23 มี.ค. 2021 เวลา 10:00 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
รีวิว Wonder Woman (2017) ภาพยนตร์ฮีโร่หญิงอีกหนึ่งทิศทางของ DC
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาค่าย Warner Bros ได้เผยแพร่ Zack Snyder's Justice League ซึ่งเป็นภาพยนตร์ Justice League ของเวอร์ชันผู้กำกับ Zack Snyder ที่มีความยาวกว่า 4 ชั่วโมง บนช่อง HBO Go ซึ่งมีผู้เข้าไปชมอย่างล้นหลาม เนื่องจากจะมีเนื้อหาแบบจัดเต็มมากกว่าภาพยนตร์ฉบับเดิมที่ฉายเมื่อปี 2017
จักรวาลดีซี หรือ DC Extended Universe เริ่มต้นด้วยความ Dark ตามที่แฟนหนังมากจะพูดถึง ด้วยภาพของโทนหนังที่ดูมืด หม่น แสงน้อย หรือด้านเนื้อเรื่องที่เคร่งเครียด จริงจัง หดหู่ ความขัดแย้งต่างๆ ซึ่งใน Zack Snyder's Justice League ก็จะแสดงถึงสิ่งเหล่านี้มากขึ้น มีการตัดต่อใหม่ ถ่ายบางฉากเพิ่ม เพื่อแก้ไขเสียงวิจารณ์จากเวอร์ชันเดิมที่อาจจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่
ในด้านของงานสร้างและการถ่ายทำ จักรวาลดีซีค่อนข้างที่จะพบกับอุปสรรคมากพอสมควร ผู้เขียนได้ย้อนกลับไปชมภาพยนตร์ที่ค่อนข้างสร้างทิศทางของฮีโร่ที่โดดเด่นอย่าง Wonder Woman ภาคแรกที่ฉายเมื่อปี 2017 อีกครั้ง
ที่มาภาพ Wonder Woman (2017) © Warner Bros
Wonder Woman ได้ผู้กำกับหญิงมากความสามารถอย่าง Patty Jenkins มานำเสนอภาพของฮีโร่ที่เป็น “ผู้หญิง” ซึ่งเป็นหนังเดี่ยวในยุคใหม่ที่แสดงออกถึงความมีพลัง ความกล้า หรือความมีสปิริต สื่อถึงตัวแทนของหญิงได้เป็นอย่างดี รวมถึงฉากแอ็คชันและดราม่าก็ทำมาได้อย่างดีเยี่ยม
ได้คะแนนรีวิวจากเว็บ Rotten Tomatoes จากฝั่งนักวิจารณ์สูงถึง 93% และฝั่งคนดูที่ 83% ทำรายได้รวมทั่วโลกไปมากกว่า 800 ล้านเหรียญสหรัฐ
เรื่องราวของชาวเผ่านักรบหญิง Amazon ที่เป็นเผ่านักรบโบราณที่เกี่ยวข้องกับเทพเจ้า อาศัยอยู่บนเกาะกลางทะเลที่ลับตาจากมนุษย์ แต่แล้ววันหนึ่ง Diana เจ้าหญิงแห่งเกาะได้เติบโตขึ้นและรับรู้ถึงการมีอยู่ของเทพแห่งสงคราม Ares ที่ทำให้มนุษย์โลกเกิดความวุ่นวายและสงครามรุนแรง เธอจึงต้องการที่จะหยุดความขัดแย้งนี้และทำให้โลกกลับสู่ความสงบ
Gal Gadot แสดงบทบาทให้ตัวละครดูมีความสวยสง่า และกล้าหาญ อีกทั้งตัวภาพยนตร์ยังสร้างคาแรคเตอร์ที่มีความน่ารักจากการหลงยุคของตัวละคร ความสับสนภายในโลกที่แปลกไปสำหรับเจ้าหญิงไดอาน่า อีกทั้งยังเกิดเป็นความรักระหว่างนักบินหนุ่ม Steve Trevor (แสดงโดย Chris Pine) ที่ต้องร่วมต่อสู้ไปด้วยกัน
ตัวละคร Wonder Woman มีการตั้งวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนในเป้าหมายที่ว่า จะต้องกำจัดเทพแห่งสงครามเพื่อคืนความสงบสุขแก่มนุษย์ แต่ความจริงแล้วเทพแห่งสงครามไม่ได้อยู่เบื้องหลังความขัดแย้งของมนุษย์ แต่เป็นตัวมนุษย์เองที่สร้างความเกลียดชังแก่กัน ความโลภ ความเห็นแก่ตัวที่ทำให้เกิดเป็นความวุ่นวาย
ภาพยนตร์ทำได้ดีในการแสดงถึงความสับสนของไดอาน่าหลังจากรู้ความจริง ว่าควรจะทำอย่างไร แต่ก็ทำให้เกิดเป็นความเชื่อใหม่ว่า มนุษย์นั้นเพียงหลงผิดและสามารถเปลี่ยนเป็นคนที่ดีได้
ภาพยนตร์ได้สร้างตัวตนของผู้หญิงเป็นตัวอย่างของคนรุ่นใหม่ ในแง่ของการแก้ปัญหา ขจัดความเชื่อที่เป็น Stereotype แบบเดิมๆ หรือภาวะการแสดงออกแห่งความเห็นอกเห็นใจจนกลายเป็นผู้นำที่แน่วแน่มั่นใจ
ผู้เขียนให้คะแนนภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ 9/10 คะแนน ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสที่ดีในการทบทวนเรื่องราว ที่มาที่ไปของฮีโร่หญิงก่อนร่วมศึกใน Justice League.
(หมายเหตุ Wonder Woman เวอร์ชัน Snyder's cut และของ Jenkins นั้น ไม่นับเป็นจักรวาลเดียวกันนะ ตามสัมภาษณ์จาก ผกก.)
โฆษณา