คิดแล้วหนาว หลังหมดเยียวยา คนละครึ่ง เราชนะ ม.33เรารักกัน แล้วอะไรจะตามมา
เราคาดว่ามาตรการเหล่าจะจบลงสิ้นเดือน พ.ค. 64 นี้ (ถ้ารัฐไม่เลื่อน) ซึ่งโควิด19 น่าจะซาลงแล้ว
.
ช่วงโควิดระบาดหนัก ต้องล็อกดาวน์ ส่วนทั้งภาคเกษตร อุตสาหกรรม ธุรกิจต่างๆ ก็ต้องหยุดชะงักด้วย
แต่นับว่าโชคดี ที่ช่วงพีคคนยังคงกักตัวอยู่บ้าน ทำให้การกินเที่ยว จับจ่ายใช้สอยไม่เต็มที่ ทั้งอุปสงค์ อุปทานจึงไม่ไกลกันมาก
แต่ตอนนี้เริ่มกลับมาเป็นปกติแล้วสิ สินค้า อาหารต่างๆ เริ่มเป็นที่ต้องการ เริ่มพากันไปกินบุพเฟ่ต์ เริ่มไปเทียวถ่ายรูปสวยๆ
.
สิ่งที่หลายคนคิดถึงก่อน "เงินเฟ้อ" มาแน่
แต่หนักกว่านั้นคือ "วิกฤตราคาอาหาร" 😫
อย่างที่เรารู้กัน เมื่อป้าขายอาหารตามสั่งขึ้นราคาแล้ว ก็คือขึ้นราคาเลย ไม่มีการปรับลดราคาลงตามสภาพเศรษฐกิจทั้งสิ้น
อย่างน้ำมันยังมีขึ้น มีลง
แต่อาหารตามสั่ง ขึ้นแล้วขึ้นเลยนะหนู ต่อให้ไก่จะราคาถูก น้ำตาลจะราคาลง ป้าก็ยังราคาเดิม เพิ่มขึ้นได้อย่างเดียว
.
ถ้าเงินเฟ้อยังคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ 2% 3%
แต่เวลาค่าอาหารขึ้น คือขึ้นทีละ 5 บาท 10 บาท
ลองนึกภาพ เดิมข้าวจานละ 50 บาท ตอนนี้ราคาขึ้นเป็น 55
ฮันแน่ แพงขึ้น 10% แล้วนะ!!
ประเด็นคือส่วนของค่าอาหารเราสามารถซื้อถูกลงได้ อย่างแย่ที่สุดคือกินแต่มาม่า แต่เราไม่สามารถตัดส่วนนี้ทิ้งได้ เพราะมนุษย์ต้องกิน กิน กิน
.
เราจะสังเกตหลายร้าน รวมทั้งร้านขายของชำ มีการถือโอกาสขึ้นราคาของหน้าตาเฉย แต่ผู้บริโภคไม่รู้ตัวเลย
เพราะเราซื้อมาฟรี / เพราะเราจ่ายครึ่งเดียวไง
เลยไม่รู้สึกว่าราคาแพง!!
.
[พฤติกรรมการใช้เงินของหลายๆ คนเปลี่ยนไป..]
เราพยายามใช้ให้มันหมดๆ
ไม่มีความจำเป็นก็ซื้อตุน
ซื้อของที่เราอยากได้ อยากกินทันทีไม่คิดมาก
หละหลวมเรื่องวางแผนค่าใช้จ่าย
.
เพราะมันฟรีอยู่แล้วหนิ!! มันไม่ใช่เงินฉัน
แต่ความจริงแล้วมันคือเงินเรานั่นแหละ (ฮา)
(ช่วงแรกๆ แมวก็เป็น แต่ช่วงหลังมีสติ)
.
เราจะค่อยๆ เปลี่ยนนิสัยได้ตามทฤษฎี 21 วัน หากทำอะไรซ้ำๆ
แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ถ้า 21 วันนี้คนไทยล้วนใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย..
.
เงินเฟ้อ+วิกฤตราคาอาหาร+พฤติกรรมใช้จ่ายเปลือง
.
บูมไบย่าาา!!! 🤣🤣🤣
ทั้งนี้ส่วนหนึ่งเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของแมว มีสติ่ก่อนใช้เงินนะคะทุกคนนนน เตรียมใจไว้ก่อน แบ่งส่วนเก็บเงินเผื่อของขึ้นราคาด้วยนะ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
