จีนแบนสินค้า H&M , Nike , Adidas เป็นแค่กระแสชาตินิยมหรือโปรโมชั่นขายสินค้า
หลังจากมีข่าวกลุ่มสันนิบาตเยาวชนคอมมิวนิสต์จีน (Communist Youth League)
ปลุกกระแสต่อต้านสินค้าแบรนด์ต่างชาติ ที่มีการอ้างถึงข้อตกลงของหน่วยงาน Better Cotton Initiative ว่าต้องการให้สมาชิกงดใช้ เส้นใยฝ้ายที่ผลิตมาจากแรงงานที่ถูกข่มเหงในซินเจียง
ซึ่งข้อตกลงนี้ได้ประกาศใช้ตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี2020 คำถามคือทำไมเพิ่งจะมีกระแสต่อต้านในช่วงนี้ ที่ข้อตกลงถูกประกาศออกมาแล้วเกือบ 5 เดือน
เหตุการณ์การแบนสินค้าต่างชาติในจีนไม่ใช่เรื่องใหม่
ถ้าย้อนดูข้อมูลข่ก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง
ในช่วงต้นปี 2008 เกิดเหตุการณ์รุนแรงที่ธิเบต ช่วงกลางปีในงานวิ่งคบเพลิงไฟโอลิมปิกที่ฝรั่งเศส มีผู้คนชุนนุมประท้วง ทำให้เกิดกระแสแบนห้าง Carre four
ในปี 2018 รัฐบาลเกาหลีใต้ต้องการติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธพิสัยกลางจากอเมริกา
ซึ่งทางรัฐบาลจีนไม่เห็นด้วย จึงเกิดกระแสแบนสินค้าเกาหลี และทำให้ห้าง Lotte ที่ก่อนหน้านี้มีสาขา 99 แห่ง ต้องปิดตัวไปเกือบทั้งหมด
ปี 2019 รัฐบาลอเมริกาเริ่มสงครามการค้ากับรัฐบาลจีน ตั้งแต่ปี 2018 และบริษัทจีนอีกหลายแห่งเริ่มถูกรัฐบาลอเมริกากีดกันทางการค้า
โดยเฉพาะการจับกุมตัว เหมิง วาน โจว CFO ของบริษัท Huawei
ทำให้กระแสแบนสินค้าอเมริกาปะทุขึ้น แต่ผลที่ออกมาในช่วงปลายปี ยอดจอง Iphone 11 สูงเป็นประวัติการณ์
ทำรายได้กว่าร้อยล้านหยวนภายใน 1 นาที ซึ่งทำให้ผลประกอบการของ Apple ในปีนั้นเพิ่มขึ้นสูงสุด
หลังจากการประชุมระหว่างตัวแทนจากอเมริกากับจีน
ที่อลาสก้า ทำให้ความขัดแย้งของทั้งสองประเทศดูเหมือนยิ่งแตกแยกขึ้น
ซึ่งมีสื่อจีนหลายสำนักไปเปรียบเทียบว่าสถานการณ์ของจีนกับนานาชาติในเวลานี้คล้ายกับจีนในสมัยปี 1900
ซึ่งปีทางโหราศาสตร์จีนเรียกว่า 庚子年 เกิน จื้อ เนียน และบังเอิญว่า ปี 2020 ที่ผ่านมาก็เป็น เกิน จื้อ เนียนเหมือนกัน
จึงมีการวิเคราะห์เชื่อมโยงกันถึงเหตุการณ์ในปี 1900 คล้ายกับสถานการณ์ในปัจจุบัน คือปี 1900 เป็นปีที่จีนทำสงครามกับกองทัพนานาชาติ (8 ประเทศ)
และในปีนี้ผ่านมากว่า 120 ปี เกิน จื้อ เนียน ได้วนมาอีกรอบ ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับชาติมหาอำนาจทั้งในยุโรปและเอเชียล้วนไม่ค่อยดีนัก
รัฐบาลจีนจึงต้องการปั่นกระแสชาตินิยมเพื่อกลบปัญหาเรื่องความสัมพันธ์กับต่างชาติ แต่แล้วในวันที่ 24 มีนาคม ทางเพจของกลุ่มสันนิบาตเยาวชนคอมมิวนิสต์จีน (Communist Youth League)
ได้มีการรณรงค์ให้คนจีนแบนสินค้าที่ต่อต้านใช้ฝ้ายจากซินเจียง โดยมีการอ้างถึง H&M เป็นแบรนด์แรกที่กล่าวถึง
ต่อจากนั้นก็ทยอยมีสินค้าแบรนด์ต่างชาติอื่นๆ ถูกพูดถึงว่าให้คนจีนแบนสินค้าเหล่านี้
ในช่วงแรกตามข่าวที่ถูกเผยแพร่ตามสื่อต่างๆ ต้องยอมรับว่ารุนแรงทีเดียว จนกระทั่งทำให้สินค้าแบรนด์ต่างชาติบางเจ้าต้องยกเลิกคำชี้แจงเรื่องการงดใช้เส้นใยฝ้ายจากซินเจียง
เพราะในด้านธุรกิจตลาดการบริโภคของจีนก็ยังมีมูลค่ามหาศาล การเกิดความขัดแย้งกับกระแสสังคมย่อมไม่ส่งผลดีอย่างแน่นอน
นอกจากแบรนด์สินค้าบางยี่ห้อ ยอมปรับเปลี่ยนท่าทีแล้ว ยังมีดารานักแสดงฮ่องกง ไต้หวัน หลายคนที่มีผลงานและการแสดงหลักอยู่ในประเทศจีน
ก็ทำการยกเลิกสัญญาการเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กับสินค้าต่างชาติ เช่นกัน อาทิ Eason chen ศิลปินชาวฮ่องกงยกเลิกการเป็นพรีเซ็นเตอร์กับ Adidas หลังจากร่วมงานกันมากว่า10ปี
แต่แล้วมีสื่อฮ่องกงวิเคราะห์ว่าการยกเลิกสัญญาแบบนี้ Eason chen อาจจะต้องจ่ายค่ายกเลิกสัญญาเป็นเงินกว่า 260 ล้านบาทเลยทีเดียว
ในจุดนี้ก็มีการวิเคราะห์จากสื่อกีฬาหลายสำนักที่พูดถึงสมาคมฟุตบอลและสมาคมบาสเก็ตบอลของจีน ที่ได้รับการสนับสนุนเป็นเม็ดเงินมากมายจาก Nike
Eason Chen ดูเหมือนจะเป็นผู้รับเคราะห์จากกระแสชาตินิยมในครั้งนี้. ภาพจากMing pao
ในปี2018 สมาคมบาสเก็ตบอลจีนได้เซ็นสัญญากับทาง Nike ในการเป็นผู้สนับสนุนช่วยเหลือและร่วมพัฒนาวงการบาสเก็ตบอลจีน
ซึ่งในแต่ละปีจะมีทีมจาก NBA เดินทางแข่งขันที่จีนก็ผ่าน
คอนเนคชั่นทางNike
ในส่วนของสมาคมฟุตบอลจีนได้เซ็นสัญญาสนับสนุนการแข่งขันฟุตบอลลีกกับทางNike ในปี2018 เป็นระยะเวลา 10 ปีมีมูลค่ากว่า 13,000 ล้านบาท
และเซ็นสัญญากับชุดทีมชาติในปี 2015 ระยะเวลา 12 ปี มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท
เหล่านักฟุตบอลทีมชาติจีน เปิดตัวพร้อมNike ผู้สนับสนุน รายใหญ่
ความเป็นจริงการปฏิเสธความสัมพันธ์กับคู่ค้าต่างชาติที่ดำเนินกิจกรรมร่วมกันมานาน มันไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนที่ชาวเน็ตต้องการ
反美是工作, 愛美生活
ฟานเหม่ยสื่อกงจั่ว
อ้ายเหม่ยสื่อเซิงฮัว
หมายถึง "การต่อต้านอเมริกาคือหน้าที่การงาน รักชอบอเมริกาคือการใช้ชีวิตประจำวัน"
เป็นวลีที่เกิดขึ้นในปี 2018 ช่วงที่เกิดสงครามการค้าระหว่างจีนกับอเมริกา
และถูกหยิบมาเปรียบเปรยทุกครั้งที่มีการเปิดตัวIphone รุ่นใหม่
แต่แล้วกระแสชาตินิยมของคนจีนก็ไม่สามารถสู้กับโปรโมชั่นลดราคาสินค้าได้
จากรายงานข่าววันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา การรณรงค์แบนสินค้าต่างชาติ มีกระแสแค่3วันเท่านั้น
ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาคือวันที่ 27 และ 28 มีนาคม ทั้ง Adidas , Nike , H&M ล้วนออกโปรโมชั่นลดราคา 60-70% ผู้บริโภคชาวจีนล้วนให้ความร่วมมืออย่างดี สินค้าหลายอย่างขายหมดในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
ประชาชนเมืองหนานจิง เข้าแถวรอซื้อ รองเท้า Air Jordan ในวันที่ 27 มีนาคม
หรือ วันที่ 26 มีนาคม JD.com ได้ออกโปรโมชั่นรองเท้าผู้หญิง Nike ในราคา 699 หยวน มีชาวเน็ตกว่า สามแสนคนสั่งซื้อภายในเวลาไม่กี่นาที
คลิป คนจีนแห่ซื้อ Nike ลดราคา
คลิป ร้านสินค้าแบรนด์ต่างชาติจากเมืองต่างๆของจีน สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ต้องยอมรับว่าตลาดผู้บริโภคชาวจีนยังมีกำลังซื้อมหาศาล และเป็นแหล่งดึงดูดนักลงทุนและธุรกิจจากต่างชาติ
หน้าเพจ JD.COM ขายรองเท้าNike ในราคา699 หยวน
แต่ด้วยปัจจัยทางการเมืองที่มีอิทธิพลและส่งผลกระทบให้กับทุกเรื่องในจีน
ข้อมูลข่าวสารบางอย่างได้ถูกส่งออกจากสื่อกลางจีน ต้องพิจารณาให้รอบคอบว่าเท็จจริงมากน้อยแค่ไหน
จากเหตุการณ์แบนสินค้าต่างชาติในครั้งนี้ทำให้รู้ว่าประชาชนชาวจีนเอง ก็ไม่แตกต่างกับผู้บริโภคชาติอื่นมากนัก
จะมีกระแสชาตินิยมในโลก
โซเซียลออนไลน์รุนแรงแค่ไหน ความนิยมชมชอบสินค้าต่างชาติของชาวจีนก็ไม่ลดลง
จึงไม่แปลกที่คนจีน ปากบอกเกลียดอเมริกา แต่ก็ยังบริโภคซื้อสินค้าแบรนด์อเมริกาหรือพยายามหาความโอกาสโอนสัญชาติไปเป็นคนอเมริกาก็เป็นตัวอย่างที่พบเจอมากมาย
- 7
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
