17 มี.ค. 2021 เวลา 11:56 • หนังสือ
ส่งการบ้าน ครั้งที่ 3
และหนังสือ
What i talk About
When i talk About … Running

เกร็ดความคิด บนก้าววิ่ง โดย Haruki Murakami
แปลโดย นพดล เวชสวัสดิ์
1
ได้หนังสือเล่มนี้มาตั้งแต่ปี 2552 เป็นเล่มที่มีลายเซ็นของคุณนพดลผู้แปล ซึ่งเซ็นให้กับเพื่อนคนนึง และเพื่อนคนนั้นก็มอบให้ต่ออีกที เหตุเพราะได้ตะลุยอ่านทุกเล่มของมุราคามิก่อนหน้ามาเสียจนหมดแล้ว และเมื่อสำนักพิมพ์กำมะหยี่ เลือกนำมาพิมพ์ใหม่หลายเล่ม เพื่อนก็ร่ายยาวชื่อหนังสือมาให้ฟัง แล้วถามว่าเล่มไหนยังไม่ได้อ่าน จะส่งให้
1
แล้วเล่มนี้ก็ตกมาอยู่ในมือ 
แรกเห็นหน้าปก คือภาพมุราคามินักเขียนชื่อดังชาวญี่ปุ่น ถอดเสื้อวิ่งบนถนน ที่มีภาพรถยนต์จาง ๆ อยู่ด้านหลัง บอกตรง ๆ ว่าไม่อยากอ่าน ไม่อินกับเรื่องวิ่งใด ๆ แต่เพื่อนกำชับว่า ลองเปิดอ่านสักหน่อย เล่มนี้อ่านง่ายที่สุดในบรรดาหนังสือของมุราคามิแล้ว อีกทั้งไม่ใช้เป็นบันทึกในเรื่องวิ่งอย่างเดียว แต่รวมบันทึกความคิดของการเป็นนักเขียนเอาไว้ด้วยแบบคละกันไป
เมื่อเปิดใจอ่านก็พบว่า มุราคามิ ไม่เคยทำให้ผิดหวัง แม้จะเป็นบันทึกเรื่องวิ่งและชีวิตนักเขียน แต่ก็มีคารมคมคาย แฝงแง่มุมในการมองชีวิตที่ลึกซึ้ง ไม่แพ้วรรณกรรมเล่มอื่นของเค้า
1
🏃‍♀️🏃‍♀️🏃‍♀️
เมื่อหยิบหนังสือเล่มนี้มาอ่านอีกครั้ง ในวันที่การวิ่งคือส่วนหนึ่งในชีวิตเฉกเช่นมุราคามิ เข้าใจแล้วว่า ที่มุราคามิพูดถึงการออกไปวิ่งทุกวันโดยไม่สนดินฟ้าอากาศนั้นคืออะไร
1
ทุกตัวอักษรในเล่มที่เคยคลางแคลงสงสัย และมีคำถามมากมายหลังจากอ่านจบ ตอนนี้กลับดื่มด่ำซึมซับไปกับอารมณ์ของถ้อยคำที่เล่าถึง ความเจ็บปวดทรมานในกิโลท้าย ๆ ของมาราธอน แล้วลืมมันเสียสิ้นหลังเข้าเส้นชัย พร้อมทั้งวางแผนสำหรับมาราธอนครั้งต่อไปทันที
1
คนเคยโดนมีดบาด ย่อมเข้าใจเมื่อเห็นอีกคนโดนมีดบาดฉันใด

มดในตอนนี้แม้ไม่เข้าใจคนที่วิ่งมาราธอนกลางแดดเปรี้ยงที่กรุงเอเธนเพียงลำพังเพราะนิตยสารอยากสัมภาษณ์และเก็บภาพวิ่ง
(แกก็วิ่งจนครบ 42K ทั้ง ๆ ที่นักข่าวบอกว่าไม่ต้องก็ได้)
แต่ถึงอย่างนั้น มดก็พอจะเข้าใจว่ามันไม่ใช่เรื่องสนุกหรือสดชื่นซะทีเดียว มันมีเรื่องขมขื่นระหว่างทางด้วยเช่นกัน ... มดภูมิใจทุกครั้งที่นึกถึงว่า เราก็ผ่านมันมาแล้ว ถนนสายนั้น ถนนของนักวิ่งระยะไกล ระยะมาราธอน
บางส่วนจากหนังสือ
“เมื่อใดที่ได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์ไม่เป็นธรรม (อย่างน้อยในมุมมองของผม) หรือในยามที่คนบางคนที่ผมคาดว่าเขาจะเข้าใจผม แต่ไม่ยอมเข้าใจ ผมจะออกวิ่งนานกว่าปกติ การวิ่งยาวนาน ดูคล้ายว่าผมจะบั่นและทอนความไม่สบอารมณ์ของผมให้เหนื่อยล้าไปได้”
2
“ผมไม่คิดว่าการวิ่งทุกวันจะเกี่ยวกับจิตใจเด็ดเดี่ยวมุ่งมั่นตรงไหน ผมคิดว่าผมลุกออกมาวิ่งทุกวัน วิ่งต่อเนื่องมานานยี่สิบปีแล้ว เหตุผลสุดสามัญมีเพียงว่า การวิ่งเหมาะกับตัวผม หรืออย่างน้อยที่สุดการวิ่งไม่ทำให้ผมเจ็บปวด มนุษย์เราชอบเรื่องไหนก็จะทำต่อไป ไม่ชอบเรื่องไหนก็เลิกทำ”
3
“ผู้คนหยามหมิ่นคนที่ลุกออกมาวิ่งทุกวัน นักวิ่งที่ยอมทุ่มเททุกอย่างเพื่อจะต่ออายุให้ยืนยาว ผมไม่คิดว่านั่นเป็นเหตุผลหลักของนักวิ่ง นักวิ่งส่วนใหญ่ ไม่ได้วิ่งเพื่อยืดชีวิตตนเองให้ยืนยาว แต่วิ่งเพราะอยากใช้ชีวิตให้เต็มความหมาย หากเราอยากใช้ชีวิตสืบไปนานหลายปี จะเป็นการดีกว่าถ้าใช้ชีวิตโดยมีเป้าหมายชัดเจน”
ส่งการบ้าน Challenge ครั้งที่ 3
Day 4 พัก Day 5 : 7Km
Total 14+7 = 21Km
#BDVRrun
1
ท่านใดที่อ่านมาถึงตอนนี้ร่วมสนุกกับ Challenge นี้กันได้ อ่านรายละเอียดนี้ค่ะ👇👇
ตามไปอ่านรายละเอียดได้ที่นี่เลย
โฆษณา