18 มี.ค. 2021 เวลา 04:59 • ปรัชญา
“ผมไม่ได้เป็นในสิ่งที่เกิดขึ้นกับผม หากผมเป็นในสิ่งที่ผมเลือกจะเป็นเอง”
- คาร์ล ยุง ได้กล่าวไว้
ผมเชื่ออย่างถึงที่สุดตามคำกล่าวของยุง
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับเรา ทั้งอดีต ปัจจุบัน และที่จะเกิดในภายหน้า มันไม่ได้สำคัญเลยว่า “มันเกิดอะไรขึ้น”
ผู้ที่เคยทุกข์ใจจากการโดนทำร้ายในวัยเยาว์จะต้องเป็นคนมีปม เป็นคนมีปัญหาตลอดไปอย่างนั้นเหรอ? เปล่าเลย สิ่งที่เกิดขึ้นมันก็แค่เกิดมาและผ่านไป ไม่มีใครบังคับให้คุณเป็นอะไรได้นอกจากตัวคุณเองบังคับให้คุณเป็น
ไม่มีคำว่า “ทำไม่ได้หรอก” เพราะ สิ่งนั้นจะเป็นจริงก็ด้วยเหตุที่คุณบอกตัวคุณเองเท่านั้น จะกดขี่ข่มเหงตัวเองไปทำไม ทำไมต้องให้อดีตที่ผ่านไปแล้วมาทำให้เราในปัจจุบันย่ำแย่ลง
มันไม่มีเหตุผลที่ใครคนใดคนหนึ่งจะต้องทำลายตัวเองด้วยเหตุผลจากอดีต ทำแล้วมีความสุขเหรอ? ทำแล้วได้อะไรหรอ? ทำแล้วคนที่เราเกลียดชังจะรู้สึกเจ็บจากการทำลายตัวเองของเราหรอ? ลองตอบคำถามเหล่านี้ดูอย่างเปิดใจ อย่างไร้อคติ
ผมพบว่าคนที่ปิดใจ อีโก้มาก และเป็นคนโอหัง มักไม่ได้รับสิ่งดีใดๆเลยในชีวิต แม้มีสิ่งดีที่สุดมาตั้งไว้ตรงหน้าเขาก็จะเดินผ่านไปด้วยว่ามองไม่เห็น คงเพราะ มัวแต่หัวสูงมองบนอยู่เป็นแน่
โฟกัสอะไร?
ในภาพนี้มีแสงจากฟ้าอยู่หลายสี มีต้นไม้หลากพันธุ์ มีทั้งชอบและไม่ชอบ สวยและไม่สวย
ชีวิตเองไม่ได้ต่างจากภาพเช่นนี้ มีความวุ่นวาย ความแตกต่าง ความขัดแย้งอาศัยอยู่ในชีวิตเสมอ หากเราโฟกัสที่จุดใดจุดหนึ่งที่เราเกลียดที่เราไม่ชอบ มันย่อมเป็นชีวิตที่ไม่น่าดูชม และขมขื่น หากแต่เรามองให้รอบด้าน ไม่เลือกที่จะมองเพียงบางส่วน มันก็จะเหมือนกับภาพๆนี้ มีทั้งชอบทั้งไม่ชอบ มีทั้งสุขทั้งทุกข์ ปะปนกันไป เช่นนี้ชีวิตจึงยังเป็นชีวิตอยู่ได้ เพียงเรานั้นเข้าใจชีวิตอย่างที่มันเป็น...
โฆษณา