มองจากดาวเทียมแลนท์แซทเห็นได้เหมือนกัน มีอีกชื่อหนึ่งว่า “การัน (Karun)” เป็นอันครบทั้ง 4 สาย แต่เรื่องยังไม่จบเพราะว่าแม่น้ำทั้งสี่ไหลลงอ่าวเปอร์เซีย แต่พระคัมภีร์บอกว่าน้ำมาจากสวนเอเดนไหลลงสู่แม่น้ำ 4 สายกลับเป็นตรงกันข้าม ซึ่งเรื่องนี้ผู้เชี่ยวชาญพระคัมภีร์ อิบราฮิม สไปเซอร์ ได้ให้คำอธิบายซึ่งช่วยให้เราเข้าใจได้มากทีเดียว เพราะว่าในสมัยนั้นเมื่อครั้งที่อ่าวเปอร์เซียนยังแห้งมาถึงช่องแคบเฮอร์มุช บรรดากระแสน้ำจะต้องไหลย้อนออกจากบริเวณสวนในบางปี
1
ส่วนแม่น้ำกิโฮน ก็ไหลอยู่ทางเหนือของอ่าวเปอร์เซีย มองจากดาวเทียมแลนท์แซทเห็นได้เหมือนกัน มีอีกชื่อหนึ่งว่า “การัน (Karun)” เป็นอันครบทั้ง 4 สาย แต่เรื่องยังไม่จบเพราะว่าแม่น้ำทั้งสี่ไหลลงอ่าวเปอร์เซีย แต่พระคัมภีร์บอกว่าน้ำมาจากสวนเอเดนไหลลงสู่แม่น้ำ 4 สายกลับเป็นตรงกันข้าม ซึ่งเรื่องนี้ผู้เชี่ยวชาญพระคัมภีร์ อิบราฮิม สไปเซอร์ ได้ให้คำอธิบายซึ่งช่วยให้เราเข้าใจได้มากทีเดียว เพราะว่าในสมัยนั้นเมื่อครั้งที่อ่าวเปอร์เซียนยังแห้งมาถึงช่องแคบเฮอร์มุช บรรดากระแสน้ำจะต้องไหลย้อนออกจากบริเวณสวนในบางปี
จากแผนที่เขาระบุไว้ว่าแม่น้ำมีทั้งหมด 4 สาย แต่ปัจจุบันเหลือแค่ 2 สาย top ตามระบบแม่น้ำตามตัวอักษร เราจะพบที่ตั้งสวนเอเดนที่แท้จริงว่าอยู่ตรงไหน แต่เนื่องจากสภาวะและความแห้งแล้ง และการเปลี่ยนทางน้ำตามระยะเวลาทางภูมิศาสตร์ ทำให้สวนเอเดนมีข้อสรุปที่อยากขึ้นว่าอยู่ตรงไหนที่แท้จริง แต่ก็ทำให้เรารู้ว่าอยู่บริเวณไหนเท่านั้นเอง ซึ่งตามหลักฐานก็จะมีโบราณคดีศิลาจารึกของพวกเมโสโปเตเมีย หรือหลักฐานอื่นๆ โดยใช้ดาวเทียมของ google เข้าไปดูภาพถ่ายก็จะทำให้คนพบที่ตั้งจริงๆคร่าวๆ ทำให้รู้ว่าที่ตั้งจริงของสวนเอเดนอยู่รอยต่อหรือชายแดนระหว่างประเทศอิรักและประเทศอิหร่าน ก็ยังต้องหากันต่อไป แต่ข้อสรุปและข้อสมมติฐานนี้เป็นจริงที่สุด
2
เรียนรู้อดีตลิขิตอนาคต
1
โฆษณา