24 มี.ค. 2021 เวลา 22:06 • ท่องเที่ยว
Grand Canyon เกิดขึ้น ได้อย่างไร ?ep.9
มหัศจรรย์ความยิ่งใหญ่อลังการของขวัญของชาวโลก
แม่ขมิ้น วันนี้ จะพาคุณ ผู้ชมทั้งหลายบิน ไปที่นี่ค่ะ 👇👇
Grand Canyon นั่นเอง
แกรนด์แคนยอน คือของขวัญจากพระเจ้า ที่มอบให้ชาวอเมริกัน
สิ่งใดก็ตามที่เราเรียกนำหน้าว่า “Grand “ มีความหมายถึงสิ่งที่ยิ่งใหญ่ และสิ่งที่พิเศษ กว่า นั่นเอง ค่ะ
แกรนด์แคนยอนคือหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลก และหนึ่งในอนุรักษ์สถาน ของโลก ด้วยเช่นกัน
อยู่ในรัฐแอริโซน่า ของประเทศสหรัฐอเมริกา🇺🇸
ในแต่ละปีก็จะมี นทท.จากนานาประเทศมาเยี่ยมชมไม่ต่ำกว่าปีละ 5 ล้านคน (ขอบอกว่าที่นี่ไม่เก็บค่าเข้าชม ค่ะ (อุต๊ะ! เริ่ดมากค่ะ ลูกขา ) และมีรถบัส บริการฟรี พาไปทุกจุดชมวิว ในอุทยาน
หรือถ้าอยากเสียตังค์ก็มีบริการนั่งม้า หรือ ล่อ หรือเดินชมหุบเขาเบื้องล่างโดยมีไกด์นำค่ะ
Grand Canyon เป็นความภูมิใจของชาวอเมริกัน เขาบอกว่า “นี่คือของขวัญจากพระเจ้าที่มอบแก่ ประเทศอเมริกา ที่จะตกไปสู่รุ่นต่อรุ่นของชาวอเมริกันและชาวโลกอย่างไม่มีวันสูญสิ้นค่ะ “
มาเล่ากันต่อ เลย 👇
ในอดีตแกรนด์แคนยอน เคยเป็นผืนแผ่นดินของชาวอินเดียนแดง ( เจ้าของประเทศ อเมริกา ก็คือชนชาวอินเดียนแดง ค่ะ )
“แกรนด์แคนยอน” แห่งนี้ เมื่อเรามองดูด้วยสายตา ก็เห็นถึงความยิ่งใหญ่ อลังการ มาก และเมื่อพูดถึงการกำเนิดของมัน ก็ยิ่งใหญ่ไม่แพ้รูปร่างหน้าตา ที่เราเห็น เช่นกัน มโหฬาร มาก ๆ
มีความสูงจากระดับน้ำทะเลแตกต่างกันไปตั้งแต่ 381-2,793 เมตร มีความกว้างตั้งแต่ 2-24 กิโลเมตร และลึกประมาณ 1.6 กิโลเมตร หน้าผาสูง1600เมตร หุบเหวยาว450 ก.ม. (ยาวไกลมาก)
โอ้ย!ไม่อยากรู้ตัวเลข ปวดหัว ( ไว้ค่อยถาม สิริ นะ แฮร่ ! )
เอาน่า รู้สักหน่อย จะเป็นไรไป จะได้ จินตนาการได้ว่า มัน กว้าง ยาว ลึก ขนาดไหน
หุบผาเหล่านี้ ประกอบไปด้วยหินเป็นชั้นๆ ซึ่งเป็นลักษณะชั้นของหินที่ถูกแม่น้ำตัดผ่าน มีอยู่ประมาณ 12 ชั้น ( นักธรณีวิทยา เขานับไว้ให้เราแล้ว แต่อยากนับอีกก็ได้ค่ะ เวลาไปยืนดูมัน )
โดยชั้นล่างสุดเป็นชั้นที่เก่าแก่ที่สุด ส่วนชั้นบนสุด เป็นชั้นที่ใหม่ที่สุด ต่างก็มีหินมากมายหลายชนิดและ จากหลากหลายยุคสมัย
ในแต่ละชั้นก็มีสีสันแตกต่างกันไป สีที่เห็นจะออกไปทางส้ม แดง เหลือง และแซมด้วยสีน้ำตาล และดำ
มองจากหน้าต่างหอคอย อีกที่หนึ่งของจุดชมวิว
ซึ่งเป็นลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ของ แกรนด์แคนยอน นั่นเอง
ยิ่งในยามกระทบแสงแดด แม่เจ้าประคุณเอ๊ย อยากแปลงร่างเป็นนก จริง ๆ จะได้บินไปชม ใกล้ ๆ 🦅
บางบริเวณก็จะแลเห็นเป็นหลากสีสัน เช่น สีม่วง เหลือง แดงน้ำเงิน ฯลฯ แล้วแต่ช่วงเวลาและจังหวะของแสง แดด ที่กระทบ ค่ะ จะมองไกลมองใกล้ ก็สวยงามตะลึงตึงตัง 🙀สุดลูกหูลูกตาทีเดียวเชียว
มองเห็นเส้นทางไฮกิ้งทางสีขาว ๆ ข้างล่าง มั้ยคะ อาจขี่ม้า หรือ ล่อ เพื่อทัวร์ชม ก็ได้ค่ะ
มุมไหนก็สวย ขับรถชมไปเรื่อยๆ เป็นวัน ๆ ตามจุดชมวิวต่างๆ
เข้าสู่หมวดวิชาการ อีกสักนิดส์ สักนิด 📔
มาเล่นเกมตอบคำถามกัน
คุณคิดว่า”แกรนด์แคนยอน” เป็นภูเขาใช่มั้ยคะ?
คำตอบ...คือ ....... คือ....( ทำปาก แบบ คุณ ปัญญา )
......👄ผิด ค่าาา
แต่มันเป็นการกระทำของธรรมชาติล้วนๆเลย คือเกิดจากการ ไหล และการกัดเซาะของ แม่น้ำโคโลราโด ซึ่งกัดเซาะเป็นเวลานับล้านปี โดยแต่เดิมพื้นที่แห่งนี้เป็นบริเวณที่ราบสูงขนาดใหญ่ที่มีแม่น้ำโคโลราโดไหลผ่าน สภาพแม่น้ำมีลักษณะเป็นลำธาร ที่คดเคี้ยวไปมา ต่อมาเกิดการยกตัวของผิวเปลือกโลก
เห็นแม่น้ำโคโลราโด ข้างล่างนั่นมั้ยคะ เดี๋ยวแม่ขมิ้นจะไปผจญภัย อีกไม่กี่วันนี้ล่ะค่ะ
การยกตัวนี้ส่งผลให้แม่น้ำโคโลราโดเกิดการไหลที่เร็วและแรงมากยิ่งขึ้น เนื่องจากแม่น้ำมีการไหลผ่านพื้นที่ลาดชันจากการยกตัวของแผ่นเปลือกโลก การไหลของน้ำจึงแรงขึ้น เมื่อประกอบกับลักษณะของดินที่เหมือนดินทราย
จนกลายเป็นดินที่แข็งและไม่สามารถดูดซับน้ำได้เมื่อฝนตก
น้ำปริมาณมากและมีกำลังแรงจึงกัดเซาะหินและดินไปทีละน้อย ๆ ๆ (พลังของมวลน้ำมหาศาล ) นอกจากนี้ยังมีการกระทำของลมที่เพิ่มการกัดกร่อนหินและดินต่อเนื่องกันมานานหลายล้านปี ทำให้กลายเป็นบริเวณร่องหุบเขาลึกของแกรนด์แคนยอนอย่างที่เราเห็นในปัจจุบันนี้นี่เอง ( ชัดนะคะ )
เออ แล้วใครเป็นคนค้นพบ Grand Canyon ล่ะ?
ไม่อยากรู้ ค่อยถาม “สิริ “ เอา ( เสียงคิดในใจ ห้วน ๆ แกมหงุดหงิด )
น่า นะ รู้หน่อยล่ะกัน 🤓🧐
เมื่อปี พ.ศ.2083 โดยนักสำรวจชาวสเปน แต่ไม่เป็นที่สนใจเท่าไรนัก ต่อมาในปี พ.ศ.2319 นักบวชชาวสเปน 2 คน
( คนสเปนอีกแล้ว ) ได้สำรวจเจอแล้วเผยแพร่ข่าวนี้ออกไป ทำให้มีนักสำรวจจากทั่วโลก เดินทางมายังดินแดนแห่งนี้มากขึ้น
✅จนกระทั่งในปี พ.ศ.2412 พันตรี จอร์น เวสลีย์ เพาเวลล์ (John Westley Powell) และคณะอีก 9 คน ได้ตัดสินใจล่องเรือออกเดินทางสำรวจดินแดนอันน่าพิศวงแห่งนี้ แม้สภาพธรรมชาติที่โหดร้ายมีภยันตรายมากมาย แต่พวกเขา (บางคนนะ บางคน) ก็รอดตายมาได้รวมถึงพันตรี จอร์น เวสลีย์ เพาเวลล์ ด้วย และการสำรวจครั้งนี้เองที่ทำให้พวกเราได้รู้จัก “แกรนด์แคนยอน” มาถึงปัจจุบันนี้
เก็ต แล้วนะคะ 👌
มี นทท. ที่มาทัวร์แบบวันเดียว ก็มีค่ะ
นทท มากมาแวะถ่ายรูปอีกหนึ่งจุดชมวิว
มโหฬาร จริงๆ ค่ะ
เดือนที่เหมาะที่สุดในการไปเยือนคือเดือน มีนาคม-พฤษภาคม
และ ช่วงฤดูร้อนก็คือ กันยายนถึงพฤศจิกายน แต่ต้องระวังอุณหภูมิ อาจร้อน ประมาณ40-43 องศาเซลเซียส (แต่เป็นร้อนแห้งแล้งมาก ผิวสวยๆ แบบแม่ขมิ้น อาจกร้านได้ 🤫 ไม่เหมือนร้อนบ้านเรา ร้อนชุ่มชื้น )
แม่เดินทางด้วยรถ Air Stream รถบ้านคู่ใจ ไปไหนไปกัน เราพักในไซส์ที่พักของ อุทยาน 5 คืนที่ Mather Point Campground ( พักนาน เพราะ แม่ชอบไฮกิ้ง เดินลงข้างล่างแคนยอนด้วย )
Mather Point Campground นี้ อยู่ทางด้านใต้ของอุทยาน มีไม่ต่ำกว่า300 แคมป์ไซส์ คืนละ15$ ( ประมาณ 450บาท ) Full Hookups (คือมีบริการ เติมน้ำใช้ ชาร์จไฟ และมีท่อให้เราต่อ สาย น้ำทิ้งและของเสียออกจากรถ ) ส่วนใครที่นอนเต็นท์เอง ก็มีห้องน้ำฟรีและห้องอาบน้ำ ( หยอดเหรียญ บริการค่ะ )ใครพักนานก็ใช้บริการซักผ้าหยอดเหรียญ ซึ่งอยู่ไม่ไกลบริเวณที่พักค่ะ
หรือใครอยากพัก ที่โรงแรม ก็มีค่ะแต่ ต้องจองล่วงหน้าเป็นเดือน ๆ นะคะ นี่ค่ะ ลิงค์สำหรับจอง Campground 👇
แม่ขมิ้นจะล่องแม่น้ำโคโลราโด ที่เห็นข้างล่าง นี้ เป็นเวลา 18 วันค่ะ ลัดเลาะไปเรื่อย
ถ้าใคร อยากผจญภัยโดยการล่องเรือ ในแม่น้ำโคโลราโด ที่เห็นเบื้องล่าง ก็ได้ค่ะ
แต่จะเห็นแต่แคนยอน หุบเขา ตลอดเวลา 18 วัน ในการล่องเรือยางขนาดใหญ่ ท้าทายไปอีกแบบ🛶🚤
( ขอแจ้งล่วงหน้าให้ทราบโดยเร็วทั่วกันว่า แม่ขมิ้น ได้จองทริป ผจญภัย นี้เรียบร้อยแล้ว ระหว่าง 18 เมษา - 5 พฤษภา 2564 นี้ ค่ะ แวะพัก กิน นอน ในป่า ท่ามกลางแคนยอน สูงเสียดฟ้า และ แม่น้ำโคโลราโด ยาว 450 กิโลเมตร นี้
ตลอดการผจญภัยนี้ เป็นการ Out of Wolrd ค่ะ ไม่มีสัญญาณเน็ตใด ๆ ไม่มี ผู้คน นอกจาก พวกเราในคณะ 16 คน ไม่มีไฟฟ้า น้ำประปา ความเจริญ ใด ๆ ค่ะ แม่ขมิ้น จะพกพา แผง solar panel ไปด้วย เพื่อชาร์จ กล้อง ไว้ถ่ายรูปเยอะ ๆ มาเล่า ให้ฟัง หลังออกจากป่า นะคะ กลับมาแควน ๆ ของแม่ คงไม่หายไปไหนนะคะ ( อุ๊ย คิดแล้ว ใจหาย )
ถ้าใครสนใจ การผจญภัยแบบนี้ในปีต่อ ๆ ไป ก็ต้องจองล่วงหน้ากันข้ามปีค่ะ เพราะ มีนทท. จากฝั่งยุโรป และจาก ทั่วโลก เขาสนใจ ทริปผจญภัยนี้กันมาก ค่าทริปคนละ 6,700 $ ค่ะ เดี๋ยวแม่ขมิ้น แปะลิ้งค์ ไว้ให้นะคะ ถ้าใครที่ชื่นชอบการผจญภัย ทำนองนี้ “ 👇
และบทความ วันนี้ นี่ก็คือ อีกหนึ่งสถานที่ระดับโลก(A must see)ที่นักท่องเที่ยว ต้องไปชมให้ได้สักครั้งในชีวิต ที่แม่ขมิ้นภูมิใจนำเสนอ ( หน้า ) เอามาฝากค่ะ 👵
เรื่องและภาพจากบันทึกการเดินทาง ( 18 เมษายน 2556 )
 
(แม่ ) นกขมิ้น บินไกล
รัฐ ไอดาโฮ สหรัฐอเมริกา 🇺🇸

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา