1 เม.ย. 2021 เวลา 05:48 • นิยาย เรื่องสั้น
ตำนานความรักจอมเวทย์สาว : Ending
ไดสุเกะวิ่งมาถึงบริเวณที่คาดว่าคงคาวินกำลังสู้กับมาร์ก็อตอยู่ และภาพที่เขาได้เห็นตรงหน้าทำให้เขาคิดว่า โมลิซ่าคงห่วงลูกศิษย์คนนี้มากเกินไป เพราะตอนนี้มันชัดเจนเลยว่า คนที่กำลังเสียเปรียบจริงๆคือมาร์ก็อตต่างหาก สภาพของเธอสะบักสะบอมมาก คนละเรื่องกับตอนที่เธอปรากฏตัวรอบแรกเสียอีก และไม่นานคงคาวินก็ปรากฏตัวออกมา
พริบตานั้นเพื่อนจอมเวทย์ของไดสุเกะ ก็ร่ายเวทย์สายฟ้าฟาดฟันใส่มาร์ก็อตทันที ซึ่งฝ่ายจอมเวทย์สาวก็สร้างเกราะคุ้มกันขึ้น ทว่ากลับไม่สามารถป้องกันศรธนูแสงอันใหญ่และยาว ที่คงคาวินร่ายขึ้นมาและโจมตีใส่โดยไม่ต้องการให้อีกฝ่ายตั้งตัวได้ มันพุ่งเสียบทะลุเกราะเวทย์ของมาร์ก็อต และทิ่มแทงเข้ากลางอกของเธอเต็มๆ
มาร์ก็อตกระอักเลือดออกมาจากปาก เธอเอามือกุมหน้าอกเอาไว้และพบว่ามันแทบไม่มีบาดแผลใดๆ ทำให้มาร์ก็อตรู้เลยว่าเวทย์เมื่อครู่ มีไว้สร้างความเสียหายภายในมากกว่าบาดแผลภายนอก และดูเหมือนว่าคงคาวินจะไม่หยุดเพียงแค่นี้ เขาร่ายเวทย์สร้างหอกอัสนีออกมา หมายจะปลิดชีพมาร์ก็อตให้ได้
ทว่ามาร์ก็อตกลับไม่ยอมให้ตนโดนปลิดชีพ จึงฉวยโอกาสนี้ร่ายเวทย์มนดำโจมตีใส่คงคาวินที่ยังอยู่ในช่วงร่ายคาถาอยู่ ทำให้ร่างของจอมเวทย์หนุ่มปลิวกระเด็นไปชนกับหลังต้นไม้ ไดสุเกะเห็นท่าไม่ดีจึงยิงธนูใส่มาร์ก็อต แต่เธอหลบได้และโต้กลับด้วยเวทย์มนดำ ทำให้ไดสุเกะลอยกระเด็นไถลไปกับพื้น
คงคาวินพยายามจะลุกขึ้นมาอีกครั้ง พลางก่นด่าในใจที่ตนเองประมาทไป มาร์ก็อตเห็นว่าฝั่งนั้นยังไม่ศิโรราบ จึงร่ายเวทย์บอลสีดำขนาดใหญ่หมายจะจบเกม แต่แล้วก็มีเปลวไฟรูปมังกรเข้ามาขัดขวางเสียก่อน ทำให้มาร์ก็อตเสียหลักในทันที ก่อนจะหันมาดูว่าใครโจมตี ซึ่งนั้นคือโมลิซ่ากับอาเธอร์นั้นเอง
"บังอาจมากที่ทำกับลูกศิษย์ของข้า" โมลิซ่ากล่าวอย่างเดือดดาล เธอพบว่าตนเองยังไม่มีแรงพอที่จะยืนทรงตัวได้เท่าไหร่ โชคดีที่มีไม้เท้าช่วย
"ดี ! เพราะคนที่ข้าอยากชำระแค้นคือเจ้า" มาร์ก็อตพูดและแหวะยิ้มออกมา ทั้งที่ตนเองก็อยู่ในสภาพที่ไม่ต่างจากโมลิซ่าเลย
นาทีนั้นมาร์ก็อตเป็นฝ่ายโจมตีก่อน เปลวไฟสีดำพุ่งเข้าโจมตีใส่โมลิซ่าในทันที แต่เธอใช้เวทย์สร้างบาเรียขึ้นมาได้ทันเวลา แต่ด้วยที่พลังยังไม่พื้นตัวดีทำให้บาเรียไม่ค่อยแข็งแกร่งอย่างที่ควร และดูเหมือนว่ามาร์ก็อตเองก็ดูออกว่าอีกฝั่งอ่อนแรงมาก จอมเวทย์มนดำจึงวาร์ปตนเอง มาโผล่ที่ด้านข้างของโมลิซ่าทันที
"เสร็จข้าละ"
มาร์ก็อตร่ายเวทย์สูญญากาศเข้าด้านข้าง ซึ่งเธอมั่นใจว่าอีกฝั่งป้องกันไม่ทันอย่างแน่นอน ทว่าอาเธอร์พุ่งตัวผลักโมลิซ่าออกไปและเวทย์สูญญากาศ ก็อัดกระแทกอาเธอร์อย่างจัง โมลิซ่าเบิกตากว้างที่เห็นคนรักรับพลังโจมตีแทนเธอ ร่างหมาป่าสูงใหญ่ก็ล้มทั้งยืนต่อหน้าทุกคน
"ไม่ !!!" โมลิซ่าร้องแทบขาดใจและพยายามที่จะมาหาอาเธอร์ แต่มาร์ก็อตรีบโจมตีซ้ำอีกครั้ง
ทว่าทันใดนั้นเองก็มีลูกศรธนูแสงนับสิบดอก พุ่งทะลุร่างของมาร์ก็อตอย่างรวดเร็วจนเธอไม่รู้ตัว ก่อนจะหันมาพบว่าคงคาวินยืนอยู่ข้างหลังเธอตอนไหนไม่รู้ และเขาก็ร่ายเวทย์อัสนีออกมา ฟาดฟันซ้ำอีกรอบซึ่งคราวนี้มาร์ก็อตไม่อาจหลบได้ จึงโดนแสงอัสนีฟาดใส่ร่าง เกิดเป็นประกายไฟท่วมร่างของบุตรีแห่งลินธอร์นในที่สุด
โมลิซ่าลุกขึ้นยืนและเดินมาดูอาการของอาเธอร์ที่จมกองเลือดอยู่ คงคาวินก็รีบวิ่งมาดูอาการเช่นกัน ตามด้วยไดสุเกะที่พยายามใช้คันธนูเป็นไม้เท้าในการเดิน โมลิซ่าพบว่าบาดแผลสาหัสมาก แต่เพราะอาเธอร์อยู่ในร่างหมาป่าทำให้รักษาชีวิตของชายหนุ่มไว้ได้ แต่ก็มิควรปล่อยเอาไว้
"รีบพาเขาไปที่อาศรมเดียวนี้" โมลิซ่าว่า
"ในสภาพนี้เลยหรือ" คงคาวินถาม
"ใช่" โดนสั่งมาแบบนี้คงคาวินก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทำตามที่ขอ โดยเขาต้องยอมรับว่าร่างหมาป่าของอาเธอร์หนักยิ่งกว่าก้อนหินเสียอีก
++++++++++++++++++++++
คงคาวินนั่งมองแม่น้ำและวิวทิวทัศน์ที่อยู่ไม่ไกลจากอาศรม หลังจากที่เมื่อคืนวานผ่านพ้นไป โมลิซ่าได้ส่งข่าวไปทาง "ฮานะ" แม่บุญธรรมของเขา ร่วมทั้งสมาพันธ์จอมเวทย์ด้วย คาดว่าอีก 4 ชั่วโมงพวกเขาก็คงเดินทางมาถึง ส่วนไดสุเกะนั้นก็นั่งตกปลาอยู่ที่ริมแม่น้ำ สภาพก็ไม่ได้ต่างจากเขามากนัก เช่นเดียวกับอาเธอร์ที่ตอนนี้จะกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือความสัมพันธ์ที่เขาตามไม่ทัน ระหว่างโมลิซ่าและอาเธอร์
"หายดีแล้วหรือถึงออกมานั่งตรงนี้" โมลิซ่ากล่าวก่อนจะมานั่งข้างๆคงคาวิน
"เพราะยาของท่านละมั่ง" คงคาวินว่า
"รู้สึกอย่างไรที่มารดาเจ้ามาที่นี่"
"เรื่องที่ท่านส่งข่าวบอกแม่นะ ไม่แปลกใจหรอกแต่ทำไมถึงให้สมาพันธ์มาที่นี่ด้วย"
โมลิซ่าจึงอธิบายว่าเรื่องของมาร์ก็อตนั้น มันจำเป็นต้องรายงานให้ทางนั้นรู้ และที่สำคัญข้อมูลอีกอย่างที่โมลิซ่าพึ่งรู้คือ มาร์ก็อตไม่ใช่คนเดียวที่เป็นทายาทของลินธอร์น ตอนนี้ทายาทคนอื่นๆยังไม่ปรากฏตัว อาจจะหลบซ่อนอยู่ในเงามืดอยู่จึงทำให้ทางสมาพันธ์ต้องสืบค้นหา แต่เธอคงไม่คิดที่เข้าร่วม
"แต่ว่าพวกมันทีเหลืออาจจะมาตามล่าท่านอีกก็ได้นะ มันไม่ค่อยปลอดภัยเลย" คงคาวินพูด
"เจ้าพูดถูกและข้ามีทางแก้แล้ว" โมลิซ่าว่า
"อะไรหรือ"
"ข้าจะสลายพลังเวทย์เป็นคนธรรมดา"
คำตอบของโมลิซ่าทำเอาคงคาวินหันขวับมามองทันที ร่วมทั้งไดสุเกะเองก็ยังหันมามองด้วยเช่นกัน พิธีกรรมสลายพลังเวทย์เป็นพิธีที่ทางสมาพันธ์รู้เท่านั้น แต่ปัญหาคือเมื่อโมลิซ่าเข้าพิธีกรรมดั่งกล่าว เท่ากับเธอจะมิใช่จอมเวทย์อีกต่อไป และอายุขัยของเธอก็เทียบเท่ากับคนธรรมดา แต่คงคาวินคิดว่าอาจารย์ของเขาไตร่ตรองมาดีแล้ว
"แปลว่าต่อจากนี้ข้าจะไม่ได้ฝึกกับท่านแล้วสินะ" คงคาวินพูด
"จากที่ข้าเห็นเจ้าสู้กับมาร์ก็อต ข้าก็รู้ในทันทีว่าหน้าที่ในฐานะอาจารย์หมดลงแล้ว เจ้าโตแล้วคงคาวิน มันถึงเวลาที่เจ้าต้องไปต่อโดยไม่มีข้า" โมลิซ่าพูดและลูบหัวลูกศิษย์เบาๆ
ภาพในอดีตก็ผุดขึ้นมาสมัยที่เธอได้รับตำแหน่งเป็นครูฝึก ให้กับเหล่าทหารจอมเวทย์นั้น ฮานะสหายรักก็ดึงหูลากเด็กชายตัวเล็กๆคนหนึ่งมาแนะนำให้กับโมลิซ่ารู้จัก เธอจำได้ว่าเด็กคนนั้นทั้งดื้อและไม่ชอบอ่านตำรา ชอบโดดภาคเรียนทฤษฎีประจำแต่ก็โดดเด่นในภาคสนาม ซึ่งตอนนี้เด็กคนนั้นก็เติบโตพร้อมที่จะเดินหน้าต่อโดยเธอหมดห่วงแล้ว
"ข้าไม่อยากเสียท่านไป แต่ก็ไม่อยากขัดขวางท่าน" คงคาวินพูด เขายอมรับว่าไม่อยากให้โมลิซ่าเข้าพิธีกรรมสลายเวทย์แต่ขณะเดียวกันเขาก็ไม่อยากขวางความสุขที่อีกฝ่ายตามหามานาน เพราะเขาพอจะรู้เรื่องคนรักที่ชื่อนาธานมาพอสมควร
โมลิซ่าก็โอบกอดคงคาวินอย่างปลอบโยน พร้อมกระซิบเบาๆว่า "เป็นบุญของข้าที่ได้เจ้าเป็นลูกศิษย์" สักพักก็มีจอมเวทย์ผ้าคลุมยาว 4 คนปรากฏกายขึ้น หนึ่งในนั้นคือฮานะ แม่บุญธรรมของคงคาวิน โมลิซ่าคิดว่าคงได้เวลาแล้วเธอจึงหันมาส่งยิ้มให้กับคงคาวิน ก่อนจะเดินไปสมทบกับพวกฮานะ โดยมีคงคาวินยืนส่งตามจากข้างหลัง
"เจ้าแน่ใจแล้วใช่ไหม" ฮานะถามเป็นครั้งสุดท้ายซึ่งโมลิซ่าตอบอย่างหนักแน่นทางสายตาจึงไม่มีใครถามอะไรอีก และพากันเดินหายเข้าไปในอาศรม ซึ่งคงคาวินไม่ได้เดินตามไปด้วย
"ลาก่อนครับอาจารย์"
+++++++++++++++++++++++
8 วันต่อมา
โมลิซ่ายืนมองท่ามกลางทุ่งดอกไม้สีชมพู เธอยืนมองไปที่อีกฟากฝั่งหนึ่งและนึกถึงคงคาวินที่ได้เดินทางออกจากหมู่บ้านไปแล้ว หลังจากที่เธอเข้าพิธีสลายเวทย์แล้วก็ได้มอบตำรามากมายให้แค่จอมเวทย์หนุ่ม เพื่อนำไปศึกษาต่อเพราะมันมิจำเป็นต่อหญิงสาวแล้ว และแล้วอาเธอร์หรือนาธานก็เดินมาสวมกอดโมลิซ่าจากด้านหลัง เธอจึงหันมาส่งยิ้มให้กับอีกฝ่าย
"เจ้าไม่เสียดายพลังอำนาจเหล่านั้นเลยหรือ" อาเธอร์ถามด้วยความสงสัย
"ข้าจะไม่โกหกเจ้า ข้ายอมรับว่าเสียดายมันเหมือนกัน แต่เจ้าสำคัญกับข้ามากกว่าสิ่งเหล่านั้น" โมลิซ่าตอบ
"แม้ว่าเจ้าจะไม่ได้เห็นหน้าลูกศิษย์ของเจ้าอีกเลยนะหรือ ข้ารู้นะโมลิซ่าว่าเจ้ารักและผูกพันกับเด็กหนุ่มคนนั้น"
"คงคาวินเหมือนลูกชายของข้า แต่เขาโตมากพอที่จะอยู่ได้โดยไม่มีข้า สิ่งที่ข้าทำมาตลอดคือชี้แนะนำทางเท่านั้น"
"แหม เจ้ามีจิตวิญญาณของแม่สูงนะ รู้ตัวหรือไม่" อาเธอร์ว่าและกุมมือโมลิซ่า
ไม่นานนักก็มีชาวบ้านคนหนึ่งร้องเรียกทั้งสอง โดยบอกว่าแขกมากันพร้อมแล้วพิธีกำลังจะเริ่ม ใช่แล้ว อาเธอร์กับโมลิซ่ากำลังจะเข้าวิวาห์กันแล้วนั้นเอง ทั้งสองไม่รอช้าก็เดินจูงมือตามชาวบ้านมายังลานกว้างของหมู่บ้าน ทุกคนต่างพากันโปรยดอกไม้ให้กับคู่รักอย่างปิติยินดี ทั้งสองเดินมายังแท่นพิธีซึ่งสตูคือผู้ประกอบพิธีนั้นเอง
จบบริบูรณ์
โฆษณา