17 มี.ค. 2021 เวลา 13:20 • หุ้น & เศรษฐกิจ
จับตาหุ้นกลุ่ม “บริหารสินทรัพย์” คาดปี 2021 เริ่มเห็นการกลับมาชัดเจน
สวัสดีครับเพื่อนสมาชิก หุ้นพอร์ตระเบิด ทุกๆท่าน ในช่วงนี้พวกเราก็น่าจะทราบกันดีแล้วว่า SET บ้านเรานั้นกำลังเริ่มที่จะมีการฟื้นตัว จากความคาดหวังของวัคซีนและ Fund flow ที่ไหลเข้ามาสู่ตลาด Emerging market
ซึ่งสองปัจจัยนั้นก็ได้ทำให้ดัชนีของ SET ปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แต่ถ้าหากเราย้อนกลับไปสังเกตุดีๆแล้ว จะพบว่ามีหุ้นอยู่กลุ่มนึงที่ไม่ค่อยสะทกสะท้านกันสักเท่าไหร่จากวิกฤติ Covid-19
และหุ้นกลุ่มที่ว่าก็คือกลุ่ม “บริหารสินทรัพย์” นั่นเองครับ เพราะยิ่งเศรษฐกิจไม่ดีและหนี้เสีย(NPL) ในระบบมีเพิ่มมากขึ้นเท่าไหร่ นั่นหมายความว่าราคาของ NPL ยิ่งต่ำลงเท่านั้น
หรือจะเข้าใจได้ง่ายๆว่า Supply ของหนี้เสียกำลังถูกเติมเข้ามามากมายในช่วงวิกฤติ ทำให้หุ้นกลุ่มผู้บริหารสินทรัพย์มีหนี้เสียให้เลือกเยอะขึ้น แถมยังมีราคาที่ถูกลงนั่นเอง
1
ปัจจุบันหุ้นที่อยู่ในกลุ่มบริหารสินทรัพย์ของ SET บ้านเราก็จะมีอยู่ 3 ตัวเด่นๆคือ
BAM(บมจ. บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์)
JMT(บมจ. เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส)
CHAYO(บมจ. ชโย กรุ๊ป)
โดยถ้าหากเราไปดูที่แนวโน้มการซื้อหนี้เข้ามาบริหารเพิ่มของหุ้นทั้ง 3 ตัว ก็จะพบว่าโบรกเกอร์หลายๆสำนักนั้นต่างก็มีมุมมองที่คล้ายกันว่าปีพ.ศ. 2564 น่าจะเป็นปีที่สดใสสำหรับหุ้นกลุ่มนี้
เนื่องจากว่าจำนวนของหนี้เสียทั้งจากปีก่อนและปีนี้ถือว่ามีอยู่เยอะแยะล้นตลาด หรือเกิดการ Over supply อย่างต่อเนื่องนั่นเอง
และถ้าหากพูดถึงหุ้นกลุ่มบริหารสินทรัพย์แล้ว การซื้อหนี้เข้ามาเพิ่มก็จะแค่เป็นเพียงตัวที่สะท้อนแนวโน้ม “การเติบโต” ในอนาคตเท่านั้น ซึ่งถ้าหากอยากทราบแนวโน้มของ “กำไร” พวกเราต้องไปดูที่ยอดการเก็บหนี้ (Cash Collection) กันจะดีกว่าครับ
ส่วนหุ้นทั้ง 3 ตัวก็นี้จะถือว่ามีภาพที่เป็นบวกกันหมดคล้ายๆกัน แต่สิ่งที่แตกต่างกันของ BAM JMT และ CHAYO ก็คือธีมในการลงทุน
1
เนื่องจากว่าถ้าใครชอบหุ้น Growth stock พวกเราก็อยากจะลองให้มองไปยัง JMT ที่จัดว่าเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงในขณะนี้เพราะจากคาดการณ์ล่าสุดนั้นก็พบว่า JMT ยังคงมีปัจจัยบวกรออยู่มากมาย
1
สำหรับปัจจัยบวกอันดับแรกก็คือยอดเก็บเงินสด & รายได้ที่น่าจะยังคงเติบโตเฉลี่ยอยู่ปีละไม่ต่ำกว่า 20% YoY และอัตรากำไรขั้นต้นที่จะเพิ่มขึ้นจากการลดลงของต้นทุนโดยเทคโนโลยี นอกจากนี้ JMT ยังมีระดับ D/E อยู่เพียง 1.5 เท่า(ข้อมูลสิ้นปี 2563) อีกด้วย
มาต่อกันที่พี่ใหญ่อย่าง BAM ซึ่งในปีนี้ถูกหลายๆฝ่ายจัดขึ้นแท่นให้เป็นหุ้นธีม Turn around ที่ถึงแม้ว่าจะต้องเหนื่อยจากการไม่สามารถขายสินทรัพย์ได้ในปีก่อนเนื่องจากกรมบังคับคดีนั้นต้องร่วมมาตรการเพื่อลดการแพร่ระบาดของCovid-19
1
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม BAM นั้นก็ถือว่าผ่านจุดต่ำสุดของวิกฤติในครั้งนี้มาได้เรียบร้อยแล้ว โดยแนวโน้มของผลประกอบการปีพ.ศ. 2564 ก็น่าจะเริ่มได้เห็นการฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจนจากการขาย NPL และ NPA ที่มากกว่าปีก่อน
ส่วนหุ้นตัวสุดท้ายในกลุ่มก็คือ CHAYO หุ้นน้องเล็กสุดในกลุ่มที่จัดว่าแนวโน้มระยะสั้นนั้นก็ยังคงคล้ายๆกับ BAM เพราะสัดส่วนหนี้กว่า 80 - 90% ของทั้งสองบริษัทนี้จะเป็นหนี้ที่เรียกกันว่า Secured loan หรือหนี้ที่เป็นบ้าน เป็นที่ดิน
ดังนั้นการปล่อยขาย Secured loan ของทั้ง CHAYO และ BAM ก็จะต้องพบกับความฝืดเคืองอย่างแน่นอนจากปัญหาของวิกฤติที่เกิดขึ้นมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีความกังวลของเรื่องการแข่งขันกับ Supply บ้านมือ 1 ในตลาดที่มีอยู่สูงอีกด้วย
แต่แนวโน้มธุรกิจในระยะยาวของ CHAYO นั้นก็จะถือว่ายังคงมีความน่าสนใจอยู่ครับ จากเป้าหมายของปีนี้ที่CHAYO จะสร้างการเติบโตให้ได้อย่างน้อย 25% ด้วยการซื้อหนี้เสียเข้ามาอีกราวๆ 10,000 ล้านบาท รวมไปถึงการเพิ่มยอดปล่อยสินเชื่อให้มากขึ้นอีกหลายเท่าตัว
ทั้งหมดที่เราได้กล่าวมาก็คงจะทำให้เพื่อนๆได้มองเห็นทั้งภาพรวม ภาพย่อย และแนวโน้มของ “หุ้นกลุ่มบริหารสินทรัพย์” กันไปพอสมควรแล้ว ส่วนใครที่ยังอยากจะรู้ลึก รู้ละเอียดเกี่ยวกับหุ้นทั้งสามก็คงจะต้องไปศึกษาเพิ่มเติมกันก่อนตัดสินใจลงทุนกันให้ดีๆ
หรือเพื่อนๆคนไหนมีข้อมูลและมุมมองเกี่ยวกับหุ้นกลุ่มนี้ที่แตกต่างจากเรามาแชร์กันก็สามารถพิมกันเข้ามาที่ช่องคอมเม้นด้านล่างนี้ได้เลย แล้วอย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ทีมงานทุกคนด้วยนะครับ
และสำหรับในวันนี้พวกเรา หุ้นพอร์ตระเบิด ก็คงจะต้องบอกลาทุกท่านกันไปก่อน
สวัสดีครับ...
ผู้สนับสนุน
สนใจเปิดบัญชี ค่าคอมหุ้น 0.05 %
TFEX สัญญาละ 25
กับโบรคเกอร์
พร้อมเข้ากลุ่ม VIP
1
แจ้งชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรทาง INBOX ได้เลยครับ
โฆษณา