Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ทัศน์ริมทาง
•
ติดตาม
18 มี.ค. 2021 เวลา 03:50 • ปรัชญา
ทำบุญ "ศูนย์" บาท
"ทำบุญ" "ทำทาน" คำคุ้นเคยของคนไทย แต่ยังมีการเข้าใจผิดกันอยู่มากว่าทำบุญต้องถวายของพระ ต้องทำบุญกับพระเท่านั้นถึงจะได้บุญ ส่วนการทำทานเป็นการให้กับคนยากจน ที่สับสนกันอย่างนี้นั้นเนื่องจากคนไทยมักไปทำทานที่วัดในวันพระ ซึ่งจะมีรับศีล ฟังธรรม จึงถือว่าทำบุญอย่างอื่นด้วย นอกจากการทำทาน ครั้นจะบอกว่าทำทานก็ไม่ครบ จึงบอกว่าทำบุญต่อมากลายเป็นทำบุญทำทานไป
📷 line today
แท้จริงแล้ว การทำทานนั้นเป็นเพียงวิธีหนึ่งในการทำบุญ พระพุทธเจ้าทรงแสดงวิธีทำบุญไว้ 3 ทางคือ ทาน ศีล ภาวนา ภายหลังพระอรรถกถาจารย์(พระอาจารย์ผู้เรียบเรียงคัมภีร์ตามความหมายพุทธพจน์ในพระไตรปิฎก) ได้อธิบายเพิ่มเติมถึงวิธีทำบุญอีก 7 วิธี รวมทั้งหมดเป็น 10 วิธี หรือที่รู้จักกันว่า"บุญกิริยาวัตถุ 10"
ก่อนที่จะกล่าวถึงวิธีทำบุญ 10 อย่างนั้น ขอให้ความหมายของคำว่า "บุญ" พอสังเขปเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจที่มากขึ้น
บุญ มาจากศัพท์ภาษาบาลีว่า "ปุญฺญ" แปลในสองความหมายหลัก
1.บุญ(ที่เป็นเหตุ) แปลว่า ชำระ = ทำให้หมดจด = ทำให้สะอาด จากกิเลส ราคะ โทสะ โมหะ
2.บุญ(ที่เป็นผล) แปลว่า ความสุข
วิธีทำบุญ 10 อย่างในพระพุทธศาสนา
1) ทานมัย = การให้ การบริจาคสิ่งของต่างๆ การให้อภัย รวมถึงการให้ธรรมะเป็นทานด้วย การทำบุญวิธีนี้เป็นการลดความเห็นแก่ตัว ลดการยึดติดในวัตถุ ทั้งยังช่วยลดความอดอยาก ความยากจน ช่องว่างของสังคม เช่น การมอบทุนการศึกษาให้กับเด็กยากไร้ การมอบเงินทุน เครื่องมือทำมาหากินสำหรับการประกอบอาชีพ การมอบพื้นที่ให้ได้แสดงความสามารถต่อสาธารณะ การบริจาคทรัพย์สิน เงินทอง เสื้อผ้า สิ่งของ ยารักษาโรค ฯลฯ
2) ศีลมัย = รักษาศีล เช่น ศีล 5 ศีล 8 เป็นการฝึกฝนตนเอง ลด ละ เลิกความชั่ว ทางกาย ทางวาจา ไม่ให้ไปเบียดเบียนใคร ทั้งนี้การทำบุญด้วยการรักษาศีลนี้ช่วยแก้ปัญหาสังคมได้มากทั้งปัญหาการทำร้ายร่างกาย ตีรันฟันแทง การฆาตกรรม การลักลอบฆ่าสัตว์ หรือแม้กระทั่งการทำลายสิ่งแวดล้อมเพราะหากคิดทบทวนแล้วมนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศโลก การทำลายสิ่งแวดล้อมก็เท่ากับการทำลายที่อยู่ของมนุษย์และสัตว์ทั้งหมด เท่ากับว่าทำร้ายและเบียดเบียนสิ่งมีชีวิตทั้งทางตรงและทางอ้อม การลักขโมย ฉก ชิง วิ่งราว ฉ้อโกงหรือการทุจริตต่างๆ ปัญหาชู้สาว การข่มขืน การล่วงละเมิดทางเพศ ปัญหาการหลอกลวงต้มตุ๋น แก๊ง 18 มงกุฎ รวมถึงปัญหาการติดยาเสพติด เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ฯลฯ
3) ภาวนามัย = การขัดเกลาจิตใจตนเอง ด้วยการสวดมนต์ ทำสมาธิกัมมัฏฐาน เจริญวิปัสสนา เพื่อพัฒนาปัญญาให้รู้โลกตามความเป็นจริง ทำให้มีจิตใจที่เข้มแข็ง มีพลังงานภายในที่ดีพร้อมจะรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้น
4) อปจายนมัย = อ่อนน้อมถ่อมตน รู้จักให้เกียรติคนอื่นโดยคุณวุฒิ วัยวุฒิ ชาติวุฒิ โดยศาสนาพุทธให้ความสำคัญกับคุณวุฒิมากที่สุด การทำบุญด้วยวิธีนี้จะทำให้จิตใจอ่อนโยน ไม่แข็งกระด้าง เย่อหยิ่ง ถือตน
ทำให้เกิดสังคมที่คนกล้าว่ากล่าวตักเตือนกันในทางที่ดี เพราะถ้าหากใครๆต่างถือตัว ต่างก็ยึดติดความคิดของตน ย่อมก่อเกิดเป็นสังคมตัวใครตัวมัน เพราะเมื่อตักเตือนไปไม่ฟังกลายเป็นทะเลาะวิวาท มีเรื่องกันไป การอ่อนน้อมจึงยังเป็นสิ่งที่ดีงามเพราะมันไม่ได้หมายถึงว่าคนๆนั้นต่ำต้อยกว่าคนอื่นจึงต้องคอยเคารพนบนอบ แต่มันแสดงออกถึงจิตใจที่เปิดกว้าง มองเห็นคุณค่า ข้อดีของคนอื่นๆ จึงให้เกียรติและพร้อมที่จะรับฟังคำแนะนำดีๆ
5) ไวยาวัจจมัย = การทำบุญด้วยการช่วยเหลือ รับใช้ ให้บริการ บำเพ็ญประโยชน์แก่คนอื่นๆ และสังคม ช่วยลดความเห็นแก่ตัว เกิดเป็นเครือข่ายที่เข้มแข็ง มีกลุ่มคนที่สร้างประโยชน์แก่สังคม เช่น องค์กร มูลนิธิต่างๆ
6) ปัตติทานมัย = การทำบุญด้วยการเปิดโอกาสให้คนอื่นได้ร่วมบุญ หมายรวมถึงการอุทิศส่วนบุญกุศลด้วย
ถ้าใครๆต่างหวงความวิชา หวงความดี หวงโอกาสก็ไม่เกิดประโยชน์ต่อสังคมในระยะยาว จึงต้องเปิดกว้างสนับสนุนกันและกันให้เก่งให้ดีไปด้วยกัน ตนก็ได้ประโยชน์คนอื่นก็ได้ประโยชน์ ตนก็เก่ง มีเพื่อนมีสังคมที่เก่งและดี สุดท้ายผลดีย่อมเกิดขึ้นกับตนเองด้วย
7) ปัตตานุโมทนามัย = การอนุโมทนา ชื่นชม ยินดี ไม่หมั่นไส้ อิจฉาริษยาความดีของคนอื่น ไม่ใช่ว่าใครดีเด่นเกินหน้าเกินตาอิจฉาริษยา เก็บไฟริษยาให้แผดเผาใจตน บางรายอาจการหนักเป็นต้องขัดแข้งขัดขา หาทางกำจัดคนอื่น จนเกิดเป็นค่านิยมผิดๆ ว่า ทำดีได้แต่อย่าเด่นจะเป็นภัย ถ้าแบบนี้ตนก้จะไม่ก้าวหน้าเพราะแทนที่จะเอาเวลาไปพัฒนาตัวเอง กลับเอาไปจ้องจับผิด จ้องทำร้ายคนอื่น ถ้ามีคนแบบนี้มากๆสังคมก้จะไปไม่ถึงไหนเช่นกัน
8) ธรรมสวนมัย = การฟังธรรม บ่มเพาะสติปัญญาให้งอกงาม ต่อยอดพัฒนาความคิด ความรู้สติปัญญานั้นเกิดขึ้นได้ในหลายทางหนึ่งในนั้นคือการฟัง การอ่าน ซึ่งเป็นการต่อยอดพัฒนาความคิด สร้างวิสัยทัศน์ให้กว้างขึ้น อะไรที่ไม่เข้าใจพอได้ฟังได้อ่านจากแหล่งความรู้ซึ่งในยุคสมัยนี้มีมากมาย เช่น e-book youtube facebook page ต่างๆ แทบจะเรียกได้ว่าธรรมะเดลิเวอรี่ ก็จะเกิดความเข้าใจ อะไรที่เข้าใจอยู่แล้วยิ่งตอกย้ำความเข้าใจให้มากขึ้นไปอีก นำไปสู่การใช้ชีวิตที่ถูกต้องดีงาม
9) ธรรมเทศนามัย = การให้ธรรมะ แสดงข้อคิดเห็น ให้คำแนะนำที่ดีที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น ในชีวิตที่ผ่านมาแต่ละคนต่างมีประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถที่แตกต่างจึงขับเคลื่อนสังคมให้ไปข้างหน้าได้ หากผู้คนต่างแนะนำกันในทางที่ดี สังคมเต็มไปด้วยคนเก่งคนดี สังคมก้าวหน้าและร่มเย็นสร้างวงจร "ยิ่งให้ยิ่งได้" โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ธรรมะเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง การทำบุญด้วยวิธีนี้นั้นจึงก่อให้เกิดคุณค่ามาก เพราะคำพูดบางคำ หนังสือบางเล่มอาจจะเปลี่ยนทัศนคติ การใช้ชีวิตของใครบางคนไปตลอด
10) ทิฏฐุชุกัม = การพัฒนาความคิดความเห็นให้ถูกต้องตามความเป็นจริง ตามครรลองคลองธรรม ไม่ถือทิฏฐิ ไม่ถือความคิดของตนเป็นใหญ่ เข้าใจเหตุและผล เช่น ไปวัดทำบุญถวายอาหารแก่พระสงฆ์ ก็รู้ว่าปัจจัยนั้นจะเป็นประโยชน์ในการทำหน้าที่ของท่าน เป็นเรี่ยวแรงให้ท่านทำศาสนกิจคือการศึกษา ปฏิบัติ เผยแพร่พระธรรมวินัย เมื่อท่านได้รับพลังจากทานนั้นท่านย่อมเจริญในศีล สมาธิ ปัญญา สร้างคุณประโยชน์ต่อสังคม พระศาสนาก็มั่นคง ไม่ใช่ว่าทำทานให้เป็นการค้ากำไรเกินควร ทำแล้วหวังจะได้นั่นได้นี่10เท่า 100 เท่า ซึ่งเป็นทางพอกพูุนกิเลส เหมือนที่หลวงพ่อพุทธทาสท่านได้กล่าวไว้ว่าทำบุญเหมือนอาบน้ำโคลน อาบยังไงก็ไม่สะอาดหมดจดได้ พอคิดเห็นได้แบบนี้ย่อมเห็นคุณค่าที่แท้จริงของสิ่งที่ทำ รู้ว่าทำเพื่ออะไร จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป เกิดเป็นทานที่ประกอบด้วยความเห็นที่ถูกต้องย่อมได้บุญมาก เพราะโลกใบนี้กว้างใหญ่ไม่มีทางที่คนหนึ่งคนจะรู้ จะเข้าใจถูกไปทุกเรื่อง ในเวลาชีวิตที่แสนสั้นนี้ เพราะฉนั้นอย่าได้ทะนงตนไป ถอดแว่นอันเดิมที่ใส่มานานมาขัดถูบ้าง จะได้มองเห็นชัดๆว่าอะไรเป็นอะไร เพราะถ้าใส่ไปนานๆสายตาพังเดี๋ยวเห็นกรงจักรเป็นดอกบัว ลองมองหาเหตุหาผลซึ่งแน่นอนว่าเหตุผลของแต่ละคนต่างกัน ในที่นี้ในฐานะที่เป็นชาวพุทธ บรรทัดฐานของคำว่าความดี ความชั่ว ความถูก ความผิด อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำพระพุทธเจ้าได้ทรงตรัสสอนไว้แล้ว ควรศึกษาทำความเข้าใจนำมาปรับใช้กับชีวิต
การทำบุญนั้นสิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่วัตถุสิ่งของ แม้ไม่มีเงินก็ทำบุญได้ เพราะหนทางทำบุญนั้นมีหลากหลาย
การทำบุญนั้นไม่จำกัดสถานที่ เวลา บุคคล และโอกาส
อยู่ที่ไหนก้ทำบุญได้ ทำแล้วเป็นประโยชน์ทั้งแก่ตนและผู้อื่น
ขึ้นชื่อว่าบุญย่อมยกระดับจิตใจให้สูงขึ้น ให้สะอาดมากขึ้น บริสุทธิ์มากขึ้นจากกิเลสทั้งหลาย และให้ผลเป็นความสุข
พระพุทธพจน์
บุคคลอย่าสำคัญว่าบุญเล็กน้อยจักไม่มาถึง แม้หม้อน้ำยังเต็มด้วยน้ำที่ตกมาทีละหยาดๆได้ฉันใดคนมีบุญเมื่อสะสมบุญแม้ทีละเล็กละน้อยก็เต็มด้วยบุญได้ฉันนั้น
..............。✿。...............
แหล่งข้อมูล🙏🏻🙏🏻
หนังสือ "ก้าวไปในบุญ" (พระพรหมคุณาภรณ์ , ป.อ. ปยุตโต)
https://www.google.com/url?sa=t&source=web&rct=j&url=https://www.watnyanaves.net/uploads/File/books/pdf/on_a_path_of_virtue_thai_eng.pdf&ved=2ahUKEwjCgtrD7rjvAhXj7HMBHbCID0IQFjAFegQIBxAC&usg=AOvVaw2YXDOQ7YHZZpXSyUFhH0NJ&cshid=1616037076723
"บุญกิริยาวัตถุ 10" (สำนักงานกองทุนการสร้างเสริมสุขภาพ)
https://www.google.com/url?sa=t&source=web&rct=j&url=https://www.thaihealth.or.th/Content/20163-%2522%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%25B8%25E0%25B8%258D%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%2596%25E0%25B8%25B8%252010%2522%2520%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25B3%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%25B8%25E0%25B8%258D%252010%2520%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2598%25E0%25B8%25B5.html&ved=2ahUKEwjCgtrD7rjvAhXj7HMBHbCID0IQFjAMegQIChAC&usg=AOvVaw1zuvAyoWl-jetIfkr6nMg6&cshid=1616037076723
"คู่มือการทำบุญอย่างชาญฉลาด ตอนที่ 1" (hs6kjg)
http://www.khonnaruk.com/
บุญคือปัจจัยพื้นฐานของชีวิต : บทวิเคราะห์จากปัญหาในสังคมไทย (ธีรโชติ เกิดแก้ว)
https://www.google.com/url?sa=t&source=web&rct=j&url=http://journal.hcu.ac.th/pdffile/soc7148.pdf&ved=2ahUKEwis28-O8bjvAhUT7XMBHeZOBywQFjAAegQIBRAC&usg=AOvVaw07OTftxPlzCL5KYNo_UnbF
บุญคืออะไร
https://www.winnews.tv/news/24841
2 บันทึก
2
2
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย