เพลงรำลึกบาป (La Symphonie Pastorale)
“เสียงเพลงขอเบโธเฟนในท่อนฉากริมลำธารนั้น แท้จริงแล้วย่อมไม่เป็นสิ่งเดียวกับฉากริมลำธารในชีวิตจริงของมนุษย์ เสียงเพลงของบีโธเฟน วาดภาพโลกของเราไม่ใช่อย่างที่เป็นจริง แต่ในแบบที่ควรจะเป็น” ส่วนหนึ่งจากคำกล่าวตาม โดย อติภพ ภัทรเดชไพศาล
โดนตกให้ซื้อหนังสือเล่มนี้มาง่ายๆ ด้วยคำโปรยสละสลวยชวนน่าอ่าน ทำให้อยากรู้ถึงเนื้อเรื่องว่ามีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร
เพลงรำลึกบาป (La Symphonie Pastorale) เขียนโดย อ็องรี ฌีด (André Gide) นักเขียนรางวัลโนเบลปี 1947 หยิบยกนำเสนอเรื่องราวความรักอันผิดบาป และตีแผ่ความสัมพันธ์อันเจ็บปวดของศาสนาจารย์และเด็กสาวพิการทางสายตา ที่ไม่สามารถมองเห็นความสวยงามของโลกใบนี้ได้
*เนื้อหาต่อไปนี้จะมีการเปิดเผยเนื้อเรื่องบางส่วน
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในวันที่ศาสนาจารย์ต้องเดินทางไปโปรดหญิงชราที่กำลังจะตายยังชนบทอันห่างไกล แต่กลับได้รับสิ่งที่ไม่คาดฝันกลับมาด้วย นั่นคือเด็กสาวกำพร้าและตาบอดที่ตนนึกสงสารจึงตัดสินใจรับอุปาระทั้งที่ยังไม่ได้ปรึกษาหรือถามความคิดเห็นจากผู้เป็นภรรยาแม้สักครั้ง
เด็กสาวที่เคยอยู่แต่กับความมืดถูกสอนให้รู้จักมุมมองอีกด้านที่เต็มไปด้วยความสวยงาม โดยมีศาสนาจารย์เป็นผู้ดูแลแนะนำให้ได้ทำ ได้สัมผัส ได้พบเจอ
มีการคิดค้นวิธีการสอนเปรียบเทียบสีสันกับเครื่องดนตรีในวงซิมโฟนี เพื่อให้แยกแยะความแตกต่างของแต่ละสีได้ แต่เมื่อหญิงสาวถามถึงสีขาวศาสนาจารย์กลับหาคำนิยามถึงสีที่ว่าไม่ได้ บอกเพียงว่าสีขาวคือสีที่บริสุทธิ์ ไร้สีสัน มีแต่เพียงแสงสว่าง
ศาสนาจารย์ไม่เคยสอนให้หญิงสาวได้รู้จักความเศร้าหรือสิ่งไม่ดีที่อาจก่อให้เกิดการแปดเปื้อน เมื่อครั้งที่รู้สึกว่าตนกับภรรยามาถึงจุดที่มีความเข้าใจไม่ตรงกัน ก็มีแต่เด็กสาวตาบอดที่มอบแสงสว่างและยอมทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย
เด็กสาวตาบอดเป็นผู้ที่มองเห็นสิ่งสวยงามดั่งสวรรค์สร้างหรืออาจงดงามกว่าความเป็นจริงด้วยซ้ำ เธออยู่ในเฉดสีโทนสว่างไม่เคยเฉียดใกล้ลงสู่สีเข้มที่พอจะทำให้กลายเป็นสีเทาได้ การกระทำของศาสนาจารย์จึงไม่ต่างกับการปกปิดบาปที่ตนเองได้สร้างขึ้น
*Pastoral Symphony ภาพที่ควรจะเป็น ไม่ใช่ภาพแห่งความเป็นจริง
Pastoral Symphony หรือ Symphony No.6 เป็นผลงานที่แปลกประหลาดและผิดที่ผิดทาง Pastoral Symphony หมายถึงการชื่นชมภาพธรรมชาติในชนบท โดยแต่ละท่อนของซิมโฟนีใช้ชื่อที่สื่อถึงฉากอย่างเด่นชัด เช่นในท่อนที่สองระบุว่าเป็น “ฉากริมลำธาร” การรับฟัง Symphony No.6 ผู้ฟังต้องไม่เชื่อมโยง “เสียงเพลง” เข้ากับ “ภาพ” แต่ควรใช้จินตนาการในการรับรู้ถึงความรู้สึก ดั่งที่ศาสนาจารย์ปรารถนาให้เด็กสาวตาบอดไม่เป็น “ฉากริมลำธาร” ในชีวิตจริง
“มีหลายสิ่งหลายอย่างที่อาจจะกระทำได้อย่างง่ายดายหากปราศจากข้อคัดค้านเหลวไหล ซึ่งคนเราสนุกคิดค้นขึ้นมาอ้างในบางครั้ง ตั้งแต่สมัยเมื่อเรายังเป็นเด็ก เราถูกห้ามกี่ครั้งกี่หนไม่ให้ทำสิ่งนี้หรือสิ่งนั้นที่เราจะกระทำ ทั้งนี้เพียงเพราะเราได้ยินการพูดซ้ำซากรอบๆ ตัวว่า ทำไม่ได้...”
Fact Analysis
หากลองมองกลับอีกด้าน ตัวละครอื่นๆ ต่างก็ได้รับผลกระทบจากการกระทำของศาสนาจารย์ ที่เห็นได้ชัดคือผู้เป็นภรรยา ในวันแรกที่สามีได้พาเด็กสาวแปลกหน้าเข้ามาอยู่ด้วย เธอรู้ได้ทันทีว่าเด็กคนนี้จะนำมาซึ่งสิ่งใดในอนาคต แต่หากไม่เคยปริปากคัดค้านอย่างจริงจัง แสดงออกก็เพียงแต่กิริยาไม่พอใจเท่านั้น
What if..
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเธอยืนกรานอย่างหนักแน่นว่าจะไม่รับเลี้ยงเด็กคนนี้ หากตัดไฟตั้งแต่ต้นลมอาจไม่ต้องประสบปัญหาอันน่าเศร้าแบบในตอนท้ายเรื่อง หรือแท้จริงแล้วถึงไม่มีเด็กหญิงผู้กำพร้าและตาบอดเข้ามา ศาสนาจารย์ก็คงมีเหตุผลอื่นมาทำให้ความรักที่มีต่อภรรยานั้นลดน้อยลงไปอยู่ดี
หนังสือเล่มบางเล่มนี้จะทำให้นักอ่านทุกคนได้มองเห็นถึงนิยามของคำว่าบาปได้มากแค่ไหน คงไม่สามารถบอกได้ หากแต่เพียงต้องลองเปิดอ่านซึมซับด้วยตัวเองผ่านตัวอักษรที่ค่อยๆ ร้อยเรียงอย่างลื่นไหล แบบนั้นคงเป็นการให้คำตอบได้ดีที่สุด
เพลงรำลึกบาป
แปลจากหนังสือ La Symphonie Pastoral
ผู้เขียน André Gide
ผู้แปล อำพรรณ โอตระกูล
ออกแบบปก Nakrob Moonmanas
สำนักพิมพ์ อ่าน101
จำนวน 128 หน้า
#เพลงรำลึกบาป #LaSymphoniePastorale #รีวิวหนังสือ #almostmidnight #กระซิบบอกต่อหนังสือเล่มนี้มีอะไร
- 2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
