"เกิดมาทำไม"
เล่าสู่กันฟัง..ตอนที่.4
วิถีชีวิต..ของเด็กเวียดนาม..🇻🇳
ก็เหมือนเด็กทั่วไป มีความดื้อซนตามประสาเด็ก..ต่างกันแค่ชีวิตในวัยเด็กของ ด.ญ.ดำ
ไม่ค่อยมีเพื่อน..อย่างที่เคยบอกไปในตอนแรกว่าเพราะอะไร !!!
นั่งรื้อค้นหารูปของตัวเองเพื่อมา..ประกอบการเล่า..แต่หาไม่มี..รูปที่เด็กสุดก็ลงไปในตอนแรกแล้ว..ก็เลยได้รูปเด็กคนนี้มาแทน..
เห็นแววตาใสซื่อของเด็กคนนี้..ชอบเลยจิ้กมาใช้😁..ไปโหลดมาว่างั้น..
มาเข้าเรื่อง ด.ญ.ดำ กันต่อ..
ด้วยความที่เป็นเด็กสุขภาพ..ไม่ค่อยดี
เลยได้สิทธิ์พิเศษ..ไม่เคยโดนพ่อกับแม่ตี
ถึงจะมีดื้อบ้าง ไม่เชื่อฟังพ่อแม่บ้าง..แต่ ด.ญ.ดำ เป็นเด็กดื้อเงียบ..ไม่เถียงใคร..แต่ไม่ทำตาม..
เวลาไม่พอใจอะไรก็สบัดก้นหนีเอาดื้อๆ
ทำหน้าดื้อๆ..มึนๆ..เดินหนีไปเลยเวลาโดนดุ😅
ด้วยความที่ว่าย่าเป็นคนเลี้ยง..เพราะแม่ไม่ว่างพอจะเลี้ยง เลยค่อนข้างเอาแต่ใจนิดๆ..
พูดถึงย่าแล้วตั้งแต่จำความได้ถึงตอนนี้..
ย่าเปรียบเหมือนเป็นทั้งชีวิตของ ด.ญ.ดำ..
เพราะย่ารักและเอาอกเอาใจ..ตามใจทุกอย่าง
ไม่ว่าอยากได้อะไร..ย่าจะคอยหามาให้..
ตอนกลางคืนเวลานอนกับย่า..แค่บ่นว่าปวดขา..
ย่าก็จะรีบลุกขึ้นมานวดให้ทันที.
เวลาอยู่กับย่ามีความ"สุข"เป็นที่สุด...ดุจราวกับว่าชั้นคือคนพิเศษ..รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเจ้าหญิง..ทำนองนั้นเลยเชียว..😁
ไม่เคยมีซักครั้งที่ย่าจะขัดใจ..ไม่ว่าอยากกินอยากได้อะไร ถึงแม้บ้านเราจะไม่ได้ร่ำรวย
แต่ย่า..สามารถเนรมิตให้ได้ทุกอย่าง..
ด.ญ.ดำ..เลยได้ใจไง...ชั้นมีองครักค์คอยปกป้อง..ยืดได้ว่างั้น😁
เพราะฉนั้นเวลาที่ดื้อแล้วจะโดนพ่อตี
ถ้าย่าอยู่นะ..พ่อจะโดนว่า..แกจะทำอะไรหลานชั้น..จะตีมันเหรอ!!
มันยังเด็กจะตีมันทำไมพูดดีๆ มันก็รู้เรื่อง..
ด.ญ.ดำ ก็จะรู้สึกดีทุกครั้งไป..ที่ดื้อแล้วไม่โดนตี..เหมือนจะดื้อนะเรา..😁
เมื่อถึงวัยต้องเข้าโรงเรียนแล้ว..ต้องไปเรียนหนังสือ..ด.ญ.ดำ ตอนนั้นยังไม่ได้สัญชาติไทย..ต้องใช้ชื่อในโรงเรียนว่า..
ด.ญ.ดำ เหงี่ยนถิ..ไม่เคยชอบชื่อนี้เลย
เซ็งทุกครั้งที่มีคนเรียกชื่อ..🙄
จากบ้านที่อยู่..เดินถึงโรงเรียนไม่ถึง 1กิโลเมตร
ทุกเช้าจะงอแงกับย่าตลอดว่าไม่อยากไปโรงเรียน..ไม่อยากเจอใคร..ไม่อยากพูดกับใคร.. อยู่กับย่าดีที่สุดปลอดภัยที่สุด..
สุดท้ายก็ไปเข้าเรียนโรงเรียน..แห่งนึงในตัวจังหวัด..
ไปเรียนหนังสือกับเด็กคนไทย..เรียนภาษาไทยแบบเด็กไทย..ไม่ได้เรียนหนังสือเวียดนามนะ..แค่พูดได้..แต่อ่านหนังสือเวียดนามไม่ออก..เพราะพ่อกับแม่ไม่ได้สอน
(เคยสอนแต่ไม่จำ)😁😁😁
ทุกเช้าที่โปโรงเรียน..ถ้าเป็นตอน ป.1กับ ป.2
พ่อกับแม่จะคอยเตรียมอาหารไว้ให้กิน..
ก่อนที่จะไปโรงเรียน..เมนูหลัก..เห็นจะหนีไม่พ้น..ข้าวต้มเส้น..ไม่ก็ปากหม้อเวียดนาม..
บางวันที่แม่ไม่มีเงินก็ได้กินข้าวต้มกุ้ยกับซอส
หรือที่แย่กว่านั้นคือ..ต้องไปนั่งกินปากหม้อลงบิล..ลงบิลหมายถึงไปกินเซ็นไว้ก่อน..จ่ายทีหลัง.. ไม่อยากเจอข้าวเช้าลงบิลเลย..
ไม่อยากเห็นสีหน้าที่ไม่พอใจ..ของคนขาย
เรากับพี่น้องตอนนั้นสามคน..และมีตามมาอีกสองคนทีหลัง..เราสามพี่น้องนั่งเรียงรอที่เก้าอี้ไม้ยาวๆ.โต๊ะแบบเตี้ยๆ..ทีคนเวียดนามชอบใช้นั่งกัน..ได้แต่นั่งก้มหน้าก้มตารอแม่ค้าปากหม้อทำให้ทาน...
นั่งชิดๆหน่อย..แบ่งให้คนอื่นนั่งบ้าง..เสียงแม่ค้าปากหม้อที่คอยเอ็ดเราสามคนพี่น้อง..
..คิดในใจ..นี่ก็นั่งชิดจนขยับตัวไม่ได้แล้วจะเอาอะไรอีก...เบื่ออีสายตาของแม่ค้า..ที่คอยจิกเหมือนไล่เราสามคนด้วยสายตา..
ถึงแม่จะให้ลูกกินเซ็นไว้ก่อนแต่แม่ก็จ่ายทีหลัง..คงไม่มีใครอยากจะกินติดหนี้..
ถ้าไม่จำเป็น...นี่ก็อีกปัญหาของการมีลูกเยอะ
ชีวิตในแต่ละวันของ ด.ญ.ดำก็ผ่านไปเช่นนี้
จะมีความสุขดีใจ..ก็ตอนกลับจากโรงเรียน..ที่ย่าหาขนมไว้รอ..ก็คือแตงไทยคลุกน้ำตาล.เก็บไว้ในตู้กับข้าว..ของโปรดในตอนเด็ก..สมัยนั้นไม่ค่อยได้กินขนมถุง..แบบเด็กทุกวันนี้..ส่วนนึงคือ..ย่าไม่ค่อยมีเงินนานๆ จะได้กินขนมอร่อยๆ..ก็เฉพาะช่วงตรุษจีน ไม่ก็ช่วงที่ย่า..กลับจากหาอาที่กรุงเทพฯ..
ย่าจะซื้อขนมอาเชนอล..กล่องวงกลมสีแดง
เป็นขนมที่ชอบมากกกก..กินแล้วมีความสุข
ทุกครั้งที่ย่ากลับจากรุงเทพฯก็จะได้กิน..
"รักย่าจัง"🥰
บทสรุปของตอนนี้..
เด็กดื้อเงียบ
(ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้คะ🙏)
ฝากติดตามจีด้าตามช่องทางอื่นด้วยนะค่ะ
tiktok@JidaStylist
tiktok Jidapa.24
โฆษณา