🍂 เรียนรู้ชีวิตจาก 5 ความเสียใจ ที่ผู้ป่วยระยะสุดท้าย มักพูดออกมา..เมื่อความตายใกล้เข้ามาถึง 🍂🍂
ในชีวิตของคนเรานั้น ล้วนแล้วแต่มีสิ่งที่สำคัญในชีวิตซ่อนอยู่ บางคนโชคดีก็รู้ไว แต่บางคนนั้นกว่าจะรู้ว่ามีสิ่งสำคัญสิ่งนี้อยู่ในชีวิต ก็เมื่อวันสุดท้ายของชีวิตมาเยือน
มันคงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมากๆ ที่ปล่อยเวลาในชีวิตให้ผ่านเลยไป แล้วเพิ่งมารู้ตัวเอาในวันสุดท้าย
📍คนเรามักจะเสียใจกับเรื่องอะไร เมื่อวันที่ต้องเผชิญกับความตาย?
ในหนังสือ "The Top Five Regrets of The Dying"
เป็นหนังสือที่กล่าวถึงเรื่องราวของ พยาบาลชาวออสเตรเลียท่านหนึ่ง ที่มีชื่อว่า Bronnie Ware
เธอทำหน้าที่รับผิดชอบ ดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย ก่อนที่ผู้ป่วยจะเสียชีวิต โดยเธอได้เก็บรวบรวมข้อมูลอยู่หลายปี โดยข้อมูลเหล่านั้นมักเป็นคำพูดที่แสดงถึงความเสียใจของผู้ป่วย ที่เกิดขึ้นขณะที่เธอได้พูดคุยโต้ตอบกับผู้ป่วยระยะสุดท้าย
สิ่งที่เธอได้รับจากการพูดคุยนั้น คือข้อคิดที่ถูกกลั่นกรองออกมา จากทั้งชีวิตของคนๆหนึ่ง ที่กำลังใกล้จะตาย
คนเหล่านั้นมักพูดถึง "โอกาส" ว่าถ้ามีโอกาสนั้นอีกครั้ง จะรีบลงมือทำสิ่งนั้นทันที
โดยเรื่องราวที่พวกเขาได้พูดก่อนเสียชีวิต เธอนำมาสรุปได้เป็น 5 ความเสียใจ ดังนี้....
1. ฉันหวังว่าฉันจะมีชีวิตที่เป็นไปตามความต้องการของตัวเองมากขึ้น..ไม่ใช่ชีวิตที่คนอื่นคาดหวังในตัวฉัน
I wish I’d had the courage to live a life true to myself, not the life others expected of me.
: นี่คือความ "เสียใจ" ที่เธอได้ยินบ่อยที่สุด เมื่อใกล้ถึงจุดจบของชีวิต ทุกคนล้วนตระหนักว่า อยากที่จะใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง มีความฝันมากมายที่ยังอยากทำ
พวกเขาได้มาค้นพบสิ่งนี้ ว่ามันเป็นสิ่งที่พวกเขาสามารถเลือกได้..ก็เมื่อถึงวาระสุดท้ายของชีวิต
2. ฉันหวังว่าฉันจะไม่ทำงานหนักเกินไป
I wish I didn’t work so hard.
: นี่คือสิ่งที่ผู้ป่วยชายส่วนใหญ่พูดกับเธอ พวกเขามักจะคิดถึงหน้าที่การงาน ชื่อเสียง เกียรติยศ โดยเป็นการทุ่มเทลงไปแบบไม่รู้ตัว อาจเพราะเป็นเรื่องปกติที่ผู้ชายจะต้องเลี้ยงดูครอบครัวก็ได้
“ ฉันเสียเวลาในชีวิต ไปกับการทำงานเหมือนรถม้า ต่อไปฉันควรใช้เวลาอยู่กับครอบครัวอีกสักหน่อย” คือคำพูดที่แสดงถึงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง
3. ฉันหวังว่าฉันจะกล้าที่จะแสดงความรู้สึกอย่างชัดเจน ในสิ่งที่ฉันรู้สึก
I wish I’d had the courage to express my feelings.
: หลายคนใช้ชีวิตโดยเก็บความรู้สึกที่แท้จริงไว้ในใจ เพื่อรักษาความสัมพันธ์ที่ดีเอาไว้
ซึ่งถ้าในวันนั้น พวกเขาได้แสดงความรู้สึก หรือความต้องการออกไปอย่างชัดเจน ก็จะทำให้พวกเขารู้สึกสบายใจ เป็นตัวของตัวเองได้อย่างแท้จริง
4. ฉันหวังว่าฉันจะได้รักษาความสัมพันธ์ และติดต่อกับเพื่อนเก่าได้มากกว่านี้
I wish I had stayed in touch with my friends.
: ผู้ป่วยหลายคนที่เธอได้พูดคุย มักตระหนักถึงความสำคัญของเพื่อนก่อนเสียชีวิต อยากที่จะติดต่อกลับไป แต่ก็ทำไม่ได้แล้ว เพราะในชีวิตที่ผ่านมาของพวกเขา มักจมอยู่กับชีวิตที่ยุ่ง และห่างเหินจากเพื่อนรักไปเรื่อยๆ จนไม่มีข้อมูลติดต่อกันได้แล้ว
ในวันที่กำลังจะเสียชีวิตลง พวกเขากลับต้องการเพื่อน คิดถึงวันเก่าๆที่ได้พูดคุย เห็นหน้า ดูหนังด้วยกัน ไปเที่ยวด้วยกัน มากกว่าเรื่องอื่นๆที่เคยเสียเวลาในชีวิตไป
5. ฉันหวังว่าฉันจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขมากกว่านี้
I wish that I had let myself be happier.
: นี่เป็นอีกความ "เสียใจ" ที่เธอได้ยินบ่อยเช่นกัน โดยช่วงเวลาก่อนที่พวกเขาเหล่านั้นจะใกล้ตาย พวกเขาไม่เคยได้ตระหนักว่า "แท้จริงแล้วความสุขนั้น เป็นทางเลือกในชีวิตที่เราสามารถเลือก"
พวกเขามักติดอยู่กับนิสัยเดิมๆ ใช้ความสะดวกสบาย และสภาพร่างกายที่คุ้นเคยเป็นข้ออ้าง ไม่กล้าที่จะเปลี่ยนแปลง
แต่เมื่อความตายใกล้เข้ามา กลับคิดได้ว่าจริงๆแล้วเขาสามารถเลือกที่จะเปลี่ยนแปลง สามารถเลือกที่จะมีความสุขในชีวิตของเขาได้ โดยไม่จำเป็นต้องทนอยู่ในพฤติกรรมเดิมๆ
"ความสำเร็จ และความล้มเหลว ที่เคยกลัวนั้น แท้จริงแล้วคือสิ่งที่ช่วยสร้างความหมายให้กับชีวิต"
📍มาถึงตรงท้ายหนังสือก็จะก็เกิดคำถามขึ้นว่า?....
มีเรื่องที่เราเสียใจที่สุดในชีวิตไหม ถ้ามีคือเรื่องอะไร?
และอะไรคือเป้าหมายในชีวิต ที่เราต้องการจะทำให้สำเร็จก่อนตาย?
เตรียมตัวกันในวันนี้ที่ยังมีโอกาส....
เมื่อวันนั้นของเรามาเยือน
จะได้ไม่รู้สึกเสียใจกับช่วงเวลาที่ผ่านมานะคะ 🍂
🙏 ขอบคุณทุกคนที่แวะเข้ามาอ่านบทความด้วยกันนะคะ 💓💓
ขอบคุณ
- 44
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
