22 มี.ค. 2021 เวลา 08:54 • ความคิดเห็น
ทำไมวัยรุ่นถึงชอบใช้ความรุนแรง?
สัปดาห์ที่ผ่านมาหลายคนคงได้เห็นข่าวนักเรียนชั้นมัธยมในโรงเรียนชื่อดังแถบศรีราชารุมกระทบเพื่อนจนต้องหามเข้าห้องผู้ป่วยวิกฤต หรือจะเป็นข่าววัยรุ่นทำร้ายร่างกายกันจนอาจถึงขั้นคร่าชีวิตอีกฝ่ายก็มีให้เห็นเนือง ๆ ในหน้าสื่อ
ทำไมพวกเขาถึงใช้ความรุนแรง?
ผมไม่มีคำตอบทางงานวิจัยให้ในบทความนี้แต่มีมุมมองจากประสบการณ์ตัวเองมาเล่าให้ฟัง เพราะผมก็เคยเป็นวัยรุ่นมาก่อน (แม้ตอนนี้เด็กหลายคนจะเรียกลุงแล้วก็ตาม)
1.เหตุผลหลัก ๆ น่าจะเป็น "การพิสูจน์ตัวเอง"
1
วัยรุ่นต้องการมีตัวตน เป็นที่ยอมรับให้หมู่ผู้คนที่รายล้อม หรืออย่างน้อยก็ให้หมู่เพื่อน ซึ่งหลายครั้งการพิสูจน์ตัวเองของผู้ชายมันก็ต้องผ่านกระบวนการ "แสดงความเป็นชาย" ด้วยการชกต่อยกันนี่แหละ
สมัยปวช.ผมเรียนโยธาซึ่งไม่รู้ใครกำหนดไว้ว่ามันต้องเป็นอริกับเครื่องกลทุกที่ไป มีครั้งนึงผมเคยโดนฟาดหัวบวมเพราะเพื่อนชวนไปต่อยกับเด็กเครื่องกลนี่แหละ
วันนั้นรูมเมทบอกว่าเพื่อนในรุ่นโทรมาบอกว่ามีเรื่องกับเครื่องกลนัดต่อยกันมือเปล่า 20 ต่อ 20 คน ปัญหาคืออะไรผมก็ไม่รู้แต่ก็เฮโลไปกับเขา ไม่ไปไม่ได้เดี๋ยวเพื่อนว่าปอดแหก
เรานัดกันช่วงใกล้ค่ำใต้สะพานพระราม7 รุ่นพี่ทั้งสองฝ่ายยืนคุมเชิงอยู่รอบนอกและยืนกรานว่าจะไม่เข้ามาแจม จะปล่อยให้ 40 ชีวิตวงในวัดพลังกันแค่นั้น
พอแถวหน้าเปิดศึกเหตุการณ์ก็เริ่มดุเดือด ด้วยความที่สถานที่มันมืด มองอะไรไม่ค่อยเห็น ช่วงกำลังชุลมุนมีคนมาดึงไหล่ผมจากข้างหลัง ปฏิกริยาตอบสนองอัตโนมัติก็สั่งให้ผมหันไปใส่เลย
แต่... คนนั้นดันเป็นรุ่นพี่สาขาผมนี่แหละอายุห่างกัน 3 ปี 😅 (ก็ตอนแรกบอกว่ารุ่นพี่จะไม่เข้ามาแจมไง แล้วเข้ามาทำม๊ายยยย) แล้วแกตัวหนาตึบเลย ผมต่อยหน้าแกได้หมัดเดียว หลังจากนั้นโดนแกเหวี่ยงลงพื้น
แล้วรุ่นพี่อีกคนก็เข้ามาฟาดหัวผมด้วยไม้ขนาดไม่ใหญ่นัก น่าจะเป็นไม้กลอง (ไหนว่ามือเปล่าาาา) เพื่อนที่อยู่ขอบสนามเห็นเหตุการณ์จึงตะโกนลั่น "พี่ๆ นั่นพวกเรา!" แต่ผมโดนไปหลายทีละกว่าพี่เขาจะหยุด 😭 ดีที่ไม่เป็นอะไรมาก
หลังจากนั้นก็มีอีกหลายแมตช์ที่เริ่มรุนแรงขึ้นจนถึงขั้นใช้อาวุธ จนกระทั่งมีครั้งหนึ่งที่เพื่อนผมไม่รอดกลับมา ถูกแทงตัดขั้วหัวใจ ตายระหว่างทางไปโรงพยาบาล
การตายของเพื่อนคนนี้เองที่ทำให้ผมต้องกลับมาคิดให้มากขึ้นว่าจะเดินต่อในเส้นทางนี้หรือถึงเวลาต้องเปลี่ยนสักที...
2.บางคนก็เป็นความทะนงในศักดิ์ศรีที่ค่อนข้างไร้สาระ
หลังจากต่อยตีกันหลายครั้งกับเครื่องกลทั้งรุ่นผมและรุ่นน้อง มาวันนึงพวกเราก็ตกลงจับมือกันเป็นมิตร แล้วก็มานั่งหัวเราะกันว่าเมื่อก่อนเราต่อยกันทำไมวะ แค่มาคุยดี ๆ ก็จบตั้งแต่แรกแล้ว
แต่มันมีเหตุผลอยู่ครับ ตอนนั้นเด็กเครื่องกลรับรู้ได้ถึงภัยคุกคามจากภายนอก เขาจึงต้องการสร้างพันธมิตร สงบศึกภายในเพื่อผนึกกำลังรับมือกับศึกภายนอก
กับรุ่นผมดูเหมือนจะค่อยข้างราบรื่น ในส่วนของรุ่นน้องก็ดูดีในระดับหนึ่ง แต่มีครั้งหนึ่งผมได้ยินรุ่นน้องโยธากับเครื่องกลมาคุยกันแล้วไต่ถามกันว่าจบปี3 จะไปต่อไหน?
ฝั่งเครื่องกลบอกจะไปปทุมวัน สถาบันที่เด็กสายช่างกลใฝ่ฝัน ขณะที่รุ่นน้องผมบอกว่าจะไปอุเทนถวาย อันเป็นสถาบันที่เด็กโยธาฝันใฝ่เช่นกัน
ไอ้ตู่น้องผมเลยบอกเด็กช่างกลว่า ตอนนี้เราสงบศึกกันแล้วภายใต้สถาบันเดียวกัน แต่ถ้ากูเจอมึงตอนเป็นอุเทน vs ปทุมวัน กูเล่นมึงแน่!
อิหยังวะ!? ผมได้แต่คิดในใจ ความเป็นสถาบัน ความเป็นสาขาที่เรียนมันยิ่งใหญ่ค้ำฟ้าจนต้องทำร้ายไล่ฆ่าอีกฝั่งเลยหรอ?
3.ความคิดความอ่านยังไม่รอบคอบ
จากสองข้อแรก เรา ๆ ที่อายุพ้นเลข 3 กันมาแล้วคงพอพูดได้ว่า "ช่างเป็นความคิดที่ไม่รอบคอบเอาเสียเลย"
ใช่ครับ! เด็กหรือวัยรุ่นส่วนมากก็คิดแค่ไม่กี่มิติเท่านั้น คิดแค่ปัญหาที่อยู่ข้างหน้าไม่ได้คิดถึงปัญหาที่จะเกิดขึ้นหลังจากนั้นต่อ ๆ ไปอีก หรือบางครั้งก็ไม่ทันได้ใช้ความคิดเสียด้วยซ้ำ
4.ปล่อยอารมณ์ครอบงำ
บางครั้งอาจคิดดีแล้ว แต่สุดท้ายก็ปล่อยให้อารมณ์นำหน้าเหตุผล ศีลธรรมและกฎหมาย เมื่อไหร่ที่อารมณ์ครอบงำแล้วมนุษย์เราก็ทำอะไรที่ไม่น่าจะทำได้ทั้งนั้น
เท่าที่นึกได้จากประสบการณ์ตรงก็มีประมาณนี้ครับ
สวัสดีครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา