27 มี.ค. 2021 เวลา 14:54
Godzilla vs Kong
หากเปรียบการปะทะกันระหว่าง ก็อดซิลล่า และ คิงคอง เหมือนมวย ก็คงไม่เกินเลยที่จะบอกว่า นี่คือมวยคู่หยุดโลกที่แฟน ๆ ทั่วโลกต่างรอคอยมาเนิ่นนาน ไม่ว่าคุณจะชื่นชอบการดูหนังแนวสัตว์ประหลาดยักษ์หรือไม่ แต่เชื่อว่าทุกคนไม่ว่าอยู่ในช่วงวัยใดก็ตาม น่าจะเคยได้ยินชื่อทั้ง 2 โลดแล่นอยู่บนหน้าประวัติศาสตร์ภาพยนตร์อันยาวนาน หรืออาจได้ผ่านตาผลงานเวอร์ชันต่าง ๆ มาบ้างสักครั้งในชีวิต จะว่าไปทั้ง 2 ก็เหมือนเป็นตัวแทนของ 2 ฝั่งทวีปของโลก โดย ก็อดซิลล่า ของฝั่งเอเชีย และ คิงคอง คือฝั่งอเมริกา การมาปะทะกันใน Godzilla vs Kong จึงเป็นศึกที่สมศักดิ์ศรี สมน้ำสมเนื้อ ที่สุดในปี 2021
จักรวาลหนังสัตว์ประหลาดยักษ์
ในยุคที่หนังซูเปอร์ฮีโร่ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะกับ Marvel ที่สร้างจักรวาลหนังซูเปอร์ฮีโร่ของตัวเองขึ้นมาจนปลายเป็นปรากฎการณ์ โดยมีปลายทางความสำเร็จสูงสุดคือ The Avengers ที่กลายเป็นตำนานไปแล้วเรียบร้อย Warner Bros และ Legendary Entertainment จึงได้สร้าง จักรวาลหนังสัตว์ประหลาดยักษ์ (MonsterVerse) ขึ้นมาบ้าง
เริ่มจาก Godzilla เมื่อปี 2014 ที่มาในโทนจริงจังเน้นความสมจริง และเปิดจักรวาลที่ชัดเจนขึ้นใน Kong: Skull Island ปี 2017 ที่ครั้งนี้มาเล่าเรื่องของคิงคอง พร้อมเผยข้อมูลเพิ่มเติมอีกมากมาย กระทั่งการมาของ Godzilla: King of the Monsters ในปี 2019 มาเดินเรื่องฝั่งก็อดซิลล่าอีกครั้ง ที่เริ่มจัดเต็มความมันด้วยแอ็คชันของสัตว์ประหลาดยักษ์ในตำนานมากมาย
ปัญหาของ MonsterVerse
ปลายทาง? ของการปูเรื่องราวของจักรวาลหนังสัตว์ประหลาดยักษ์ก็มาถึงเสียที ความพยายามจะจริงจังตั้งแต่ Godzilla และใน Kong: Skull Island แม้จะทำให้จักรวาลหนังสัตว์ประหลาดยักษ์ มีความเป็นเหตุเป็นผล มีมิติความลึกซึ้งเพียงพอในการขับเคลื่อนเรื่องราวต่อไป ขณะเดียวกันก็เผยให้เห็นความเคลื่อนไหวของฝั่งมนุษย์ที่เป็นส่วนของสมการ นำไปอันสู่ผลลัพธ์ที่ทำให้สัตว์ประหลาดต้องมาต่อสู้กัน
แต่นั่นอาจโดนใจฝั่งคนดูที่นิยมความดราม่าเท่านั้น แต่นั่นกลับขัดใจคนดูสายบันเทิง ซึ่งจะว่าไปแล้วมีจำนวนมากกว่าและอาจรวมถึงคนดูวัยเด็กที่ดูเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของหนังแนวนี้ ที่หวังจะให้หนังไปโฟกัสกับการต่อสู้ของสัตว์ประหลาดมากกว่าเรื่องของดราม่า แม้ฉากแอ็กชันโดยรวมจะนำเสนอออกมาได้ดีแค่ก็ตาม แต่ตัวเลข 386 ล้านเหรียญฯ รายได้ทั่วโลกของ Godzilla: King of the Monsters ที่น้อยกว่า Godzilla และ Kong: Skull Island ลงกว่าครึ่ง อาจเป็นสิ่งสะท้อนว่าทางที่ MonsterVerse กำลังเดินอยู่นั้น อาจเป็นเส้นทางที่ผิดพลาด!
ก็อดซิลล่า ปะทะ คิงคอง
จากความพยายามจะจริงจังใส่เหตุใส่ผล ถึงจุดหนึ่ง Warner Bros และ Legendary Entertainment ก็รู้แล้วว่าหนังแนวนี้หากจะทำให้ตอบโจทย์ทั้งด้านบันเทิง (เพื่อนำไปสู่รายได้) ต้องทำอย่างไร ความคาดหวังของคนดูหนังแนวนี้ ที่แท้คืออะไร
Godzilla vs Kong จึงเป็นการปรับทิศทางการนำเสนอครั้งใหญ่ เน้นใส่สุด เอามัน ลดดราม่าของพาร์ทมนุษย์ที่ไม่จำเป็นออก แม้จะยังคงมุมมองทางด้านวิทยาศาสตร์ไว้อยู่ แต่ก็เป็นเพียงการอ้างอิง เพื่อให้พาร์ทแอ็คชันการต่อสู้ของสัตว์ประหลาดยักษ์ทั้ง 2 นั้นยังเดินต่อได้สะดวก
แอ็คชันสุดมัน ตอบโจทย์ด้านบันเทิง
งานออกแบบฉากแอ็คชันใน Godzilla vs Kong ทำออกมาได้ถึงใจ สำหรับหนังบางเรื่อง ตัวอย่างหนังที่ออกมาให้เราได้ดู มักจะตัดมาจากฉากไฮไลท์สำคัญของเรื่อง แต่ใน ก็อดซิลล่า ปะทะ คิงคอง ตัวอย่างหนังที่ทุกคนได้ดูนั้นอยู่ในสถานะเพียงแค่น้ำจิ้มเท่านั้น เพราะในหนังจริง ๆ มีมากกว่านั้นเยอะ แบ่งพาร์ทการต่อสู้เป็นหลายยก พร้อมยกพิเศษ? คอมโบแถมให้คนดูได้จุใจ.. แอบชอบเป็นพิเศษกับการออกแบบวิธีการต่อสู้ที่นำจุดเด่นและความสามารถของทั้งก็อดซิลล่าและคิงคอง มาออกหมัดออกเขี้ยวกันได้สนุก สะใจ จนอยากจะส่งเสียงเชียร์
แม้จะดูเป็นมวยวัดที่อัดกันบ้านเมืองพังพินาศ แต่ก็ยังแอบมีชั้นเชิงการต่อสู้ใส่เข้ามาเป็นเซอร์ไพรซ์ไม่ให้คนดูเดาทางมวยได้ง่ายจนเกินไป พร้อมยกระดับฉากแอ็คชันขึ้นไปอีก ด้วยงานภาพและงานเทคนิคพิเศษต่าง ๆ ที่ออกมาได้ดีมาก โดยเฉพาะการเนรมิตฉากต่อสู้บนเกาะฮ่องกงยามค่ำคืน ที่ดีงามมากจนอาจเป็นหนึ่งในฉากการต่อสู้ที่น่าจดจำฉากหนึ่งในโลกภาพยนตร์ในปี 2021
สิ่งที่สูญเสียไปใน MonsterVerse
แม้จะตอบโจทย์ในด้านความบันเทิง แต่สิ่งที่แอบเสียดายก็คือ การดำเนินเรื่องของฝั่งมนุษย์ ที่แม้จะไม่ถึงขั้นย่ำแย่ แต่ก็กลับโทนไปเยอะ เมื่อเทียบกับความจริงจังต่าง ๆ ที่ปูมาตั้งแต่ Godzilla ภาคแรกเมื่อปี 2014 (ซึ่งตอนนั้นทำได้ดี จนมองว่านี่คือจุดแข็งในการสร้าง MonsterVerse ด้วยซ้ำ)
แต่ใน Godzilla vs Kong จุดนี้คือ พังทลาย! ฝั่งมนุษย์กลายสภาพเป็นตัวประกอบในแบบที่เอาใครมาเล่นก็ได้ เมื่อลดถอนเรื่องของมนุษย์ มิติมุมมองที่มีต่อการต่อสู้ของสัตว์ประหลาดยักษ์ต่าง ๆ เลยหายไป ซึ่งสะท้อนไปถึงฉากแอ็คชัน ที่มุมกล้องที่ถูกใช้มากที่สุด คือ ฉายภาพกว้างในลักษณะการเผชิญหน้า ในรูปแบบที่ไม่ต่างจากฉากในเกม Fighting ไม่มีอีกแล้วมุมกล้องแปลก ๆ ใหม่ ๆ มุมมองผ่านมนุษย์ที่เงยหน้าเห็นการต่อสู้ของสัตว์ประหลาดยักษ์ ที่แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของตัวสัตว์ประหลาดยักษ์ ความน่ากลัวของการต่อสู้ พลังอำนาจที่มนุษย์เกินจะควบคุม..
สรุปสุดท้าย
หากใครเป็นสายจริงจัง แล้วคิดจะไปดู อาจทำใจสักนิดกับเนื้อเรื่องและความเป็นเหตุเป็นผลของหนัง แต่สำหรับคนดูสายบันเทิง Godzilla vs Kong คืองานที่ตอบโจทย์ด้านความบันเทิง เพื่อคนดูสายบันเทิงอย่างแท้จริง เป็นหนังอีกเรื่องที่คู่ควรกับการออกจากบ้าน ไปตีตั๋วดูในโรงภาพยนตร์ และหากใครพอไม่ติดขัดทางด้านทุนทรัพย์ ขอแนะนำให้จัดตั๋ว IMAX เพื่อประสบการณ์ความบันเทิงที่คู่ควรกับมวยคู่ยักษ์หยุดโลกแห่งปี 2021
Godzilla vs Kong
โฆษณา