Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เขียนตามใจ ทำตามชอบ
•
ติดตาม
17 มี.ค. 2021 เวลา 23:09 • บันเทิง
💖”วันทอง” เต็มใจไปกับขุนแผน จริงหรือ? ตอนที่ 4
ถ้าตอนที่แล้วเป็นหนังไซไฟแฟนตาซี
ละคร”วันทอง” (ตอนที่ 6 )นี้ก็เป็น “ดราม่า”!
ฉากบนเรือนไทยขนาดใหญ่ที่มีชานเรือนกว้างขวาง ระหว่างเสาเรือนมีผ้าม่านพลิ้วไหว ปักเป็นรูปผู้ชายเดินป่า ขุนแผนก้าวผ่านห้องบนเรือน สายตาจ้องมองไปที่ม่าน
1
ฉับพลันอารมณ์ก็ร้อนพลุ่งพล่าน ชักดาบฟ้าฟื้น ขึ้นมาฟันผ้าม่าน ...ฉับ...ฉับ .. ฉับ กระจุยกระจายลงไปกองที่พื้น...ไปโกรธขึ้งใครที่ไหนมาพ่อขุนแผน?
ขุนแผน เดินบุกเข้าไปในห้องที่วันทองกับขุนช้างนอนหลับจากต้องมนตร์ เมื่อวันทองลืมตาขึ้นมาก็ตกใจ ขุนแผนฉุดมือให้เดินตามก็อิดออด
ยิ่งเดินถึงม่านที่ตนปักด้วยมือ ถูกฟันขาดเศษผ้าเกลื่อนกลาดห้อง นางก็หลั่งน้ำตา ...น้ำตาแห่งความอัดอั้น ..ความคับแค้น..ความอาลัยในที่เคยอยู่อาศัย ..ผสมปนเปจนจับต้นชนปลายไม่ถูก
🔺วันทอง เต็มใจจะไปกับขุนแผน หรือ จำใจไป?🔺
1
เกิดอะไรขึ้นในบนเรือนขุนช้างในคืนนั้น ไปดูตามบทเสภาต้นฉบับ “ขุนช้างขุนแผน” กันค่ะ
ขุนแผนได้ของดี 3 อย่าง คือ ดาบฟ้าฟื้น ม้าสีหมอก และกุมารทอง มาเรียบร้อยแล้ว ก็ได้แต่นอนเดียวเปลี่ยวใจ .....แต่ไม่ได้คิดถึงวันทองแม้แต่น้อย 😔
กลับรำพึงรำพันถึงแม่ลาวทองที่ถูกพรากไปอยู่ในวัง
และมีอารมณ์โกรธแค้นขุนช้างที่มาเอานางวันทองไปเป็นเมีย จึงตัดสินใจจะเหยียบถ้ำเสือไป”ลัก” วันทองมาจากเรือนของขุนช้างที่สุพรรณบุรี
ก่อนเดินทางก็ได้ไปลานางทองประศรีผู้มารดา ตามธรรมเนียมไทย “ไปลามาไหว้”
แม่ก็ท้วงติงว่า
“💍วันทองหมองแม้นเหมือนแหวนเพชร
แตกเม็ดกระจายสิ้นเป็นสองสาม
จะผูกเรือนก็ไม่รับกับเรือนงาม
แม่จึงห้ามหวงเจ้าเพราะเจ็บใจ”💍
ในสายตาของคนทั่วไป หรือแม้แต่แม่สามี ก็ยังคิดว่าวันทองมัวหมองเหมือนเพชรที่แตกเป็นเสี่ยง ไม่คู่ควรกับเรือนแหวนงามอย่างขุนแผนอีกต่อไป
🚩มีใครเคยมองถึงในใจของวันทองบ้างไหม? ว่า เหตุที่ต้องไปเป็นเมียขุนช้าง ก็เพราะ แม่ตัวไปยกให้โดยวันทองไม่เต็มใจ
ความดีใจที่ขุนแผนกลับจากทำศึกอย่างปลอดภัย กลายเป็นความผิดหวังอย่างหนักเมื่อขุนแผนพาลาวทองกลับมาด้วย
เกิดเรื่องวิวาทกันจนขุนแผนพาลาวทองหุนหันออกไปจากบ้านโดยแทบไม่หันกลับมาเลย
จิตใจของวันทองสาวแรกรุ่น กับ รักครั้งแรกมันได้แตกสลายไปแล้ว 💔....และต้องตกเป็นเมียของขุนช้างในที่สุด เพราะ แม่เป็นผู้พาไปให้ถึงเรือน
เธอทำใจว่าขุนแผนเป็นของคนอื่นไปแล้ว และก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ภรรยาที่ดีของขุนช้าง ชีวิตกำลังจะเข้าที่เข้าทาง
คราวนี้ขุนแผนจะไปลักตัวกลับมา เคยคิดถึงหัวอกหัวใจของวันทองบ้างไหมว่า เต็มใจจะกลับมาอยู่ด้วยหรือเปล่า🚩?
โดยไม่ฟังคำคัดค้านของแม่ ขุนแผนก็ตัดสินใจออกเดินทางไปเรือนขุนช้างในค่ำคืนวันหนึ่ง
🐎ขี่ม้าสีหมอกนำโหงพรายน้อยใหญ่มาทั้งโขยง👻💀☠️🙀
🔺”จบจับฟ้าฟื้นแล้วยืนกราย
บ่ายเลี่ยงผีหลวงกาละไทย
ลงบันไดไปขึ้นสีหมอกม้า
เรียกโหงพรายมาทั้งน้อยใหญ่”🔺
ถึงบ้านขุนช้างเป็นบ้านใหญ่โต ตกแต่งสวยงามตามแบบเศรษฐีในสมัยนั้น หลังจากมีการต่อสู้กับนางพรายจนแตกฮือไปแล้วขุนแผนก็กระโจนลงไปท่ามกลางลานดอกไม้บนชานเรือน
เรือนไทยภาคกลาง
บทเสภาตอนชมเรือนขุนช้างถือว่าเป็นบทพรรณาโวหารชั้นเยี่ยมบทหนึ่งทีเดียว ขอยกทั้งบทกวีมาให้อ่านกันค่ะ
๏ 🌿โจนลงกลางชานร้านดอกไม้
ของขุนช้างปลูกไว้อยู่ดาษดื่น
รวยรสเกสรเมื่อค่อนคืน
ชื่นชื่นลมชายสบายใจ
กระถางแถวแก้วเกดพิกุลแกม
ยี่สุ่นแซมมะสังดัดดูไสว
สมอรัดดัดทรงสมละไม
ตะขบข่อยคัดไว้จังหวะกัน
ตะโกนาทิ้งกิ่งประกับยอด
แทงทวยทอดอินพรมนมสวรรค์
บ้างผลิดอกออกช่อขึ้นชูชัน
แสงพระจันทร์จับแจ่มกระจ่างตา
ยี่สุ่น มะลิซ้อน สายหยุด
ยี่สุ่นกุหลาบมะลิซ้อน
ซ่อนชู้ชูกลิ่นถวิลหา
ลำดวนกวนใจให้ไคลคลา
สาวหยุดหยุดช้าแล้วยืนชม
ถัดถึงกระถางอ่างน้ำ
ปลาทองว่ายคลํ่าเคล้าคลึงสม
พ่นน้ำดำลอยถอยจม
น่าชมชักคู่อยู่เคียงกัน
บ้างแหวกจอกออกช่องภูเขาเคียง
วัดเหวี่ยงแว้งหางระเหิดหัน
บ้างกินไคลไล่เคล้าพัลวัน
ถัดนั้นแอกไถละไมงอน
กะดึงพรวนล้วนสักหลาดทับ
ดาวประดับดวงเด่นดูสลอน
สลักเสลาเกลาเกลี้ยงอรชร
เชือกใช้ไว้ซ้อนสลับกัน
เครื่องม้าดาดาษจังหวะวาง
เครื่องช้างสารพัดจะจัดสรร
ขอครํ่าด้ามพลองทองพัน
ถัดนั้นย่างเยื้องชำเลืองมา”🌿
🍃🌺สวนกระถางที่จัดแต่งอย่างใส่ใจแบบนี้ คงจะเป็นฝีมือการดูแลของนางวันทองนั่นแหละ แสดงว่านางก็พอจะมีความสุขสำราญใจในบ้านหลังนี้พอควรล่ะค่ะ🍃🌺
🔺ขุนแผนขึ้นบ้านไหนจะต้องได้เมียเพิ่มอีกคนทุกที ครั้งที่ขึ้นบ้านนางพิมก็ได้นางสายทองพี่เลี้ยง ครั้งนี้ขึ้นบ้านขุนช้างก็แวะเข้าห้องนางแก้วกิริยาผู้เป็นทาสชั้นสูงของบ้านนี้ก่อน...มีข้ออ้างว่าไม่รู้ว่านางวันทองอยู่ห้องไหน😟
แก้วกิริยา ในละคร”วันทอง”
☘️”พี่คิดว่าวันทองเฝ้ามองเมียง
ต่อนั่งเคียงลงจึงรู้ว่าผิดตัว
ไม่แผกผิดกันสักนิดเจียวนะน้อง
พี่คิดว่าวันทองจึงต้องทั่ว
ได้ลักจูบลูบไล้ไม่คิดกลัว
ผิดตัวเกินแล้วอย่าโกรธา
ขออภัยเถิดมิใช่เจ้าวันทอง
นิจจาน้องอย่าสะเทินเมินหน้า
นี่เจ้าเป็นอะไรกันอย่าฉันทา
จึงมาอยู่เคหาของขุนช้าง ☘️”
นางตอบว่า เป็นลูกของพระสุโขทัย พ่อเอามาใช้หนี้ ให้เป็นทาสในเรือนขุนช้าง นางถ่อมตนว่าเป็นคนต่ำต้อย ชื่อแก้วกิริยา
“เต่าเตี้ยดอกอย่าต่อให้ตีนสูง
มิใช่ยูงจะมาย้อมไม่เห็นขัน
หิ่งห้อยฤๅจะแข่งแสงพระจันทร์
อย่าปั้นน้ำให้หลงตะลึงเงา”
คุยกันไปคุยกันมาก็จบลงอย่างนี้ค่ะ
“💓พี่จะมอบเสน่ห์ไว้ที่ในนาง
อย่าระคางข้องแค้นระคายเคือง
ถ้าพี่ลวงน้องให้หมองสัตย์
จงวิบัติเกิดเข็ญให้เป็นเนื่อง
สารพัดวิชาสง่าเปลือง
เจ้าเนื้อเหลืองดังทองมาทาบทับ
ว่าพลางทางเปลื้องเครื่องคาด
แขวนพาดฉากลงประจงจับ
อุ้มนางวางตักสะพักรับ
ก็ทอดทับระทวยลงดังท่อนทอง
พระพายชายพัดบุปผาชาติ
เกสรสาดหอมกลบตรลบห้อง
ริ้วริ้วปลิวชายสไบกรอง
พระจันทร์ผันผยองอยู่ยับยับ
พระอาทิตย์ชิงดวงพระจันทร์เด่น
ดาวกระเด็นใกล้เดือนดาราดับ
หิ่งห้อยพร้อยไม้ไหวระยับ
แมลงทับท่องเที่ยวสะเทือนดง”💓
ขุนแผน ยืนหน้าห้องแก้วกิริยา
ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช เขียนไว้ใน หนังสือ ขุนช้างขุนแผน ฉบับอ่านใหม่ไว้ว่า “ผมเคยได้ยินท่านผู้รู้กล่าวกันว่า เสภาขุนช้างขุนแผน ตอนขุนแผนขึ้นเรือนขุนช้างนี้ เป็นพระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย หรืออย่างน้อยก็มีพระราชนิพนธ์ปนอยู่ด้วย” พระองค์ท่านทรงเป็นผู้ที่รักสวยรักงามโปรดการแต่งสวน จึงบรรยายสวนไทยบนชานเรือนด้วยถ้อยคำงดงามดังมองเห็นภาพ
ส่วนกลอนข้างต้นตอนที่ขุนแผนได้นางแก้วกิริยานั้นก็ เป็นกลอนที่ไพเราะ น่าประทับใจ รวมทั้งบทอัศจรรย์ที่แสนจะสุภาพ โรแมนติกหอมตลบอบอวลด้วยกลิ่นมวลบุปผา ใต้แสงพระจันทร์และลมโชย
เมื่อนางแก้วกิริยาชี้ทางไปห้องนางวันทองให้แล้ว ขุนแผนก็เดินผ่านม่านกั้นถึง 3 ชั้นกว่าจะถึงห้อง
“☀️ม่านนี้ฝีมือวันทองทำ
จำได้ไม่ผิดนัยน์ตาพี่
เส้นไหมแม้นเขียนแนบเนียนดี
สิ้นฝีมือแล้วแต่นางเดียว
เจ้าปักเป็นป่าพนาเวศ
ขอบเขตเขาคลุ้มชอุ่มเขียว
รุกขชาติดาษใบระบัดเรียว
พริ้งเพรียวดอกดกระดะดวง
ปักเป็นมยุราลงรำร่อน
ฝ่ายฟ้อนอยู่บนยอดภูเขาหลวง
แผ่หางกางปีกเป็นพุ่มพวง
ชะนีหน่วงเหนี่ยวไม้ชม้อยตา
ปักเป็นหิมพานต์ตระหง่านงาม
อร่ามรูปพระสุเมรุภูผา
วินันตกหัศกันเป็นหลั่นมา
การวิกอิสินธรยุคุนธร
อากาศคงคาชลาสินธุ์
มุจลินท์ห้าแถวแนวสลอน
ไกรลาศสะอาดเอี่ยมอรชร
ฝูงกินนรคนธรรพ์วิทยา
ลงเล่นน้ำดำดั้นอโนดาต
ใสสะอาดเยือกเย็นเห็นขอบผา
หมู่มังกรล่อแก้วแพรวพรายตา
ทัศนารำลึกถึงวันทอง”🌿
ขุนแผนจำได้ว่าเป็นม่านฝีมือนางวันทองปัก ก็ใช้ดาบฟันฉับม่านทั้ง 3 ชั้น จนขาดรุ่งริ่ง ดูสิคะ..รู้ทั้งรู้ว่าวันทองปักเอง ยังฟาดฟันกระจุย....ด้วยจิตใจที่คิดเคียดแค้นขุนช้าง...
ยังไม่พอ ...จะเข้าไปฟันขุนช้างให้ตาย แต่เดชะบุญกุมารทองมาห้ามไว้ได้ทัน
🔺”ถีบตกเตียงคว่ำดำมอซอ
เอาหม้อผูกคอเข้าสองใบ
ทำขุนช้างแล้วก็ย่างขึ้นบนเตียง
เคียงนางพลางทอดถอนใจใหญ่
โอ้เจ้าวันทองหมองมัวไป
ลูบไล้อ่อนอุ่นละมุนมือ
มือพี่อย่างนี้ดอกควรต้อง
กับเนื้อน้องนุ่มนิ่มควรจะถือ
ถนอมรักหนักนิดหนึ่งไม่ครือ
แต่อุ้งมือค่อยประทับดังทองเปลว”🔺
ภาพจากพิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย MOCA
🎈ตอนนั้นทั้งขุนช้าง และวันทองต้องมนตร์ขุนแผน ยังหลับใหลสลึมสลืออยู่ วันทองเอามือลูบคลำดูร่างสะโอดสะองอย่างนี้ไม่ใช่ขุนช้างนี่นา!
๏ 🌿”ครานั้นวันทองผ่องโสภา
ฟังเสียงเจรจาไม่จำได้
เสียงกระเส่ากระซิบยิ่งเสียวใจ
ลูบไล้อกอ่อนสะเอวบาง
นิ่มนิ่มเนื้อน้อยประหลาดนัก
ครั่นจะทักเกรงผิดให้คิดหมาง
แคลงคลำอกเลี่ยนตลอดคาง
หอมกระแจะจันทน์นางยิ่งแหนงใจ
ขุนช้างบางแบบอย่างนื้ฤๅ
แต่ข้อมือเกินกำหารอบไม่
ผวาตื่นฟื้นตัวด้วยตกใจ
คว้าไปก็ปะเจ้าขุนช้าง
ทูนหัวผัวรักไม่ลืมตา
ทำไมมานอนกลิ้งอยู่พื้นล่าง
ปลุกสั่นหวั่นไหวนํ้าใจนาง
นํ้าตาพรูพรูพร่างลงพรายตา”🌿
หลังจากนั้นก็เป็นบทพร่ำพรรณนาของคนที่เคยรักกัน แต่มาหมางเมินต่างคนต่างมีใหม่ นางวันทองเป็นเมียขุนช้างอยู่ดีๆ ให้กลับมาคืนดีกับขุนแผนง่ายๆได้อย่างไร
🎈สุดท้ายขุนแผนก็ต้องใช้ไม้ตายค่ะ เป็นครั้งแรกที่ต้องใช้เวทมนต์คาถาทำให้นางวันทองรัก เป่าคาถามหาละลวย จนนางตกลงเดินตามขุนแผนออกไปโดยดี🎈
แต่ขอเก็บข้าวของก่อน เก็บไปก็อาลัยชีวิตที่เคยเป็นปกติสุข ทั้งบ้านเรือน สวนดอกไม้ในกระถางที่เคยชื่นชม แต่นี้จะไปชมต้นไม้ใหญ่ในป่าแทน
🌿”ถึงกลางนอกชานละลานจิตร
ตะลึงคิดลังเลดูเคหา
แล้วชำเลืองเยื้องย่างถึงอ่างปลา
ชะโงกหน้ามือช้อนมาชมชู
กลมกลมสมอย่างตละปั้น
บ้างว่ายหันเหวี่ยงหางกระทั่งหู
ถึงกระถางต้นไม้ชายตาดู
เป็นคู่คู่ชูช่ออรชร
มะขามโพรงโค้งคู้เป็นข้อศอก
ฝักกรอกแห้งเกราะกะเทาะล่อน
จันทน์หอมจันทน์คณาจะลาจร
มะลิซ้อนซ่อนชู้อยู่จงดี
ลำดวนเอ๋ยจะด่วนไปก่อนแล้ว
เกดแก้วพิกุลยี่สุ่นสี
จะโรยร้างห่างสิ้นกลิ่นมาลี
จำปีเอ๋ยกี่ปีจะมาพบ
ที่มีกลิ่นก็จะคลายหายหอม
จะพลอยตรอมเหือดสิ้นกลิ่นตรลบ
ที่มีดอกก็จะวายระคายครบ
จะเหี่ยวแห้งเซาซบสลบไป
ต้นน้อยๆ ลูกย้อยระย้าดี
ตั้งแต่นี้จะไปชมต้นไม้ใหญ่”🌿
นางวันทองยังอาลัยรักขุนช้างที่ยังต้องมนต์นอนสลบไสลอยู่ นางได้กินอยู่สบายบนเรือนนี้กับขุนช้างก็ย่อมมีความรักความผูกพันกันอยู่บ้าง ไม่ได้อยากจะไปกับขุนแผนสักเท่าไร
🎈ขุนแผนพาวันทองขึ้นม้าสีหมอกขี่หายเข้าป่า มีผีพรายตามไปเป็นพรวนเช่นเคย🎈
🔺พินิจละคร🔺
ผู้เขียนบทละคร”วันทอง” ใช้วิธีนำเสนอโดย ดำเนินเรื่องผ่านการตัดสินคดีบนศาลาลูกขุน
มีตัวละครที่เพิ่มขึ้น คือ พระมเหสีของพระพันวษา ชื่อ พระมเหสีสุริยวงศาเทวี
ซึ่งมีเขียนไว้จริงในหนังสือ “คำให้การชาวกรุงเก่า” แต่เรื่องราวที่เหลือนั้นแต่งเติมทั้งหมดค่ะ
1
โดยให้พระมเหสีมีลักษณะนิสัยที่ มีความเห็นเป็นตัวของตัวเอง และเคยรู้สึกโกรธและเสียใจเมื่อพระพันวษาสมัยที่เป็นอุปราชไปมีนางสนม จนถึงกับเดินตกบันไดจนแท้ง
คิดว่า ผู้เขียนบทต้องการนำเสนอว่า ที่จริงผู้หญิงสมัยโน้นไม่ว่าจะเป็นชนชั้นไหน ก็ย่อมมีความรู้สึกอยากที่เป็นหนึ่งเดียวในใจสามีทั้งนั้น เพียงแต่ไม่มีใครกล้าแสดงออก หรือ ต้องสู้ทนฝืนกลืนกล้ำ ปรับตัวปรับใจกันไป
ตัวละครที่แต่งเสริมขึ้นมาอีกคน คือ”น้อย”ผู้เป็นตัวแทนชาวบ้านธรรมดาที่สามีมีเมียสาวอีกคน และพยายามกดน้อยเอาไว้ โดยห้ามมาฟังการไต่สวนคดีนางวันทอง เพราะกลัวจะเอาเป็นแบบอย่างกระด้างกระเดื่อง
🔺ผู้หญิงในสมัยอยุธยาทุกชนชั้น ตั้งแต่ชนชั้นสูง พ่อค้าเศรษฐี หรือชาวบ้านธรรมดา ล้วนไม่มีสิทธิ์มีเสียง เมื่อเป็นลูกอยู่ในโอวาทพ่อแม่ เมื่อแต่งงานก็อยู่ในอาณัติของสามี🔺
วันทองจึงเป็นผู้ที่ “🚩มาก่อนกาลเวลา” 🚩มีความคิดและมีความเห็น แสดงตัวตนของตนเองเป็นที่สนใจของชาวบ้านว่า พระพันวษาจะตัดสินคดีอย่างไร
เพราะไม่ได้มีผลแค่ คน 3 คน เท่านั้น แต่สะเทือนไปถึงบทบาทผู้หญิงทุกชนชั้นในสังคมอยุธยา
☀️นับว่าผู้เขียนบทกล้านำเสนอในแนวใหม่แต่อิงในเรื่องเดิม ก็ต้องติดตามกันต่อไปค่ะ
1 บันทึก
21
4
4
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
พินิจละคร “วันทอง”
1
21
4
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย