29 มี.ค. 2021 เวลา 04:00 • ความคิดเห็น
ที่มาของวลี
" No gods or kings. Only man. "
(ไม่มีพระเจ้าหรือราชา มีเพียงแค่มนุษย์ธรรมดา)
2
ใครที่ตามสถานการณ์ปัจจุบันคงจะเคยเห็นป้ายแบนเนอร์ที่เขียนวลีนี้(หรือคล้ายๆ)กันบ้าง มันมาจากไหน? วันนี้ผมจะมาแชร์ให้ฟังกัน
วลีนี้จริงๆแล้วมาจากเกมที่มีชื่อว่า 'Bioshock' (ไบโอช๊อค)ภาคแรก เกมดังในอดีตเมื่อปี 2007 และมันก็แค่นี้แหละครับ จบแล้ว (555555)
ใครที่สนใจเพิ่ม ผมจะอธิบายเพิ่มเติมให้ด้านล่างครับ
จุดเริ่มต้นเกิดจากมหาเศรษฐีนามว่า Andrew Ryan (แอนดริว ไรอัน) ชายผู้สร้างตัวได้จากธุรกิจนํ้ามันและการลงทุน เขาเกิดมีปัญหากับลัทธิความเชื่อบางลัทธิ และไม่พอใจในกลไกสังคมต่างๆ อาทิเช่น ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นเจ้าของป่าขนาดใหญ่เพื่อเป็นสถานที่พักผ่อนส่วนตัว แต่แล้วก็ได้รับแรงต่อต้านจากลัทธิบางลัทธิว่าป่าแห่งนี้เป็นของพระเจ้าบ้าง เป็นของส่วนรวมบ้าง พวกลัทธิเรียกร้องให้เขาจัดตั้งสวนสาธารณะเพื่อแบ่งปันพื้นที่ให้กับสังคม หรือการที่เขาถูกรัฐบาลพยายามบีบบังคับให้เขาเปลี่ยนป่าแห่งนี้ให้กลายเป็นอุทยานแห่งชาติ
2
ไรอันนั้นเกิดความไม่พอใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากป่าแห่งนี้ถือเป็นทรัพย์สินส่วนตัวของเขา ทำไมต้องมีใครพยายามจะมาแย่งของๆเขาไปด้วย เขาจึงโต้กลับด้วยการเผาทั้งป่าทิ้งมันซะเลย (ก็กูรวย จะทำไม!?)
1
ตัวของไรอันนั้นเขาไม่ชอบในกลไกต่างๆในสังคมโลกเป็นอย่างมาก ทรัพย์สินต่างๆที่เราเป็นเจ้าของก็ควรจะเป็นของเราจริงๆ หรือจะเป็นผลงานการสร้างสรรค์อื่นๆที่ต่างก็มีคนพยายามมาแย่งไปหรือโดนปิดกั้น
1
เขาจึงเกิดไอเดียที่จะสร้างเมืองๆหนึ่งขึ้นมา นั่นคือเมือง 'Rapture' (แรพเจอร์)
'แรพเจอร์' เมืองใต้นํ้าที่ไม่เคยหลับไหล
เมืองแรพเจอร์ คือเมืองใต้นํ้าขนาดใหญ่ที่ไรอันสร้างขึ้นมา ภายใต้คอนเซปต์ที่ว่า
" No gods or kings. Only man. " ไม่มีพระเจ้าหรือราชา มีเพียงแค่มนุษย์ธรรมดา ทุกคนคือคนเท่ากัน จะไม่มีใครอยู่สูงกว่าใครและจะไม่มีใครอยู่ตํ่ากว่าใคร ไม่ว่าคุณจะมีชื่อเสียงหรือยิ่งใหญ่มาจากไหน คุณก็เป็นแค่มนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งเหมือนกับคนอื่นๆ
7
การทดลองทางวิทยาศาสตร์จะไม่ต้องคำนึงเรื่องศีลธรรมเล็กๆน้อยๆอีก ผลงานทางศิลปะจะไม่มีทางถูกปิดกั้นอีก อะไรๆก็ตามที่คุณสร้างก็จะเป็นของคุณอย่างแท้จริง ไม่มีใครสามารถชิงมันไปจากคุณได้ ทุกๆอย่างในเมืองนี้จะเป็นไปตามธรรมชาติของมัน
2
" เพราะศิลปะไม่เป็นเจ้านายใคร! และไม่เป็นขี้ข้าใคร! "
3
บรรยากาศภายในเมืองแรพเจอร์
จะเห็นว่าความหมายจริงๆของวลีนี้มันอาจจะไปไกลกว่าแค่ที่'เขียนไว้'นิดหน่อย อาทิเช่น เรื่องกฎเกณฑ์ต่างๆที่ไม่จำเป็นต้องมีเลย แต่สิ่งที่เหมือนกันระหว่าง 'ความหมายในเกม' และ 'การถูกนำไปใช้ในชีวิตจริง' คือ การที่ไม่มีใครอยู่สูงหรืออยู่ตํ่ากว่าใคร ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพที่เท่ากัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกปัจจุบันที่ทุกคนต่างเรียกร้องหาสิทธิเสรีภาพและความเท่าเทียม วลีนี้จึงปรากฏให้เห็นอยู่บ่อยครั้งไป
โฆษณา