23 มี.ค. 2021 เวลา 12:32 • การศึกษา
Light มีหลายเรื่อง
คำศัพท์ในภาษาอังกฤษต้องนำมาใช้ตามหน้าที่และในบางกรณีหน้าที่ของคำที่เปลี่ยนไปทำให้เกิดความหมายที่แตกต่างกัน ตัวอย่างที่ชัดเจนคือคำว่า "light"
"light" ที่เป็น "adjective มีสองความหมาย
ความหมายแรก คือ "อ่อนหรือสว่าง" เมื่อใช้กับสีต่างๆ light จะแปลว่า "อ่อน" เช่น light green แปลว่า "สีเขียวอ่อน", light brown แปลว่า "สีน้ำตาลอ่อน" และคำที่ตรงข้ามคือ "dark" ซึ่งแปลว่า "เข้ม" เช่น dark green แปลว่า "สีเขียวเข้ม", dark brown แปลว่า "สีน้ำตาลเข้ม"
 
นอกจากสีต่างๆ แล้วคำว่า "light" ยังใช้อธิบายลักษณะของผิวพรรณ หากต้องการสื่อสารว่า "ผิวขาว" หรือ สีผิวที่เป็นสีอ่อนจะใช้คำว่า
"a light skin" เช่น I have a light skin. หรือ จะเจาะจงไปอีกโดยใช้คำว่า light-colored (adjective หรือ คำขยายคำนาม) เมื่อพูดเป็นประโยค เช่น I have a light-colored skin. จะตรงข้ามกับ "a dark skin" ที่แปลว่า ผิวสีเข้ม เราอาจจะได้ยินจากสำนวน "dark, tall, and handsome" คือลักษณะของผู้ชายที่ดูดี เมื่อพูดเป็นประโยค เช่น He has got a lot of attention because he is dark, tall, and handsome. หรือจะเจาะจงโดยใช้คำว่า dark-colored (adjective หรือ คำขยายคำนาม) เมื่อพูดเป็นประโยค เช่น He has a dark-colored skin.
 
เมื่อเป็นคำขยายคำนาม หรือ adjective สามารถนำมาขยายคำนามอื่นๆได้ หากไม่ต้องการเจาะจงสีแต่ต้องการสื่อสารลักษณะเข้มหรืออ่อนเท่านั้น เช่น
"I like a dark-colored wall."
แปลว่า "ฉันชอบกำแพงสีเข้ม",
"I will decorate a room with light-colored furniture." แปลว่า ฉันตกแต่งห้องด้วยเฟอร์นิเจอร์สีอ่อนหรือสีสว่าง
 
คำบอกลักษณะต่างๆ จะทำเป็น adjective ก็ได้ แต่จะเปลี่ยนแปลงรูปนิดหน่อย เป็น "light-skinned" หรือ "dark-skinned" เช่น
"I am a light-skinned girl."
ฉันเป็นผู้หญิงผิวขาว
"I like a dark-skinned man."
ฉันชอบผู้ชายผิวเข้ม
 
การพูดถึงสีผิวซึ่งเป็นลักษณะหนึ่งของเชื้อชาติเป็นเรื่องที่ควรหลีกเลี่ยงในการสนทนา ไม่เฉพาะแต่เรื่องสีผิว ลักษณะทางร่างกายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเชื้อชาติเป็นเรื่องที่ควรหลีกเลี่ยงโดยเฉพาะในสังคมของชาวอเมริกัน เมื่อเราใช้คำว่า "white" หรือ "black" จะเป็นเรื่องเชื้อชาติ เช่น
I am white. แปลว่า เป็นฝรั่ง (ผิวขาว)
I am black. แปลว่า เป็นเชื้อชาติแอฟริกัน (ผิวสีเข้ม)
 
ความหมายที่สองของ "light" แปลว่า "น้ำหนักเบา" ตรงข้ามกับ "heavy" แปลว่า "น้ำหนักเยอะ" เช่น
This bag is light. กระเป๋าน้ำหนักเบา
This cream is light. ครีมนี้เนื้อครีมเบา (ไม่ข้นหรือหนัก)
หากต้องการเจาะจงก็สามารถใช้คำว่า "lightweight" หรือ "light in weight" ไปเลยได้ แต่จะเกี่ยวข้องกับน้ำหนักอย่างเดียว ไม่สามารถใช้กับความข้นของครีมหรืออาหารได้
ความหมายที่สามของ "light" ที่ทำหน้าที่เป็นคำนามจะแปลว่า "แสงไฟ" ซึ่งเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือ "แสงสว่าง" เช่น แสงพระอาทิตย์ คือ "sunlight" เป็นคำเดียวกับน้ำยาล้างจานยี่ห้อหนึ่ง, แสงจันทร์ คือ "moonlight"
 
มีคำกริยาที่เกี่ยวข้องกับคำนี้ด้วย ได้แก่ "enlighten" แปลว่า "ทำให้รู้และเข้าใจ" เช่น "You enlighten me." แปลว่า "คุณทำให้ฉันตาสว่าง" (เข้าใจกว่าที่เคยรู้มาก่อน) หากทำให้เป็น "adjective" ก็ได้ โดยเติม ing "enlightening" แปลว่า "เป็นความรู้มีสาระประโยชน์" หรือ ทำเป็นกริยาช่องที่ 3 "enlightened" แปลว่า "รู้สึกเข้าใจกระจ่าง" โดยเป็นลักษณะที่สามารถใช้กับคนได้เท่านั้น เช่น
"The lecture is enlightening." การบรรยายนี้มีสาระประโยชน์
"I am enlightened after this lecture." ฉันรู้สึกเข้าใจมากขึ้นหลังจากการบรรยายนี้
หากเป็นรูปคำนาม คือ "enlightenment" หมายถึงสถานะที่เกิดการรู้กระจ่างแจ้ง ซึ่งมักจะได้ยินว่าใช้กับวันตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
ความหมายที่สี่ของ light เป็นกริยาแปลว่า จุดไฟ โดยมีรูป light เป็นรูปกริยาช่อง1และ lit เป็นรูปกริยาช่องที่2 และ 3 เช่น
"I light candles." แปลว่า "ฉันจุดเทียน"
"The candles are lit." แปลว่า "เทียนถูกจุด"
 
คำว่า "เปิด" กับเครื่องใช้ไฟฟ้าจะใช้คำว่า "turn on" และ "ปิด" กับเครื่องใช้ไฟฟ้าจะใช้คำว่า "turn off"
เช่น "I turn on the light." แปลว่า "เปิดไฟ", "I turn off the light." แปลว่า "ปิดไฟ"
หากเป็น "กองไฟ" หรือ "fire" จะใช้คำว่า "light" ให้ความหมายว่า "จุดไฟ" และ "put out" ให้ความหมายว่า "ดับไฟ"
 
เมื่อ "light" เป็นคำกริยา แปลว่า "จุดไฟ" จะสามารถทำให้เป็นคำนามได้คือคำว่า "lighter" ที่แปลว่า ไฟแช็ค
เมื่อ "light" เป็น adjective ที่จะแปลว่า "สว่างหรือสีอ่อน" หรือ "น้ำหนักเบา" จะสามารถทำเป็นขั้นกว่าเพื่อเปรียบเทียบได้โดยการเติม "er" ที่ท้ายคำ คือ "lighter" ที่จะแปลความหมายได้ 2 อย่าง คือ "สว่างกว่า/สีอ่อนกว่า" หรือ "น้ำหนักเบากว่า" ความหมายที่แน่นอนจึงต้องอาศัยประโยคเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง
 
 
ความเข้าใจในการเขียนภาษาอังกฤษต้องเริ่มจากความรู้ในเรื่องหน้าที่คำเป็นอย่างแรก ความรู้เรื่องความหมายเป็นลำดับต่อมา
โฆษณา