"เกิดมาทำไม"
เล่าสู่กันฟังตอนที่.2
กำลังนั่งคิดว่าจะเล่าเรื่องของ ด.ญ.ดำ..
กี่ตอนดี🤔เอาเป็นว่านึกได้เรื่องไหนก็เล่าเรื่องนั้นแล้วกัน..พิมพ์ไปเรื่อย😁
ทุกเช้าของ..ทุกวันที่ตื่นมาของ ด.ญ.ดำ
เปลือกตายังไม่ทันเปิด..ก็จะได้ยินเสียง..
เอะอะโวยวายของคนในบ้าน
เสียงไก่ชนของพ่อที่ขันปลุก,เสียงย่าบ่นโน่นบ่นนี่,เสียงพี่ๆน้องๆวิ่งเล่น,เสียงพ่อที่ดุตวาดแม่.....
ตั้งแต่จำความได้เราไม่เคยไม่ยินเสียงของแม่สักเท่าไหร่..
รู้แค่ว่าแม่เหนื่อยมาก ทุกๆวันของแม่ได้แต่ยุ่งๆในการดูแลบ้านช่อง ภาพที่เห็นในวัยเด็กมันเป็นเช่นนั้น.ในทุกๆวัน..
แม่ทำแต่งาน..งานแทบทุกอย่างในบ้านเป็นหน้าที่ของแม่ การเป็นสะใภ้ของคนเวียดนาม30ปีก่อนโน้น มันไม่น่ารื่นรมณ์ซักเท่าไหร่หรอก ไม่เหมือนสมัยนี้ไม่พอใจกันก็เลิกกันได้ง่ายๆ..
ชีวิตของแม่เรา ก็เลยมีแต่งาน ไม่ว่าจะทำสวน,ทำกับข้าว,ดูแลน้องๆไปโรงเรียน,ทำงานบ้านทุกอย่าง..
ตอนนั้นเลยมีความรู้สึกว่าผู้ชายมีไว้ทำไรในเมื่อทุกอย่างผู้หญิงต้องทำหมด..
ความทรงจำในตอนเด็ก..แม่ไม่ได้เลี้ยงเราเลย..น้อยมากที่แม่จะเดินมาคุยด้วย
ตั้งแต่จำความได้ย่าเป็นคนเลี้ยงเรา..
 
บ้านของเรา..มีสมาชิกอยู่ด้วยกัน9คน
มี ปู่,ย่า,พ่อ,แม่,พี่น้องรวมกันเป็น9คน
ด้วยความที่ไม่ชอบพูดคุยกับใคร..
ชีวิตในแต่ละวันของเราคือการเฝ้ามองพฤติกรรมของคนในบ้าน..
เราชอบเฝ้ามองพ่อของเรา..
เฝ้ามองพ่อที่..เค้าคอยอุ้มไก่ที่เค้ารัก....เค้าโอบกอดมันด้วยความรัก ทนุถนอมมันยิ่งกว่าลูก(มันไม่ใช่คำพูดที่ดูเว่อร์เกินไปนะ)
พ่อเราเค้าเป็นแบบนั้นจริงๆ.. มันไม่ใช่ว่าพ่อไม่รักเราแต่พ่อไม่เคยแสดงออก..
ในวัยเด็กมันก็เลยเป็นบทสรุปให้ตัวเองในตอนนั้น..
บอกตรงๆ เลยทุกครั้งที่เห็นภาพพ่อนั่งเช็ดขนให้ไก่ คอยอุ้มและให้อาหารมันอย่างทนุถนอม....เราได้แต่นั่งอิจฉาไก่ตัวนั้น....
เพราะเราไม่เคยได้รับสิ่งนั้นจากพ่อเลย...
พ่อไม่เคยมาอุ้มไม่เคยมาโอบกอดเราเลย...
เราเหมือนอากาศที่นั่งอยู่ตรงนั้น..ที่พ่อมองไม่เห็น..สายตาที่เฝ้ามองว่า..เมื่อไหร่พ่อจะมาอุ้มและกอดเราบ้าง........
...มันมีแต่ความว่างเปล่า....
....มันว่างเปล่าจริงๆ..พิมพ์มาถึงตรงนี้...
ความรู้สึกมันไปต่อไม่ได้แล้ว..
อารมณ์มันหลุดไปแล้ว...
ภาพในอดีตมันผุดขึ้นมา...น้ำตาที่ไหลอาบแก้มในตอนนี้......ไม่รู้จะพิมพ์ต่อยังไง..
บทสรุปของวันนี้..
มันคือความว่างเปล่า...
โฆษณา