22 มี.ค. 2021 เวลา 18:03 • ไลฟ์สไตล์
เพื่อนๆ เคยขี้เกียจกันมั้ยครับ
ใน 1 สัปดาห์ เพื่อนๆขี้เกียจกันบ่อยไหมครับ แล้วเพื่อนๆคิดว่าคนที่มีชื่อเสียงโด่งดังหรือคนที่เขาประสบความสำเร็จมากมายมหาศาล เขาเคยขี้เกียจกันรึเปล่าครับ วันนี้ผมจะมาเล่าสู่กันฟังในเรื่องนี้กันครับ
1
ผมมองว่า ความขี้เกียจ และ มนุษย์นี่เป็นเพื่อนซี้กันเลยครับ มันมักจะมาด้วยกันตลอด เพราะความขี้เกียจเป็นธรรมชาติของสมอง ความขี้เกียจนี้สามารถพบเห็นได้โดยทั่วไป แต่หากเรารู้เท่าทัน รู้ถึงสาเหตุของมัน และจัดการมันด้วยวิธีที่เหมาะสม เพียงเท่านี้เราก็สามารถจัดการกับความขี้เกียจของเราได้แล้วครับ
เรามาทำความเข้าใจกันก่อนนะครับ ว่าทำไมเราถึงขี้เกียจ
1
อย่างแรกเลย คือ ความขี้เกียจนี้เกิดจากความคิดของเราเองครับ แค่คิดว่าต้องทำบางสิ่งบางอย่าง หรือต้องทำในสิ่งที่ซับซ้อน หรือคิดว่าตนเองไม่สามารถทำมันได้ดี ทำให้เราเริ่มไม่อยากลงมือทำนั่นเองครับ
3
สาเหตุต่อมาคือ เมื่อเราอยู่ในความสบายจากการไม่จำเป็นต้องลงมือทำ ทำให้เราไม่อยากออกจากตรงนั้น พูดง่ายๆคือ ติดใจนั่นเอง ทำให้เราไม่อยากจะลุกมาใช้ความคิดหรือความพยายาม ทำให้เกิดความขี้เกียจนั่นเอง แต่อาจจะส่งผลลัพธ์ในอนาคต เพราะเดดไลน์จะเข้าใกล้เรามาเรื่อยๆครับ
3
ความขี้เกียจเป็นธรรมชาติของสมอง สมองใช้พลังงานจาก
20 % ของอาหารที่เรารับประทานเข้าไปในแต่ละวัน เพื่อจะรักษาพลังงานไว้คิดและวิเคราะห์จึงส่งผลให้เราไม่อยากลงมือทำนั่นเอง
2
สุดท้าย สาเหตุที่สำคัญที่สุดคือ เราไม่มีเป้าหมายและแรงดึงดูดที่จะทำสิ่งนั้นมากพอ เมื่อเราไม่มีเป้าหมาย ไม่มีแรงงดึงดูดใจ เราจะเกิดความคิดว่า ไม่รู้จะทำสิ่งนั้นไปทำไม เราไม่ได้รู้สึกถึงผลลัพธ์จากการลงมือทำในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ซึ่งนำมาซึ่งความขี้เกียจและไม่อยากลงมือทำครับ
3
แล้วเราจะจัดการกับความขี้เกียจนี้ได้อย่างไร วันนี้ผมมีเทคนิคและแนวคิดดีๆมาเล่าสู่กันฟังครับ
วางแผนในการทำสิ่งที่จำเป็นไว้ล่วงหน้าและระบุเวลาให้ชัดเจน
เพื่อไม่ให้สมองตัดสินใจอย่างเข้าข้างตัวเอง เพราะอาจจะตัดสินที่จะไม่ทำ ให้ลงมือทำทันทีเมื่อเมื่อเวลา จะทำให้ไม่เกิดการผัดวันประกันพรุ่ง
ตั้งเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง ชัดเจน และท้าทาย
เนื่องจากการที่เราเห็นเป้าหมายเฉพาะเจาะจงและชัดเจนนั้น จะทำให้เราวางแผนในการทำสิ่งต่างๆในแต่ละวันได้ง่าย ส่วนในการมีเป้าหมายที่ท้าทาย จะทำให้การลงมือทำมีประสิทธิภพมากขึ้น เพราะมนุษย์ชอบความท้าทาย อีกทั้ง หากเราตั้งเป้าหมายที่ง่ายๆ เราจะคิดกับตัวเองว่า มันง่ายเกินไป ค่อยทำก็ได้ ทำให้ไม่ลงมือทำสักที และสิ่งนี้ทำให้เกิดความขี้เกียจ
1
แตกสิ่งที่ต้องทำที่มันใหญ่ๆออกมาเป็นสิ่งเล็กๆและทำให้เสร็จไปทีละอย่าง
เพราะหากสิ่งที่ต้องทำเราใหญ่และยุ่งยากเกินไป จะทำให้เราขี้เกียจ หากเราแบ่งออกเป็นสิ่งเล็กๆจะทำให้เราวางแผนที่จะทำและลงมือทำได้ง่ายขึ้น อีกทั้งเราจะทำสำเร็จได้ง่าย และอย่าลืมให้กำลังใจหรือให้รางวัลตัวเอง เมื่อทำสำเร็จ เพราะมันจะทำให้เรามีกำลังใจที่จะทำต่อไป จากสิ่งเล็กๆเราก็จะทำต่อไปจนสำเร็จกลายเป็นสิ่งทีใหญ่ขึ้นได้
1
เปลี่ยนที่ทำงาน
3
ไม่ใช่ลาออกจากที่ทำงานนะครับ ผมหมายถึงเปลี่ยนสถานที่ในการทำงาน เพราะการเปลี่ยนบรรยากาศจะกระตุ้นการทำงานของสมองมากกว่าการอยู่ที่เดิมนานๆ ควรเปลี่ยนที่ทำงานเป็นร้านกาแฟ หรือ สถานที่เงียบๆนอกบ้านบ้าง
2
ขี้เกียจให้เป็นเวลา
อย่างที่บอกครับว่าความขี้เกียจเป็นเพื่อนซี้ของมนุษย์ ไม่ใช่ว่าเราจะขี้เกียจไม่ได้เลย มนุษย์ทุกคนเคยขี้เกียจ แต่อยู่ที่ว่าเราจะจัดการกับความขี้เกียจนั้นยังไง เราให้เวลาในการขี้เกียจกับตัวเองเหมาะสมหรือไม่ ถ้าเราแบ่งเวลาที่เราจะขี้เกียจกับเวลาที่เราทำงานได้อย่างสมดุลก็ไม่มีปัญหาครับ แต่ถ้าขี้เกียจทั้งวัน แบบนี้ปัญหาถามหาแน่ๆครับ
รีบลงมือทำให้เร็วที่สุดและไม่ผัดวันประกันพรุ่ง
เพราะยิ่งเราลงมือทำเร็วเท่าไหร่ เราก็จะเหลือเวลาในการวางแผนและลงมือทำมากขึ้นเท่านั้น เช่น เราเหลือเวลาที่จะต้องทำในสิ่งสิ่งหนึ่ง อีก 20 วัน หากเราลงมือทำตั้งแต่วันที่ 1 เราสามารถแตกสิ่งใหญ่ๆออกมาเป็นสิ่งๆเล็กๆ ทำวันละนิด ก็เสร็จได้ แถมเหลือเวลาพักผ่อนในแต่ละวันอีกด้วย แต่หากเราเริ่มลงมือทำช้า เหลือเวลา 3 วัน เราก็จะแทบไม่เหลือเวลาวางแผนและจะเกิดความเครียด เพราะต้องเร่งมือให้ทันกับเวลาและแทบไม่เหลือเวลาให้พัก
สร้างเงื่อนไขกับตัวเอง ให้ทำในสิ่งที่ควรทำได้ง่ายขึ้น ในทำในสิ่งที่ไม่ควรทำให้ยากขึ้น
สร้างความสะดวกให้แก่ตัวเองในการทำสิ่งที่ควรทำ เช่น การออกกำลังกาย การกินอาหารที่มีประโยชน์ หรือการลดการใช้เวลากับสิ่งไม่จำเป็นมากเกินไป และสร้างอุปสรรคในการทำสิ่งที่ไม่ควรทำ เช่น กินอาหารที่ไม่มีประโยชน์ การนอนเล่นๆอยู่บนเตียงเฉยๆ เป็นต้น
1
ยกตัวอย่างนะครับ ซื้ออาหารที่มีประโยชน์มาใส่ตู้เย็นทำให้เรากินอาหารที่มีประโยชน์ได้ง่ายขึ้น และกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์ยากขึ้น หรือ หาความรู้ในการออกกำลังกายในบ้านหรือหาสถานที่ออกกำลังกายในบ้าน จะทำให้ออกกำลังกายได้ง่ายขึ้นและทำได้ทันที
หากเรารู้เท่าทัน รู้สาเหตุของความขี้เกียจ และรู้วิธีการจัดการกับมัน เราก็สามารถจัดการกับความขี้เกียจของเราได้ ความขี้เกียจเหมือนเพื่อนซี้ของมนุษย์ แต่หากเราให้เวลามันแค่พอเหมาและจัดการกับมันอย่างจริงจัง เราก็สามารถควบคุมมันได้ครับ
1
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชมครับ
โฆษณา