📖Book Review📖: Anxious people
ขอบคุณภาพจาก www.pinterest.com
เรื่องย่อ: นายตำรวจหนุ่ม Jack และพ่อของเขาที่เป็นทั้งพ่อและเพื่อนร่วมงาน Jim ได้รับเเจ้งเหตุการบุกปล้นธนาคารของผู้ร้ายรายหนึ่ง เมื่อทั้งคู่ได้มาถึงสถานที่เกิดเหตุ ก็ได้รับเเจ้งว่าผู้ร้ายได้หลบหนีเข้าไปในอพาร์ตเมนต์เเห่งหนึ่งในแถวนั้น และได้จับตัวประกันเอาไว้ทั้งหมด 6(?)คน แต่เมื่อผู้ร้ายยอมปล่อยตัวประกันทั้งหมด ทุกคนกลับปลอดภัย
แต่ตัวผู้ร้ายน่ะสิ เขาหายไปไหน?
👉🏼ด้วยความที่ Amazon ได้ให้ผู้ใช้งานได้ทดลอง Audible ฟรี 1 เดือนเต็มๆ ผมก็ประเดิมด้วยการฟังหนังสือเล่มนี้เเหละครับ เล่มเเรกเลย 🤣
บอกได้เลยว่า “ชอบมากๆๆๆ” 😘😘
ทุกท่านอาจจะสงสัยนะครับว่าทำไมชื่อหนังสือกับเรื่องย่อมันดูจะไม่ค่อยเข้ากันสักเท่าไหร่ แต่พอได้อ่านๆไป เข้าถึงตัวละคร ผมก็เริ่มเข้าใจเเล้วเเหละว่าทำไมถึงใช้ชื่อนี้😁
จากการตีความของผม หนังสือเล่มนี้ต้องการจะสื่อว่ามนุษย์เป็นสัตว์สังคม การสื่อสารช่วยทำให้เราเข้าใจเเละอยู่ร่วมกันได้
การไม่เข้าใจกัน การผิดใจกัน ต้นเหตุมันไม่ได้ไกลตัวเลยครับ มันก็แค่การเข้าใจผิด การปล่อยปัญหาให้บานปลายเพราะไม่ยอมปรับความเข้าใจ
ผู้เขียนสร้างตัวละครตัวหนึ่งที่ชื่อว่า Sarah
เป็นเหมือนตัวเเทนของผู้ที่มี “Anxiety” หรือ “ความประหม่า” จนทำให้ก่อให้เกิดปัญหาในชีวิตของเธอหลายๆอย่างตามมา
ความประหม่า( Anxiety) สั้นๆง่ายคือ กลัวจนทำอะไรไม่ถูก จะทำก็กลัวจะล้มเหลว แต่ถ้าไม่ทำก็ร้อนใจอยู่ไม่สุก
ความประหม่าเนี่ยเเหละ ที่ทำให้เกิดอาชญากกรมครั้งนี้ขึ้นมา
เรื่องร้ายเกิดขึ้นหลายๆครั้งก็เพราะอารมณ์ชั่ววูบ😢
ในหนังสือได้เขียนไว้ประโยคนึงว่า “ The truth about all these? It’s all about idiots. We are all trying the best we can.”
ทุกท่านว่าจริงหรือไม่ครับ
จริงๆพวกเราทุกคนก็ล้วนไม่สมประกอบกันทั้งนั้น(หนังสือใช้คำว่า Idiot แต่ผมขอแปลเป็นว่าไม่สมบูรณ์แบบละกันนะ)
ไม่มีใครเลือกตัวเลือกที่ถูกต้องได้ตลอดเวลา
แต่เราเลือกในสิ่ง”ที่เราคิดว่า”ดีที่สุดในตอนนั้น
“We are looking for something to cling on. Something to fight on. Something to look forward to. “
เราทุกคนต่างเฝ้าหา บางสิ่งที่จะยิดติด บางสิ่งที่จะสู้เพื่อ บางสิ่งที่จะรอคอย.
ประโยคด้านบนนี่โดนใจผมมากที่สุดเลยครับ
เอาจริงๆคนเราไม่ได้ต้องการอะไรมากมายขนาดนั้น
แค่เรารู้ว่าปลายทางข้างหน้ามันมีอะไรรอเราอยู่
ไม่ว่าจะดีหรือร้าย
แค่ขอให้มีจุดหมาย
ยังไงวันพรุ่งนี้มันก็ต้องมีความหมาย😁
ขอบคุณที่ติดตามนะครับ🙂
ปล.ผมจะไม่บอกนะครับว่ามันดีตรงไหนหรือแย่ตรงไหน เพราะทุกคำวิจารย์มันมีผลต่อการตัดสินใจมากเกินไปจริงๆ เอาเป็นว่าหนังสือทุกเล่มควรค่าแก่การอ่านทั้งนั้นเเหละครับ
“Even if i knew the world would go to pieces tomorrow,i would still plant my apple tree.”
- Martin Luther King Jr.
“ต่อให้ผมรู้ว่าวันพรุ่งนี้โลกจะแตกเป็นเสี่ยง
แต่ผมก็ยังจะปลูกต้นไม้ต่อไป “
- มาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์
-เรื่องบางเรื่องก็ดีเกินกว่าจะเก็บไว้คนเดียว-:))
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
