23 มี.ค. 2021 เวลา 07:14 • ปรัชญา
ใส่บาตรด้วย “กิเลส” ได้บุญมากที่สุด
เราต้องมองให้ออกก่อนว่า เราทำบุญใส่บาตรแล้ว ตัวเรานั้นได้อะไร ยังไม่ต้องไปมองว่า คนที่รับนั้นได้อะไร
สิ่งที่เราได้แน่ๆ คือเรื่องของจิตใจ เราจะสุขใจ อิ่มใจ นั้นแหละครับ ที่เรียกว่า บุญ
แต่ถ้าเราให้ไปแล้ว ยังรู้สึกทุกข์ใจ ห่อเหี่ยวใจ
แบบนี้เราจะเรียกว่า บาป ก็ไม่ผิดนัก
ที่เราเป็นแบบนั้น ก็แสดงว่า เรายังมีกังวล รู้สึกหวง รู้สึกไม่อยากให้ รู้สึกงก ไม่สบายใจที่จะให้
ความรู้สึกเชิงลบพวกนี้นั่นแหละครับ คือ “กิเลส”
กิเลส มักมาในรูปแบบที่เราไม่รู้ตัว เราอาจจะเคยชินกับสิ่งเหล่านี้ เลยไม่คิดว่ามันคือสิ่งแปลกปลอม
สมมุติว่า ใจเราคือน้ำเปล่าที่อยู่ในแก้ว แล้วกิเลสคือเศษฝุ่นที่นอนนิ่งๆอยู่ในแก้วนั้น
หากมีใครเอามือมาคนน้ำ เศษฝุ่นที่นอนก้นอยู่ ก็จะกระจายเต็มแก้วนั้น
ทุกคนมีกิเลสอยู่ในใจที่มองไม่เห็นกันทุกคน
แล้วเราจะเอาเศษฝุ่นเหล่านี้ หรือกิเลสเหล่านี้ออกจากแก้วน้ำได้อย่างไร?
วิธีง่ายๆเลยครับ คือการ “ให้”
เมื่อเราเกิดความหวงสิ่งของของเรา เรารองเอาสิ่งของชิ้นนั้นให้ผู้อื่นดูสิ เรากล้าจะให้หรือป่าว?
เมื่อเราให้ไปแล้ว เราก็เอาไอ้ตัว “หวง” ให้เขาไปด้วยเลย เท่านี้ เราก็เอากิเลสออกจากใจได้แล้ว
ค่อยๆให้ทีละน้อย
เมื่อเราอยาก เราก็ให้
เมื่อเราโกรธ เราก็ให้
เมื่อเราโง่ เราก็ให้
ค่อยๆเอาออกไปจากแก้วน้ำนั้น
สักวัน แก้วน้ำนี้ ก็จะกลับมาใส
โดยที่ไม่มีเศษฝุ่นนอนก้นเหลืออีกเลย
เพราะฉะนั้นแล้ว ทำบุญด้วย กิเลส
จึงดีแก่ตัวเรามากที่สุด
“สุดท้าย คือนิพพาน”
โฆษณา