29 มี.ค. 2021 เวลา 11:27 • ข่าว
Podcast..รายการหนึ่งถ้วยกาแฟ ข่าวดีเรือ ขวางคลอง เดินได้แล้ว
เรือสินค้าขนาดยักษ์ที่เกยตื้นขวางคลองสุเอซนานเกือบ 1 สัปดาห์ กลับมาลอยลำได้สำเร็จเกือบ 100% ในเช้าวัที่29 มี.ค.64 และเริ่มเปิดเดินเครื่องยนต์อีกครั้ง ซึ่งทำให้มีความหวังว่าเส้นทางเดินเรือสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลกจะกลับมาเปิดการสัญจรได้ตามปกติในอีกไม่ช้า
บริษัท Inchcape Shipping Services แถลงผ่านทวิตเตอร์ว่า เรือ เอเวอร์ กีฟเวน (Ever Given) ความยาว 400 เมตร กลับมาลอยลำได้บางส่วนตั้งแต่เวลา 04.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น และอยู่ระหว่างตรวจเช็กสภาพ
หลังจากที่มีความพยายามขุดลอกทรายตลอดช่วงสุดสัปดาห์ ทีมกู้ภัยเรือจากองค์การคลองสุเอซ (SCA) และทีมงานจากบริษัท Smit Salvage ของเนเธอร์แลนด์ ก็ได้เริ่มใช้เรือลากจูงกว่า 10 ลำ ดึงเรือยักษ์จากทั้งส่วนหัวและท้ายตั้งแต่ช่วงกลางดึกของวันที่29 มี.ค.64
ล่าสุด SCA ยืนยันว่า เรือ เอเวอร์ กีฟเวน ได้ถูกดึงกลับมาอยู่ในแนวขนานกับลำคลองเรียบร้อยแล้ว และทีมกู้ภัยจะเริ่มปฏิบัติการลากจูงเรืออีกครั้งหลังจากที่กระแสน้ำขึ้น โดยคาดว่าจะสามารถเปิดคลองสุเอซให้เรือสินค้าสัญจรผ่านได้ตามปกติหลังจากที่เรือ เอเวอร์ กีฟเวน ถูกนำไปยังบริเวณ Great Lakes ซึ่งเป็นจุดที่ลำคลองมีความกว้างเป็นพิเศษ
คลิปวิดีโอที่แชร์ผ่านโซเชียลมีเดียเผยให้เห็นว่าส่วนท้ายของเรือเริ่มหลุดออกมาจากตลิ่งฝั่งตะวันตกของคลองและเปิดช่องทางน้ำบางส่วน ขณะที่อีกคลิปหนึ่งมีเสียงผู้คนโห่ร้อง และเสียงเปิดหวูดเรือเฉลิมฉลองด้วยความดีใจ
ล่าสุด เว็บไซต์ติดตามเรือ VesselFinder ได้ปรับสถานะของเรือลำนี้เป็น “อยู่ระหว่างการเดินทาง” (under way) แล้ว
เรือ เอเวอร์ กีฟเวน เผชิญสภาพอากาศที่เลวร้ายและถูกกระแสน้ำพัดจนไปเกยตลิ่งคลองสุเอซเมื่อวันอังคารที่ 23มี.ค.64 เป็นเหตุให้การขนส่งสินค้าผ่านเส้นทางเดินเรือที่ใกล้ที่สุดระหว่างยุโรปกับเอเชียกลายเป็นอัมพาตนานเกือบ 1 สัปดาห์
โอซามา ราบี ประธานองค์การคลองสุเอซ (SCA) ของอียิปต์ ให้สัมภาษณ์กับ Extra News เมื่อวันอาทิตย์ (28) ว่า ขณะนี้มีเรือนานาชาติอย่างน้อย 369 ลำ ที่ต้องจอดลอยลำเพื่อรอที่จะล่องผ่านคลองสายนี้ รวมถึงเรือขนส่งสินค้า, เรือบรรทุกน้ำมัน และเรือบรรทุกก๊าซธรรมชาติ
การขนส่งสินค้าทางน้ำราว 15% ของทั่วโลกจะต้องผ่านคลองสุเอซ ซึ่งช่วยดึงเงินตราต่างประเทศเข้าสู่คลังอียิปต์ได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ
วิกฤตเรือยักษ์ขวางคลองครั้งนี้ ทำให้รัฐบาลอียิปต์ต้องสูญเสียรายได้ไม่ต่ำกว่า 14-15 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อวัน และการที่เรือลำนี้จอดปิดเส้นทางอยู่ก็ส่งผลให้อัตราค่าขนส่งของเรือบรรทุกน้ำมันพุ่งขึ้นเกือบ 2 เท่า
ทั้งนี้ ผู้ขนส่งสินค้าทางเรือบางรายตัดสินใจนำเรือไปอ้อมแหลมกู๊ดโฮปแทน ซึ่งจะต้องใช้เวลาเดินทางนานขึ้นประมาณ 2 สัปดาห์ และมีต้นทุนเชื้อเพลิงสูงขึ้นด้วย
Referrenc
ที่มา: รอยเตอร์

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา