Podcast..รายการหนึ่งถ้วยกาแฟ รัสเชียเยือนพม่า
รัสเซียต้องการกระชับความสัมพันธ์ทางทหารกับพม่า สื่อของรัฐรายงานวันศุกร์ที่ 26มี.ค.64 หลังการพบหารือระหว่างเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านกลาโหมและรัฐบาลทหารที่ถูกประเทศตะวันตกประณามจากการสังหารผู้ชุมนุมประท้วงพลเรือนหลายร้อยคน
อเล็กซานเดอร์ โฟมิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมรัสเซียได้พบหารือกับพล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหาร ในกรุงเนปีดอ เมืองหลวงของพม่าวันศุกร์26มี.ค.64
ภาพการประชุมที่เผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ MRTV เผยให้เห็นว่าทั้งสองคนกำลังตรวจดูโต๊ะที่จัดแสดงโล่ หมวกกันน็อก และระเบิดขวดที่ยังไม่ถูกจุด ที่ถูกระบุว่าเป็นอุปกรณ์ที่ผู้ชุมนุมประท้วงใช้งาน ซึ่งสิ่งของเหล่านี้ สถานี MRTV ได้อธิบายว่าเป็นอาวุธทำมือที่ถูกยึดไว้ได้ระหว่างเหตุจลาจล
สำนักข่าวทาสส์ (TASS) ของรัสเซียรายงานว่า โฟมินได้กล่าวว่าพม่าเป็นพันธมิตรที่เชื่อถือได้และเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ของรัสเซียในเอเชีย โดยการเยือนของเจ้าหน้าที่รัสเซียครั้งนี้เกิดขึ้นหนึ่งวันก่อนงานพิธีสวนสนามครั้งใหญ่เพื่อเฉลิมฉลองวันกองทัพพม่า ที่ถือเป็นงานอันทรงเกียรติที่สุดของกองทัพ
ในคลิปวิดีโอที่ปรากฏทางสถานีโทรทัศน์ Zvezda TV ของกระทรวงกลาโหมรัสเซีย โฟมินยังสัมผัสมือ รับเหรียญตราและกระบี่จาก พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ในห้องประชุมที่เต็มไปด้วยเจ้าหน้าที่ทหารในเครื่องแบบ
“ท่านเข้าร่วมในพิธีสวนสนามของเราเมื่อปีที่ผ่านมา พิธีเฉลิมฉลองครบรอบ 75 ปี วันแห่งชัยชนะของมหาสงครามรักชาติของเรา และการเยือนครั้งนี้เป็นการตอบสนองต่อการเยือนของท่าน” สำนักข่าวทาสส์รายงานอ้างคำกล่าวของโฟมินที่บอกกับผู้นำรัฐบาลทหารพม่า อ้างถึงสงครามโลกครั้งที่สอง
การเยือนครั้งนี้ยังถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนที่สุดของการสนับสนุนของรัสเซียต่อผู้ปกครองทหารชุดใหม่ในพม่า ท่ามกลางความไม่พอใจในหมู่ชาติตะวันตกและความกังวลในประเทศเพื่อนบ้านเอเชีย ที่บางประเทศได้กล่าวประณามความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับพลเรือน และเรียกร้องการฟื้นฟูรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของอองซานซูจี
ตามการรายงานของ MRTV พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย กล่าวกับโฟมินว่า เขารู้สึกขอบคุณสำหรับการเดินทางเยือนพม่าท่ามกลางสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและการระบาดของโควิด-19
มีประชาชนอย่างน้อย 320 คน ถูกสังหารในการปราบปรามผู้เห็นต่างนับตั้งแต่เกิดการรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2564ตามการระบุของกลุ่มนักเคลื่อนไหว
สหรัฐฯ อังกฤษ ออสเตรเลีย และสหภาพยุโรป ได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรกับสภาบริหารแห่งรัฐและเครือข่ายธุรกิจของกองทัพ
ความสัมพันธ์ด้านกลาโหมระหว่างรัสเซียและพม่าเติบโตขึ้นในช่วงหลายปีมานี้ ด้วยมอสโกให้การฝึกอบรมและทุนการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยกับทหารหลายพันนาย รวมถึงขายอาวุธให้แก่กองทัพที่ถูกประเทศตะวันตกหลายประเทศขึ้นบัญชีดำจากการกระทำที่โหดร้ายรุนแรงต่อพลเรือน
รัสเซียเป็นแหล่งที่มาของอาวุธอย่างน้อย 16% ที่พม่าจัดหาระหว่างปี 2557-2562 ตามการระบุของสถาบันค้นคว้าวิจัยสันติภาพนานาชาติสตอกโฮล์ม
ทั้งนี้ ตัวแทนกลุ่มรณรงค์ Justice for Myanmar กล่าวว่า รัสเซียกำลังสร้างความชอบธรรมให้แก่รัฐบาลทหาร และเรียกร้องให้ประชาคมโลกกำหนดมาตรการห้ามค้าอาวุธทั่วโลก.
Referrenc
รอยเตอร์