25 มี.ค. 2021 เวลา 00:39 • ไอที & แก็ดเจ็ต
รู้จัก Cryptocurrency ที่ชื่อว่า Bitcoin แล้วรู้จัก Crypto Art กันหรือเปล่า❓
1
มาทำความรู้จัก NFT บล๊อคเชนที่ทำให้งานศิลปะแพงระยับ...
1
..
เอ่ยชื่อ Bitcoin ใคร ๆ ในนี้ก็คงรู้จักเพราะส่วนมากก็เป็นนักลงทุนกันอยู่แล้ว
Bitcoin เป็นหนึ่งในสกุลเงินดิจิตอลหรือ Cryptocurrency* จากจำนวนสกุลเงินดิจิตอลมากมายในโลกของเราปัจจุบัน
สาเหตุที่เราคุ้นชื่อมันมากที่สุด
ก็เพราะมันคือสกุลเงินดิจิตอลที่มีส่วนแบ่งในตลาดซื้อ ขายสูงที่สุด
*Cryptocurrency แปลว่าสกุลเงินเข้ารหัส
...
สกุลเงินดิจิตอลเป็นเงินที่ไม่มีรูปธรรม มีแต่นามธรรม กำเนิดขึ้นมาได้ด้วยเทคโนโลยีที่เรียกว่า Blockchain
1
แล้ว Blockchain คืออะไรล่ะ❓😳
4
อธิบายให้เข้าใจแบบสั้น ๆ Blockchain ก็คือเทคโนโลยีดิจิตอลที่สร้างขึ้นมาเพื่อบันทึกข้อมูลต่าง ๆ แบบลบไม่ได้ เพื่อเป็นสิ่งยันยันว่า ธุรกรรมนั้นเกิดขึ้นจริง
1
อย่างเช่น สมมติเป็นการซื้อขาย Bitcoin ระหว่าง นาย A กับนาย B
ใน บล๊อคเชน ก็จะถูกบันทึกว่า นาย A ซื้อ บิทคอยด์ จากนาย B
เมื่อวันที่....
เวลา....
ผ่านระบบ.....
เป็นจำนวน.....
การทำงานของบล๊อคเชนจะประมาณนี้ แต่มันยังมีรายละเอียดอื่น ๆ อีก ที่ค่อนข้างยาว ถ้าจะอธิบาย ขอข้ามไปละกัน..🤭
จากชื่อเรื่องที่ผมถามว่า ..
เมื่อทุกคนค่อนข้างรู้จัก Cryptocurrency ที่ชื่อว่า Bitcoin กันแล้ว แต่คุณรู้จัก Crypto Art กันหรือเปล่า❓
..
อะไรนะ มีคริปโต เคอเรนซี่
แล้วยังมีคริปโต อาร์ตด้วยเหรอ 😳?
..
1
มีสิครับ ณ นาทีนี้ หากคุณสนใจ Bitcoin ผมแนะนำว่าให้คุณสนใจ Crypto Art ด้วย
..
Crypto Art หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า NFT (Non - Fungible Token)
แปลได้ว่า ไฟล์ดิจิตอลที่ไม่อาจถูกแทนที่ได้ หรืองานศิลปบนดิจิตอลที่ไม่อาจแทนที่ได้
1
ปกติตามความเข้าใจของคนทั่วไป ไม่มีไฟล์ดิจิตอลใดบนโลกที่ copy ไม่ได้😂😂
1
ทุกไฟล์ที่ถูกทำเป็นดิจิตอลสามารถทำสำเนาได้หมดไม่ว่าจะเป็นตัวหนังสือ ภาพ เสียง หรือแม้กระทั่งงานศิลปะ
ก็ในเมื่อทุกอย่างมันก๊อปได้หมด คำว่า ไฟล์ดิจิตอลที่ไม่อาจถูกแทนที่ได้ (NFT) มันคืออะไร?
1
จำเรื่องเทคโนโลยี Blockchain ข้างบนได้ไหมครับ ?
บล๊อคเชน ทำงานเป็นระบบบันทึกข้อมูลที่ส่งต่อ ๆ กันโดยทำการบันทึกได้อย่างเดียว ลบไม่ได้ แก้ไขไม่ได้
เพราะฉะนั้นหากใครต้องการบันทึกอะไรเป็นหลักฐานนิรันดรก็ให้บันทึกลงในบล๊อคเชน
ก็ในเมื่อมีคนนำคุณสมบัตินี้ ไปใช้ในการซื้อ ขาย สกุลเงินดิจิตอลได้
ทำไมจะนำไปใช้ในการซื้อขายงานศิลปะดิจิตอลไม่ได้
1
จริงปะ..😌✌️
วิธีการก็คือ..
เมื่อมีคนนำงานศิลปะในรูปแบบดิจิตอล มาเปิดขายหรือเปิดประมูล
หากมีคนสนใจซื้อ ก็สามารถซื้อ NFT ของงานชิ้นนั้นได้
เมื่องานชิ้นนั้นถูกซื้อแล้ว สิ่งที่คนซื้อจะได้ก็คือ การถูกระบุว่าคุณคือเจ้าของ NFT ของงานศิลปะชิ้นนั้นซึ่งมันจะถูกบันทึกลงในบล๊อคเชน
ส่วนลิขสิทธิ์ยังคงเป็นของศิลปินผู้สร้างสรรค์ต่อไป
1
คำถามคือ คนซื้อจะซื้อไฟล์ที่ใคร ๆ ก็ก๊อปปี้ได้ไปทำไม แถมลิขสิทธิ์ก็ไม่ได้ครอบครองอีกด้วย...
คำตอบอยู่ที่บล๊อคเชนครับ
บล๊อคเชนทำให้คนซื้อสามารถเอาไปอวดได้ว่า ข้าคือเจ้าของ NFT ข้าคือคนแรกและคนเดียวไม่เกี่ยวใคร ถ้าไม่เชื่อไปดูได้ในบล๊อคเชน
1
คำว่าเอาไว้อวด ไม่ได้มีเพียงเพื่อความภาคภูมิใจเท่านั้น แต่มันคือการสะสมมูลค่าอย่างหนึ่ง เหมือนการสะสมของที่จับต้องได้จริง ๆ อย่างเช่นรถโบราณ นาฬิกาโบราณ ฯ
ถึงแม้งานศิลปะชิ้นนั้นจะถูกก้อปปี้ไปกี่แสน กี่ล้านครั้งแต่ในเมื่อ NFT ของงานแต่ละชิ้นมีได้แค่คนเดียวเท่านั้น...
มันจึงมีราคา...💰💰💰
อยากรู้ว่ามันมีราคามากขนาดไหน
ขอยกตัวอย่าง งานศิลปะดิจิตอลที่ถูกประมูลไปล่าสุดชื่อว่า Everydays: The First 5000 Day
ของศิลปินที่ชื่อว่า Beeple นั้นถูกประมูลไปในราคาสูงถึง 2,000 ล้านบาท
ภาพ Everydays: The First 5000 Day ของ Beeple
คุณลองนึกภาพนะครับ ภาพนี้ไม่มีอยู่บนผืนผ้าใบหรือกระดาษที่ไหนนะครับ มันอยู่บนดิจิตอล...
ถ้าอยากดูก็ปริ้นออกมา
แต่มีคนยอมซื้อ NFT ภาพชิ้นนี้ในราคาตั้ง 2,000 ล้านบาท😳
1
ขณะนี้ วงการศิลปะกำลังให้ความสนใจนำงานศิลปะในแขนงต่าง ๆ เข้าสู่รูปแบบ NFT กันมากขึ้น
ถือเป็นเทรนด์ดิจิตอลที่น่าจับตามอง เพราะมันเป็นการผนวกเอา ระบบการเงิน เทคโนโลยีและงานศิลปะเข้าไว้ด้วยกัน
ลองคิดดูเอาเองขนาด อีลอน มัสก์ ยังสนใจจะเอาเพลงที่แต่งเองมาขาย NFT เลยครับ🤣🤣
..
อ้างอิง
ภาพจาก freepik.com
ติดตามอ่านบทความได้ที่
โฆษณา