หนูดี วานิษา เรซ
ถ้าพูดถึงเรื่องสมองคงพลาดไม่ได้ที่จะพูดถึงหนูดี วานิษา เรซ
เชื่อว่าหลายคนคงรู้เกี่ยวกับประวัติของหนูดีกันมาบ้าง
ต้องตามลายเซ็นต์😍
หนูดี วานิษา เรซ
จบปริญญาตรีเกียรตินิยมด้านครอบครัวศึกษา
จากมหาวิทยาลัยแมรี่แลนด์ คอลเลจพาร์ค สหรัฐอเมริกา
จบปริญญาโทเกียรตินิยมด้านวิทยาการทางสมอง
จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา
ปัจจุบัน
เป็นผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาด้านอัจฉริยภาพ
เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนวนิษา
ประธานกรรมการ บริษัท อัจฉริยะสร้างได้ จำกัด
ชนะล้านที่ 15 รายการ อัจฉริยะข้ามคืน
หนังสืออัจฉริยะสร้างได้
หนังสืออัจฉริยะสร้างสุข
หนังสือเล่นให้เป็นอัจฉริยะ
หนังสือจัดบ้านใหม่ถูกใจสมอง
หนังสือบันทึกคุณแม่
หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
จัดรายการวิทยุ
อื่น ๆ อีกมากมาย
งานเขียนเป็นสิ่งหนึ่งที่คุณหนูดีอยากจะทำหลังจากเรียนจบ
เพราะหนังสือสามารถเผยแพร่และให้ความรู้ได้อย่างทั่วถึง
ถ้าหากหนูดีเป็นอาจารย์สอนมหาวิทยาลัยความรู้ที่ได้เรียนมา
อาจจะกระจายได้ในกลุ่มคนที่ไม่มากนัก
ปัจจุบันคุณหนูดีหันมาให้ความสำคัญด้านอาหารเพื่อสุขภาพ
แพลนต์เบสต์ ใกล้ชิดกับธรรมชาติและรักษาสิ่งแวดล้อม
หนังสือ อัจฉริยะสร้างสุข เป็นอีกหนึ่งเล่มที่อ้อยชอบในเนื้อหา
คุณหนูดีลงเรียนวิชานี้กับ Dr. Howard Gardner
หลังจากเรียนจบ Dr.Howard Gardner
อวยพรให้กับนักศึกษาที่สำเร็จ
ขอให้ทุกคนลองไปหาเวลาที่จะประสบความล้มเหลวให้มาก ๆ
นั่นคือส่วนหนึ่งที่คุณหนูดีลงแข่งรายการอัจฉริยะข้ามคืน
เพราะอยากลองแพ้จะได้ทดลองเกี่ยวกับความล้มเหลวเชิงบวก
คุณหนูดีอธิบายเกี่ยวกับการทำงานของสมองเข้าใจง่าย
ด้วยการยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดเจน
1. คนที่เก่งคือมีรอยหยักในสมองเยอะ
คุณหนูดีตอบทันทีว่าไม่เกี่ยวกัน รอยหยักไม่มีผลใด ๆ
2. ยิ่งอายุมากยิ่งความจำสั้น
คุณหนูดีตอบว่าไม่จริง สมองสดใสได้ถึง 100 ปี
3. คุณหนูดีอธิบายว่า
คนเราต่างหากที่ทำให้สมองสับสน
สมองเสพติดกิจวัตรประจำวัน
ต้องการพักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอจะได้สดชื่น
นอนให้ครบ 8 ชั่วโมง
แต่สิ่งที่ทำคือนอนดึก ตื่นสาย
คิดอีกอย่างแต่การกระทำสวนทางกัน
สมองสับสันทำตัวไม่ถูกตกลงจะเอาอย่างไรกันแน่
สรุปสมองเลยต้องทำตามกิจวัตรประจำวันที่ทำเป็นประจำ
คือนอนดึก ตื่นสาย เราก็ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้
ไม่ได้เกิดจากสมองแต่เป็นพฤติกรรมของตัวเราเอง
สมองไม่สามารถเปลี่ยนทุกอย่างตามที่คนเราต้องการได้ภายในระยะ
เวลาสั้น ๆ หากต้องการเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เคยทำอยู่เป็นประจำ ๆ เป็น
กิจกรรมใหม่ต้องฝึกฝนและทำซ้ำ ๆ
4. สมองบงการชีวิต
อยากเลิกทำในสิ่งเคยทำแต่ก็ทำไม่ได้
อยากลืมในสิ่งที่ควรลืมแต่กลับจำ
5. ความเครียด
ความเครียดไม่ได้ทำร้ายสมองเสมอไปหาก
เครียดแบบสั้น ๆ ทำให้เราตื่นตัวระวังตัวมากขึ้น
เครียดแบบระยะยาวทำให้เกิดความเครียดเรื้อรัง
เช่น ทำงานที่เราไม่ชอบ เพื่อนร่วมงานที่ไม่ชอบ อยู่กับคนที่เกลียด
ความเครียดจะสะสมไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็นเรื้อรังและไปทำลาย
สมองได้ในระยะยาว หรือสูญเสียความทรงจำ
เรียกง่าย ๆ คือสมองเสื่อม
6. ทุกอย่างเริ่มต้นที่สมอง
ผ่านจิตใต้สำนึก
ยกตัวอย่างอีก 2 สัปดาห์จะลงแข่งเทนนิส โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม
กลุ่มแรกซ้อมจริง
กลุ่มที่สองไม่ซ้อมแต่ให้คิดและจินตนาการเหมือนซ้อมจริง
ผลลัพธ์คือ ผลการแข่งขันออกมาเสมอกันไม่มีความแตกต่าง
ทุกอย่างที่คิดเกิดขึ้นจริง
การคิดและการลงมือทำจริงคือเส้นทางเดียวกันมีค่าเท่ากัน
สมองแยกไม่ออกว่าสิ่งไหนจริง สิ่งไหนเป็นเพียงความคิด
ตัวอย่างเช่น พรุ่งนี้มีการพรีเช้นส์งาน
ก่อนนอนให้จินตนาการหรือคิดเหมือนจริง
ใส่ชุดอะไร
เดินแบบไหน
พูดอะไร
ผู้คนในห้องบรรยายมีใครบ้าง
ลักษณะสีหน้าท่าทางของผู้ฟังเป็นแบบไหน
คิดตั้งแต่ต้นจนจบรายการยิ่งละเอียดยิ่งดีกับตัวเอง
และผลลัพธ์มันจะออกมาแทบจะเหมือนทุกอย่างกับที่เราคิดไว้
เพราะฉะนั้นการคิดจึงมีผลกับเราเป็นอย่างมาก
คิดในสิ่งที่เราต้องการ
บางคนคิดลบ
สิ่งที่เกิดขึ้นก็เหมือนกับที่คิด
เพราะฉะนั้นควรระมัดระวังในเรื่องของการคิด
7. อย่าเชื่อในสิ่งที่สมองบอก
สิ่งที่คิด สิ่งที่เห็นต้องตรวจสอบก่อนเชื่อ
เพราะสมองจะจำเหตุการณ์ในอดีตและตีความ
เช่น เราเคยเจอคนที่มีรอยสัก มีหนวดเครารุงรัง
กระชากกระเป๋า หรือเราเห็นคนที่มีลักษณะแบบนี้ในข่าว
จึงเอาประสบการณ์ในอดีตมาตัดสิน
ซึ่งคนที่อยู่ตรงหน้าเราในตอนนี้ลักษณะที่เคยเจอ
เป็นคนดี
การดูแลสมอง
1. นอนหลับให้เพียงพอ ควรนอนก่อน 4 ทุ่ม
นอนทดแทนไม่ได้เพราะมนุษย์ถูกกำหนด้วยวงจรของพระอาทิตย์
หมายถึงนอนตีสองและนับไป 8 ชั่วโมง แบบนี้ไม่ได้ส่งผล
ทำให้สมองดีขึ้นมาได้
อยากรู้ว่าเซลล์สมองแข็งแรงหรือไม่
ให้เช็คที่ผิวหน้าของตัวเอง
2. การออกกำลังกายคืออาหารสมอง
เมื่อออกกำลังกายเราก็จะได้รับอ๊อกซิเจนเพิ่มในเม็ดเลือด
และฟื้นฟูสมอง
3. การนั่งสมาธิและสูดลมหายใจ
การนั่งสมาธิช่วยให้สงบจิตสงบใจให้มีสติ
เพราะการนั่งสมาธิช่วยให้เรากำหนดลมหายใจเข้าออก
ได้รับรู้ช่วยให้สมองผ่อนคลายและสงบลง
4. อยากเป็นอะไรให้ฝึก
เมื่อสมองเสพติดกิจวัตรประจำวันที่ทำอยู่เป็นประจำและเราต้องการ
ที่จะเปลี่ยนแปลงเราต้องฝึกสิ่งใหม่ ๆ นั้นเป็นประจำและทำสม่ำเสมอ
เพราะสมองไม่สามารถเปลี่ยนได้ในระยะเวลาอันสั้น
อยากเป็นแบบไหน
อยากมีชีวิตอย่างไร
ให้คิดแบบนั้น
และลงมือทำ
อะไรที่มีคุณค่าก็สละเวลาไปทำ
ทำอะไรก็ทำให้ดีที่สุด
ใครสนใจหรือชอบคุณหนูดีติดตามได้ที่
IG : noodi_vanessa
FB : อัจฉริยะสร้างได้
Youtube : Noodee BrainWorks
Nuzest ไลน์@nuzest
ติดต่อทางเมล งด DM ค่ะ
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
