20 มี.ค. 2021 เวลา 03:00 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
รีวิว: I Knew Her Well (1965) - อันที่จริงไม่มีใครรู้จักเธอเลย
ภาพจาก Letterboxd
เรามีโอกาสได้ดูหนังอิตาลีเรื่องนี้ ที่บอกก่อนเลยว่าไม่เคยได้ยินมาก่อนทั้งชื่อเรื่อง นักแสดง และผู้กำกับ เป็นการเสี่ยงดวงสละเวลา 2 ชั่วโมงอันแสนมีค่าในคืนวันศุกร์ไป แต่ผลที่ได้กลับมาก็นับว่าคุ้มพอสมควร
เรื่องนี้จะพาเราไปตามดูชีวิตของ Adriana (Stefania Sandrelli) หญิงสาวช่างฝัน ผู้มีใบหน้าสวยเกินบรรยาย (สวยมากจริงๆ) ที่เราจะได้เห็นเธอใช้ชีวิตอยู่ในเมืองที่ดูรกร้างว่างเปล่า ทำงานเป็นช่างตัดผม ที่ดูจะไม่ได้สนเรื่องผมสักเท่าไร เพราะอันที่จริงเธอมีฝันในใจที่จะเก็บกระเป๋าเข้ามาเป็นดาราในกรุงโรม
ตั้งแต่ช่วงแรกของเรื่องก็จะพอเห็นเทคนิคการเล่าที่ตัดไปตัดมามีแอบงงเล็กน้อยถ้าตามไม่ทัน (ชวนนึกถึงหนังของ Godard) ดูเผิน ๆ เหมือนจะไม่ได้มีพล็อตอะไรมากมาย เท่าที่พอจับได้คือหนังจะพาเราตามไปดูชีวิตรักของ Adriana ที่เปลี่ยนไม่ซ้ำหน้าตลอดเรื่อง
เริ่มตั้งแต่หนุ่มคนแรกอย่าง Dario ที่หลอกเธอมาที่โรงแรม และหนีไปในตอนเช้า ทิ้งไว้เพียงกำไลข้อมือทดแทนค่าห้องพักที่สุดท้ายเธอก็ต้องจ่ายเอง (กำไลนั้นเป็นของที่ Dario ขโมยมา)
หนังก็ผ่านเลยต่อไป เราจะได้เห็นทั้งอาชีพที่เปลี่ยนไป ทรงผม การแต่งตัว และผู้ชาย จนมาถึงจุดสำคัญหนึ่งของเรื่องที่เราจะได้เห็นเธอตื่นมาในห้องของนักเขียนคนหนึ่ง ที่คนดูอย่างเราไม่ได้รับรู้แม้แต่ชื่อของเขา
นักเขียนคนนี้ก็ไม่ต่างจากแฟนหนุ่มคนอื่น ที่มองเธอเป็นเพียงแฟนสาวไม่มีความสำคัญอะไรมากมาย แต่ในซีนนี้ที่ Adriana ไปเจอบันทึกที่นักเขียนคนนี้บรรจงถ้อยคำลงในพิมพ์ดีด ว่าเขาได้เจอกับผู้หญิงคนหนึ่ง พร้อมให้คำนิยามที่เมื่อเอามาสรุปเป็นไทยสั้น ๆ ก็น่าจะตรงกับประโยคว่า "ใช้ชีวิตแบบรักสนุกไปวัน ๆ " ซึ่งตอนแรก Adriana ก็หัวเราะเพราะไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่สุดท้ายเธอก็นึกได้ว่าที่เขียนนั้นคือตัวเธอเอง จุดนี้เป็นเหมือนแรงขับที่ทำให้เธอเริ่มตระหนักถึงชีวิต
สิ่งที่เริ่มจับได้หลังจากดูได้สักพัก ก็คงจะเป็นความโหดร้ายของผู้ชายหลายคนที่มีต่อผู้หญิงแสนไร้เดียงสาคนนี้
หลังจากนั้นเธอก็ถูกกลั่นแกล้งเรื่อยมา และที่เรามองว่าโหดร้ายสุดคงเป็นซีนที่เธอโดนหลอกไปถ่ายหนัง แต่สุดท้ายกลับนำฟุตเทจที่ถ่ายเธอไปล้อเลียนเป็นตลกไปเสียได้ นับว่าโหดร้ายและน่าสงสารสุด ๆ เลยสำหรับเรา
จริง ๆ เราอยากแนะนำให้ไปดูเองมากกว่าเพราะเอามาเล่าค่อนข้างยาก Message ที่หนังจะสื่อเรารู้สึกว่ามันถูกซ่อนลึกอยู่อีกชั้นหนึ่ง เอาเป็นว่าตอนจบก็จะตอบทุกอย่าง
คนที่ภายนอกดูสดใส ร่าเริง ภายในจิตใจของเขาอาจเน่าเฟะจนเกินเยียวยา
สิ่งที่เห็นชัดที่สุดของหนังเรื่องนี้ คงเป็นความโหดร้ายของโลกใบนี้ที่มีต่อผู้หญิงไร้เดียงสา ถูกฉีกร่างอย่างไม่ใยดี เป็นอีกเรื่องที่ต้องดู
โฆษณา