ว่าด้วยเรื่อง “ข้าว” ในความเข้าใจของสามีฝรั่ง
โดยทั่วไปคนไทยเราส่วนใหญ่จะกินข้าวสวยคู่กับเมนูต่างๆ เช่นเดียวกับที่ฝรั่งส่วนใหญ่จะกินขนมปังคู่กับเมนูต่างๆของเขา เอาเป็นว่าทุกบ้านของฝรั่งต้องมีขนมปังติดบ้านไว้ฉันใด คนไทยก็ต้องมีข้าวติดบ้านไว้ฉันนั้น...
ความแตกต่างอันเล็กน้อยนี้ทำให้การใช้ชีวิตของ 2 สามีภรรยา (คริสโตสและเล็กซ์) ต้องมีการปรับจูนเข้าหากัน จากแต่ก่อนคริสจะกินแต่ขนมปังกับเมนูอาหารทุกมื้อและจะพยายามให้ฉันผู้เป็นภรรยานั้นกินมันด้วย แต่ฉันผู้ซึ่งไม่ชอบทานอาหารสไตล์ฝรั่งเลย 555 (แต่ก็นะพรหมลิขิตหรือผีผลักไม่รู้ ทำให้ได้มาเป็นผัวเมียกัน) เอาน่าาา...ในเมื่อมันต้องอยู่ด้วยกัน มันก็ต้องหาทางปรับให้อยู่ด้วยกันจนได้ ว่าแต่ใครจะปรับก่อนล่ะ อ่ะแน่นอนค่ะ ไม่ใช่ฉันก่อน 100%
ข้าวหอมมะลิที่ต้องการ
เริ่มมื้อแรกของการใช้ชีวิต คือ มื้อเช้า แน่นอนมื้อเช้าไม่ใช่ปัญหาใหญ่ของฉันสักเท่าไหร่ เพราะเรายังสามารถหาวัตถุดิบง่ายๆได้ อย่าง “ไข่” เป็นต้น ฉันก็จัดเลยสิค่ะ ไข่ต้มกับบล๊อคโคลี่ กินมันแบบคลีนๆนี่แหละ และก็สเต๊กหมู เนื้อ ไก่ในแต่ละมื้อเที่ยงของแต่ละวัน ฉันกินแบบนี้ประมาณ 2-3 วัน หลังจากนั้นคริสก็พาไปเดินซื้อของที่ซุปเปอร์มาเก็ต ซึ่ง 90% เป็นวัตถุดิบที่ฉันไม่รู้ว่ามันใช้ทำอะไร เพราะเป็นคนไม่ทำอาหารเลย และหน้าตาก็ไม่ค่อยจะเคยเห็นจากที่ไทย อะไรตัวไหนใช้แทนผักของไทยบ้านเราได้บ้าง ก็เดินๆไปเรื่อยๆ จนเจอมุมข้าว ใช่ค่ะ ข้าว แต่มีข้าวหลากหลายชนิดมากกกกกมาจากหลายประเทศ มีให้เลือกประมาณ 10 ชนิด ฉันใช้เวลาดูสักพักและก็ต้องกรี้ดดดด ทุกคนนนนฉันเจอ “ข้าวหอมมะลิ” จากประเทศไทย ห่อละ 1 กิโลกรัม ไม่รอช้าค่ะ รีบหยิบใส่รถเข็นทันที พร้อมกับคิดในใจว่า รอดแล้วเรา อย่างน้อยก็กินข้าวสวยกับหมูทอด ไข่เจียวก็ยังดี ...
(ต้องบอกทุกคนก่อนนะคะ ในช่วงที่ฉันมาอยู่ที่เยอรมันนั้นเป็นช่วงที่ประเทศเริ่มล๊อคดาวน์จากสถานการณ์โควิด 19 ทำให้ไปร้านเอเชียหรือร้านอื่นๆ ไม่ได้ นอกจากซุปเปอร์มาเก็ตสำหรับซื้อวัตถุดิบในการทำอาหารเท่านั้น)
จากที่ในความคิดที่มีในหัวว่าจะได้กิน “ข้าวสวยร้อนๆกับหมูทอด” ก็ต้องพังลง ด้วยเหตุที่ว่า บ้านไม่มีหม้อหุงข้าว ซึ่งมันก็ยากมากสำหรับการหุงข้าวจากหม้อต้มธรรมดา ฉันจึงจำใจทำเป็นข้าวต้มแทน แต่ก็นั่นแหละค่ะคุณผู้ชมมมมม มันไม่สุด ทำให้ต้องเดือดร้อนสามี รีบค้นหาหม้อหุงข้าวจากแอพ amazon และสั่งมันทันที จากนั้นฉันก็มีความสุขกับการทานข้าวสวยหอมมะลิร้อนๆ จนทำให้คริส สามีของฉันเห็นแล้วว่า “ข้าว” ทำให้ฉันมีความสุขและไม่ค่อยมีปัญหา (โวยวาย) เรื่องกินเท่าไหร่... จึงทำให้เรา 2 คน สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ (ได้สักระยะ) 555
และแล้ววันที่ไม่คาดฝันก็มาถึง โดยเหตุการณ์ต่อจากนี้เกิดจากความรักและหวังดีของคริสที่อยากให้ภรรยาของเขามีข้าวกินไปนานๆ
หลังจากที่ทางเยอรมันได้มีการผ่อนปรนมาตรการล๊อคดาวน์ และร้านต่างๆก็เริ่มทะยอยเปิด แต่ก็ยังอยู่ในมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดอยู่ นางมีความจำเป็นต้องออกไปซื้อของบางอย่างที่นางต้องใช้ และฉันก็ขี้เกียจใส่หน้ากากตอนอยู่ข้างนอก เลยนั่งดูซีรี่ย์เกาหลีอยู่บ้าน จากนั้นนางหายจากบ้านไปสักพักใหญ่ๆ และกลับมาพร้อมกันรอยยิ้มตาสระอิหวานๆท่าประจำของนาง พร้อมกันประโยคที่ว่า
“ที่รัก ฉันมีอะไรจะให้ เธอต้องคาดไม่ถึงแน่นอน” ใช่ค่ะ ฉันคาดไม่ถึงจริงๆ
ทันใดนั้น คริสก็หยิบถุงขนาดใหญ่ถุงหนึ่งขึ้นมา พร้อมกับบอกว่า
“ฉันซื้อข้าวมาให้เธอ 4.5 กิโล ฉันเห็นว่ามันลดราคาและมันถุงใหญ่ด้วย ที่รักจะได้มีข้าวกินไปนานๆ”
ฉันก็ดีใจที่สามีสุดที่รักนึกถึงฉัน พร้อมทั้งเดินไป kiss และหยิบถุงข้าวออกมาดู แต่.....
จากท้องฟ้าที่สดใสของคริสก็เปลี่ยนเป็นมืดครึ้มทันที ฉันเริ่มโวยวาย...
“เธอซื้อมาได้ยังไง ฉันบอกเธอแล้วว่าต้องเป็นข้าวหอมมะลิ หรือไม่ก็ข้าวไรส์เบอรี่ (ดูจะเรื่องเยอะหน่อยนะคะ 55) ฉันไม่เอาข้าวอันนี้ ที่บ้านฉันไม่มีข้าวแบบนี้และถึงมันจะเป็นข้าวเหมือนกัน แต่มันก็ไม่หอมและอร่อยเหมือนข้าวหอมมะลิ ฉันบอกเธอกี่ครั้งแล้ว และทุกครั้งที่เธอไปซื้อกับฉัน เธอก็รู้ว่ามันคือข้าวหอมมะลิ”
ข้าวที่นางซื้อมาคือ “Basmati Reis” ข้าวบาสมาติ ซึ่งเป็นข้าวที่ปลูกในอินเดียและปากีสถาน เมล็ดข้าวจะมีขนาดยาวแหลม ไม่อ้วน (ตามรูปด้านล่าง) เวลาหุงจะออกแข็งๆลีบๆ ไม่นุ่มไม่หอมเหมือนข้าวหอมมะลิบ้านเรา
“Basmati Reis” ข้าวบาสมาติ
และก็อีกนั่นแหละค่ะฉันจำเป็นต้องบ่นยาว เพราะมันรู้สึกหงุดหงิด ทั้งบ่นไป ทั้งมองหน้านางไป ในใจก็สงสาร นางก็ได้แต่ทำหน้าเศร้า จนฉันก็ต้องยอมใจอ่อน
แต่นางก็ยังพยายามจะอธิบายว่า....
“ข้าวนี้มันก็กินได้นะเธอ (ฉันก็รู้ป่ะว่ามันก็กินได้ เฮ้ออ) และฉันก็ซื้อมาแล้ว ถึงเธอไม่ชอบ เราก็ต้องกินมันนะ เรามาช่วยกันกินนะที่รัก ฉันจำได้แล้วว่ามันต้องเป็นข้าวหอมมะลิ ครั้งหน้าฉันจะซื้อให้ถูกนะ”
หึหึ ในใจฉันนี่คือ ยังอีกนะ ยังจะบอกว่ามีครั้งหน้าอีกกก ฉันก็พยายามอธิบายเรื่องข้าวให้นางฟัง แต่ก็เหมือนนางก็ยังไม่เข้าใจว่า มันจะแตกต่างกันตรงไหน? มันก็ข้าวเหมือนกัน ฉันเลยยกตัวอย่างชีสให้นางฟังว่า...
“ดูอย่างชีสที่เธอกินแต่ละชีส หน้าตามันเหมือนกัน แต่มันก็ไม่อร่อยเหมือนกัน มันก็เหมือนข้าวที่เธอบอกว่าหน้าตาเหมือนกัน แต่มันก็ไม่ได้อร่อยเหมือนกันนะ” นางก็พยายามเข้าใจ...แต่ฉันก็ไม่กล้าปล่อยให้นางซื้อข้าวมาให้ฉันอีกแล้วว ฉันกลัวววว
แล้วทุกคนชอบ“ข้าว” แบบไหนกันคะ❓ชอบข้าวหอมมะลิเหมือนหรือเปล่าคะ?
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ 🙏และครั้งหน้าเล็กซ์จะมาเล่าปัญหาที่ต้องเจอเกี่ยว “ซอส” ให้อ่านนะคะ ฝากติดตามกันด้วยน๊าาา
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
