20 มี.ค. 2021 เวลา 06:24 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
“ความรักที่สดใสและซื่อตรงของเด็กหนุ่มสาว ทำให้รู้สึกมีความหวังและอบอุ่นใจทุกครั้ง”
Animation Recommended : From Up On Poppy Hill
1
ภาพจากเรื่อง From up on poppy hill
หากอยากจะหาภาพยนตร์แอนิเมชั่นญี่ปุ่นน้ำดีสักเรื่อง ชื่อของสตูดิโอ Ghibli คงหนีไม่พ้นที่จะต้องถูกหยิบยกมาพูดถึง ภาพยนตร์แอนิเมชั่นอย่าง Spirited away ,My Neighbour Totoro , Howl’s moving castle และอีกหลายๆเรื่องของสตูดิโอนี้ ก็อาจเป็นหนึ่งในแอนิเมชั่นในดวงใจของใครหลายๆคน เป็นการการันตีคุณภาพของสตูดิโอ Ghibli ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นตัวละครที่น่ารักสดใส เนื้อเรื่องที่แสนอบอุ่นหัวใจ ภาพ 2D คลาสสิคสวยๆ หรือเพลงประกอบอันไพเราะ ด้วยองค์ประกอบเหล่านี้จึงทำให้เหล่าคนที่ชอบดูภาพยนตร์แอนิเมชั่นหลงรักได้ไม่ยาก
โดยเนื้อเรื่องแอนิเมชั่นส่วนใหญ่ของ Ghibli มักพูดถึงการก้าวข้ามจากวัยเด็กสู่วัยผู้ใหญ่ ที่เราจะได้เห็นเด็กๆหรือคนวัยหนุ่มสาวแรกรุ่นผู้เป็นตัวละครหลักของเรื่อง ค่อยๆเรียนรู้ความรัก ความหวัง และเติบโตขึ้นในที่สุด
รวมภาพจากภาพยนตร์แอนิเมชั่นของ Studio Ghibli
วันนี้เราจึงอยากแนะนำแอนิเมชั่นที่อาจไม่ได้เป็นที่พูดถึงมากนะ ของสตูดิโอ Ghibli แต่หากใครได้ดูแล้ว จะต้องรู้สึกถึงพลังของวัยหนุ่มสาวที่เรียบง่าย การมีความหวังอันสดใส และคิดถึงความรักอันใสซื่อของตัวเองในวัยแรกรุ่นอย่างแน่นอน
From up on poppy hill (2011)
เป็นเรื่องราวในประเทศญี่ปุ่นประมาณปี 1963 เล่าถึงเรื่องราวความรักของเด็กหนุ่มและเด็กสาววัยเรียน ที่เรียบง่ายแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง
ภาพยนตร์เปิดมาด้วยฉากบ้านบนเนินเขาที่มองเห็นวิวทะเล และเรื่องราวในยามเช้าหลังตื่นนอนของอูมิ มะสึซากิ นางเอกของเรื่อง คลอด้วยเพลงเพราะๆที่เข้ากับบรรยากาศของยุคสมัยนั้นไม่น้อย
บ้านบนเนินเขาของอูมิ
เนื้อเรื่องหลักจะเล่าถึงเหตุการณ์ การพบกันในโรงเรียนของอูมิ และพระเอกของเรานั่นก็คือ ชุน คาซามะ ที่จะมาร่วมกันปกป้องตึกชมรมเก่าที่กำลังจะถูกทุบทิ้งอย่าง ‘ควอเทียร์ละติน’ แม้ภาพยนตร์จะถูกนำเสนอผ่านตัวละครคนรุ่นใหม่ แต่หากดูดีๆแล้วจะเห็นได้ว่ามีแนวคิดอนุรักษ์นิยมอยู่ไม่น้อย ผ่านคำพูดของชุนพระเอกของเรื่องด้วยประโยคที่ว่า
“พวกนายที่สนใจแต่ของใหม่ จนไม่เคยมองย้อนกลับไปในอดีตจะไม่มีวันมีอนาคต”
ด้วยคำพูดนี้ถึงแม้จะเป็นการให้คุณค่ากับสิ่งของในอดีตแต่ในขณะเดียวกันตัวภาพยนต์ก็ได้บอกเล่าความหวังในอนาคตของเหล่าตัวละครเอาไว้ควบคู่กันไปด้วย ทำให้เราเห็นบริบทสังคมในญี่ปุ่นในสมัยหลังสงครามโลกได้อย่างชัดเจนทีเดียว
การพบกันระหว่างอูมิและชุน
ถ้าจะให้พูดตามตรงต้องบอกก่อนเลยว่า From up on poppy hill ไม่ใช่ภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่มีเนื้อเรื่องหวือหวาเท่าไหร่นัก เพราะเนื้อเรื่องส่วนใหญ่เป็นการเล่าเรื่องราวผ่านชีวิตประจำวันของตัวละคร แต่ด้วยความไม่หวือหวานี้เอง กลับทำให้สามารถดึงเสน่ห์ของความสัมพันธ์แต่ละตัวละครออกมาได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
นอกจากเรื่องราวความรักวัยหนุ่มสาวของพระเอกนางเอกแล้ว ในภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องนี้ยังสอดแทรกไปด้วยความรักมิตรภาพระหว่างเพื่อน และความรักความสัมพันธ์อันลึกซึ้งของครอบครัวที่ต้องบอกว่าแม้จะเรียบง่ายแต่อบอุ่นหัวใจจนสามารถดูซ้ำๆได้ไม่เบื่อ
ในส่วนของเพลงประกอบก็เห็นทีจะไม่พูดถึงคงไม่ได้ เพราะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้เราดูภาพยนตร์เรื่องนี้ได้อย่างเพลิดเพลินยิ่งขึ้น เพลงที่ทางสตูดิโอเลือกมาใช้นั้นมันช่างเข้ากับบรรยายของยุคสมัยและขับเน้นวิถีชีวิตของคนยุคนั้นออกมาได้อย่างลงตัวจริงๆ
พูดได้ว่า From up on poppy hill เป็นหนึ่งในแอนิเมชั่นที่ผู้เขียนชื่นชอบเป็นการส่วนตัว และอยากแนะนำให้ทุกคนได้ดู เพราะเป็นการผสมผสานองค์ประกอบหลายๆอย่างที่ลงตัว ใส่ความเชื่อ ความคิด ความสำคัญของอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ได้อย่างไม่น่าอึดอัดใจ ผ่านเรื่องราวความรักใสๆวัยมัธยมที่เกือบจะดราม่าแต่ไม่ดราม่า และเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง หากได้ดูภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องนี้หลังจากวันที่แสนวุ่นวายก็เป็นวิธีเติมพลังวัยหนุ่มสาวให้ชีวิตของเราที่ดีไม่น้อย
ภาพจาก From up on poppy hill
หากใครสนใจสามารถหาดูได้จาก Netflix นะคะ
SaiiKa.
โฆษณา