30 มี.ค. 2021 เวลา 05:18 • การศึกษา
วิธีเปิด...
ตาทิพย์ (ตา 3))
หูทิพย์ (ฟัง)
จมูกทิพย์ (กลิ่น)
ลิ้นทิพย์ (รส)
กายทพย์ (สัมผัส)
2
อยู่ดีๆก็อยากเขียนเล่าให้พวกเราอ่าน เผื่อเป็นประโยชน์บ้าง
เปิด facebook เป็น v เกี่ยวกับการทำลวดลายโต็ะ อยู่ๆก็ได้กลิ่นขณะดูเค้าเทน้ำยาเคลือบ เป็นกลิ่นน้ำมันสนที่เป็นส่วนผสมของน้ำยาเคลือบ นิ่งรับรู้กลิ่นต่อ จะรับได้ครู่เดียวก็จางไป แต่ทำให้เรารู้ถึงกลิ่นของน้ำยาเคลือบได้ ทำให้กลับมาทบทวนวิชาของพ่อ ทำให้เราได้สภาวะทิพย์ทั้งประสาทสัมผัสทั้ง 5 เลย
ตาทิพย์ (การมอง)
มี 2 ลักษณะ คือ ตาที่เกิดจากการเชื่อมจิตโดยตรง เกศจะเรียกว่า ตาจิต
คุณสมบัติเค้าจะเป็นการมองในระบบกว้าง ถึง 360 องศา ในเวลาเดียวกัน ภาพจะเป็น 3 มิติแบบภาพสีจะเคลื่อนไหวเป็นแบบแอนนาเมชั่น
คนที่ฝึกได้แรกๆ จะเห็นตอนแรกส่วนใหญ่เป็นภาพขาวดำ แวบๆ มาเป็นภาพ 2 มิติภาพนิ่ง จากนั้นก็จะทะยอยมาที่ละภาพ ถี่ๆจนเริ่มเคลื่อนไหว เป็นช่วงๆจนในที่สุดก็เห็นภาพติดต่อกัน เป็นภาพมิติ 3 ส่วนจะชัดแค่ไหนอยู่ที่กำลังฐานจิตและการฝึกฝน
อีกลักษณะคือ ตา 3 เป็นตาที่อยู่บริเวณหน้าผากโดยตรง จะมองเห็นมุมแคบกว่า แต่เจาะทะลุได้ไกลกว่า สามารถมองได้เหมือนตาเอ็กซเรย์ เป็นสีเขียวสะท้อนแสงทั้งภาพเมื่อมองในที่มืด และสามารถทนกับภาพที่มีแสงจ้ามากๆที่ตาจิตไม่สามารถรับได้
ตาทั้ง 2 ระบบนี้ ในคนที่ตาเปิดใหม่ๆ ตาที่เปิดก่อนคือตาจิตน่ะ แต่คนทั่วไปมักเข้าใจว่าเป็นตา 3 ตรงหน้าผาก และเรียกรวมกันว่าตา 3
ส่วนตา 3 ที่หน้าผากมันจะค่อยๆเปิดเมื่อตาจิตค่อนข้างชำนาญ และเราจะค่อยๆเรียนรู้วิธีใช้จากแยกดูกับตาจิตเป็นช่วงๆจนใช้ร่วมกันผสมผสานแบบอัตโนมัตไปเลย ทำให้เราสามารถมองด้วยตาทิพย์ได้ในลักษณะ
-สามารถมองเห็นแยกระบบมิติทิพย์ที่ทับซ้อนในระบบมิติสสารได้
- เห็นจากข้างในจิตเราไม่ใช่ตาเนื้อ แม้เราจะหลับตาเนื้อก็สามารถมองเห็นได้
- สามารถมองเห็นดวงจิตมิติทิพย์ ในสถานที่มิติสสาร
- สามารถมองเห็นสถานที่มิติทิพย์ทับซ้อนสถานที่มิติสสาร
- สามารถมองเห็นได้ทั้งสิ่งที่เล็กกว่า การใช้กล้องขยายดู
- สามารถมองที่ใหญ่เป็นระบบจักรวาล
- มองภาพที่มีแสงสว่างจ้าหรือมืดเกินตากายเนื้อเห็นได้
- เป็นตาเอ็กซเรย์มองอวัยวะคือส่วนประกอบภายในของมิติสสารได้
วิธีเปิดตา 3 ทำไง? ที่จริงมันเป็นปัจจตัง บางคนก็มีฐานเดิมมาจากอดีตชาติ บางคนก็เกิดจากผู้มีบุญบารมีสูงๆเปิดให้ แต่สิ่งที่เริ่มต้นเหมือนกันคือการหมั่นนั่งสมาธิ สวดมนต์ อย่างสม่ำเสมอ วางจิตนิ่งๆ อย่าคิดอะไรล่วงหน้า อย่ากระวนกระวายที่จะเปิดตาให้ได้ เมื่อสนใจมองสิ่งใด จิตจดจ่อ มองแบบอย่าคิดหรือจินตนาการใดๆ ปล่อยให้จิตเค้าค้นแคะเอง เราดูเฉยๆ ทำเช่นนี้บ่อยๆ ข้อสำคัญจิตต้องนิ่งต่อเนื่อง เมื่อมีภาพแวบเข้ามา อย่าสงสัย อย่าตกใจ อย่าเพ่ง วางจิตเบา เบรอๆ แผ้วๆ แล้วมันจะได้เอง ที่สำคัญ ต้องหมั่นสร้างบุญบารมีช่วยเหลือผู้อื่นเพื่อเป็นตัวหนุนด้วย
หูทิพย์ (ฟัง)
- เป็นสภาวะได้ยินเสียงจากข้างในจิตเรา มิใช่ที่หูของร่างกาย
- ได้ยินได้ทั้งได้ทั้งเสียงของดวงจิต คน สัตว์ พืช ทั้งมิติทิพย์และมิติสสารที่อยู่ไกลมากๆ
วิธีฝึก ใช้วิธีฟัง เรากำหนดพูดคุยกับผู้คนในทิพย์ในใจไปเรื่อยๆ พูดไปเถอะ แบบตั้งใจว่าสื่อกัน และถ้าเริ่มได้ยินเสียงตอบอย่าตกใจ อย่าสงสัย อย่าคิดว่าเรามโน พูดคุยต่อไป (ในใจน่ะเดี๋ยวคนว่าเราเพี้ยน) สักระยะจะเป็นเรื่องราวขึ้น ถึงจะถามก็นึกในใจถามขึ้นมาเลย แล้วสังเกตุคำตอบ มันจะเริ่มได้ยินการโต้ตอบกับเราแบบไม่ได้ตั้งโปรแกรมการพูดไว้ก่อน คุยไป จะเริ่มได้ยินต่อเนื่อง อย่าคิดไปก่อนน่ะ ถามขึ้นแล้วนิ่งไม่ได้ยินก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวมันได้เอง วางจิตกลางๆ อย่าสงสัย เดี๋ยวเราจะเริ่มเข้าใจมันเอง
จมูก (กลิ่น)
คำว่าจมูกคือการได้กลิ่น ไม่ใช่ใช้จมูกกายเนื้อได้กลิ่น แต่มันเป็นความรู้สึกว่า มีกลิ่น แบบนั้นนี้ซึ่งความสามารถนี้สามารถได้กลิ่นทั้งในในระบบมิติทิพย์และมิติกายเนื้อที่อยู่ไกลมากๆ
ลิ้น (รส)
ไม่ใช่ใช้ลิ้มรสด้วยลิ้นกายเนื้อ แต่เป็นความรู้สึกจากจิต ว่ามีรสเปรี้ยว หวาน เผ็ด เวลารับรสจิตต้องนิ่งอย่าคิดนำ focusที่ของที่เราจะชิม มันจะรับรสเอง แต่มันไม่ใช่จากลิ้นน่ะ มันเป็นควารู้สึก เสมือนรสนั้นนี้เกิดขึ้นที่จิต
กาย (สัมผัส)
ความสามารถตรงนี้ มันจะเป็นตัวบอกว่าเป็นเรื่องจริงหรือมโน เช่นความรู้สึก เจ็บ อึดอัด ร้อน หนาว มันเป็นควารู้สึกที่อยู่ข้างใน เจ็บก็เจ็บในผิวลึกๆ ไม่ใช่ผิวภายนอก เราสร้างมันเองไม่ได้ ยิ่งจิตมีการฝึกละเอียดเท่าใด การสัมผัสยิ่งชัดมาก มันเป็นเสมือนพลังงานที่เข้ามากระทบรู้สึกสัมผัสได้แบบลึกๆ
ที่จริงสภาวะทั้งหมดนี้ มันเป็นความสามารถของจิตที่มีอยู่ในธรรมชาติของทุกคนอยู่แล้ว เพียงแต่มันถูกปิดไว้ เมื่อจิตเข้าถึงธรรมชาติตรงนี้หรือได้รับการกระตุ้นเปิดขึ้นก็จะสามารถทำได้ทุกคน และเมื่อเกิดขึ้นแล้ว ขึ้นอยู่ที่เราจะเชื่อหรือหมั่นฝึกฝนต่อยอดหรือไม่ เคล็ดที่สำคัญคือหมั่นฝึกฝนและนำไปใช้ช่วยเหลือผู้อื่น เป็นการต่อยอดให้พัฒนายิ่งขึ้น ข้อสำคัญคือ "กล้า อย่ากลัว"
ปล.ศึกษาให้ดี ความสามารถทั้งหมดนี้ ถูกสร้างและควบคุมด้วยจิตและกำลังของจิตทั้งหมด
ดังนั้น...สิ่งสำคัญคือการฝึกฝนจิตให้มีประสิทธิภาพ มีพลังพัฒนาต่อยอดขึ้นอยู่เรื่อยๆ โดย สมาธิ สวดมนต์ ฝึกใช้ ขยับจิต ค้นคว้าหาความรู้ ต่อยอด ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดเวลา เดี๋ยวความสามารถอื่นๆมันจะตามมาเอง เพราะจิตต้องใช้ความสามารถเหล่านั้นเป็นเครื่องมือในการขยับเป็นอ็อโต้อยู่แล้ว
โฆษณา