Insight : Myanmar กำลังจะเจอข้อเสียเปรียบมหาศาลในโลกการเงิน โดย พื้นฐานการลงทุนหมูน้อยออมเงิน
วิกฤติของเมียนมาร์ กำลังสร้างผลกระทบอย่างที่เราคาดไม่ถึง นอกเหนือไปจากเหตุทางด้านการเมืองแล้ว
"วิกฤติทางด้านการเงิน" กำลังบีบเมียนมาร์จนหายใจไม่ออก
1. ดูเหมือนว่าวิกฤติของเมียนมาร์นั้นจะทำให้เค้าเกิดข้อเสียเปรียบอย่างมหาศาล
ก่อนหน้าที่จะเกิดการทำรัฐประหาร หนึ่งในข้อได้เปรียบที่เมียนมาร์มีเหนือประเทศอื่นๆเป็นอย่างมากคือ "ทรัพยากร"
ความสดใหม่ของประเทศเมียนมาร์นั้นมีค่อนข้างมาก
ทรัพยากรที่ว่านี้ไม่ได้หมายถึงเพียงแค่ทรัพยากรในธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังหมายถึงทรัพยากรในอากาศอย่างสัมปทานความถี่คลื่นที่ใช้ในวงการโทรคมนาคม
ทรัพยากรมนุษย์, แหล่งท่องเที่ยวภายในประเทศ, ระบบคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐาน ฯลฯ
การพัฒนาในมิติต่างๆเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในทั้ง 2 ทาง คือเป็นประโยชน์กับทั้งผู้คนในประเทศ และ คู่ค้าที่เข้ามาเจรจาการค้าด้วย
ในปี 2020 ที่เกิดวิฤติการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 นั้น แน่นอนว่าทางเมียนมาร์ก็ไม่ได้รอดพ้นจากเรื่องนี้แต่อย่างใด
2. รายได้ของรัฐลดลงในขณะที่ภาระหนี้ยังคงอยู่
เมื่อเกิดความวุ่นวายขึ้นในประเทศสิ่งที่หยุดชะงักไปนั้นไม่ได้มีเพียงแค่วิถีชีวิตของผู้คนเท่านั้น...แต่ยังไปทำให้เกิดการสะดุดในวงจรเศรษฐกิจด้วย
อ้างอิงจากข้อมูลของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)
https://www.imf.org/en/Topics/imf-and-covid19/COVID-Lending-Tracker
เมียนมาร์ คือ ประเทศในพื้นที่ของเอเชียและแปซิฟิค ที่มีการร้องขอความช่วยเหลือทางด้านการเงินจาก IMF มากที่สุด เป็นอันดับ 1
จากเบื้อมูลในเบื้องต้นนั้น ทางเมียนมาร์ได้ร้องขอความช่วยเหลือทางการเงินไปแล้วรวมเป็นยอดเงินกว่า 728.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ซึ่งวงเงินนี้เป็นสัดส่วนถึง 32.73% เมื่อเทียบกับความช่วยเหลือทางการเงินของกลุ่มประเทศในพื้นที่ของเอเชียและแปซิฟิค ที่มีการร้องขอไปกับทาง IMF
https://www.imf.org/en/Topics/imf-and-covid19/COVID-Lending-Tracker
IMF คือ องค์กรทางการเงิน เมื่อเป็นหนี้กับเค้าในที่สุดทางเราก็ต้องจ่าย
และราคาที่เราต้องต้องจ่ายนั้น...คงไม่มีใครทราบดีไปกว่าประเทศไทยอีกแล้ว
ประเด็นที่น่าสนใจคือ เมื่อเกิดความวุ่นวายทางการเมืองขึ้นทำให้เม็ดเงินที่หมุนในเศรษฐกิจตามรูปแบบปรกติเกิดการสะดุดขึ้น ... รัฐจะหารายได้จากไหนมาจ่าย?
คำถามคือ รายได้ของรัฐมาจากไหน?
รายได้ของรัฐส่วนใหญ่แล้วมาจากการจัดเก็บภาษีในด้านต่างๆ
เมื่อวิถีชีวิตของผู้คนและวงจรเศรษฐกิจเกิดการสะดุดขึ้น
First Impact คือ Covid-19 ในปี 2020
Second Impact คือ ความวุ่นวายภายในประเทศ ในปี 2021
ผลกระทบที่มีต่อประเทศเมียนมาร์นั้นอยู่ในจุดที่เรายากจะประเมินได้ครบถ้วน
ณ เวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ทุกประเทศต่างใช้มาตรการทางการเงินและการคลังรวมถึงความช่วยเหลือต่างๆกันอย่างเต็มที่เพราะถือว่าเป็นสิ่งที่มีผลกระทบร่วมกัน
หากเมียนมาร์ไม่สามารถจบเรื่องนี้ได้ในเวลาที่เหมาะสมแล้วล่ะก็ "ต้นทุนที่ประเทศต้องแบกรับไหวจะหนักหน่วงมาก"
3. ความสามารถในการควบคุมโรคและข้อมูลที่ยังไม่เปิดเผย
จุดนี้ค่อนข้างน่ากังวลครับว่า ท้ายที่สุดแล้วเมื่อประสิทธิภาพในการควบคุมโรคของทางฝั่งเมียนมาร์ลดลงจากเหตุการณ์ความวุ่นวายภายในประเทศ
เมื่อถูกควบรวมเข้ากับวงจรทางเศรษฐกิจที่สะดุดซ้ำอีกครั้งในปี 2021 นั้น
จะส่งผลให้ทางเมียนมาร์กลายเป็นเหมือนประเทศในฝั่งตะวันตกหรือไม่
https://www.worldometers.info/coronavirus/country/myanmar/
ซึ่งหากทางเมียนมาร์ไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้และถึงจุดที่อยู่เหนือการควบคุมเมื่อไหร่
ประเทศไทยที่เป็นประเทศเพื่อนบ้านนั้นจะหนีไปจากผลกระทบไม่ได้อย่างแน่นอน
ล่าสุดดูเหมือนว่าทางประเทศจีนจะสั่ง Lockdown ตามแนวชาวแดนที่มีพื้นที่ติดกับเมียนมาร์แล้ว
"เวลา และ สายน้ำไม่เคยไหลย้อนคืนกลับ" ไม่ว่ามีเงินมากมายสักเพียงใดก็ไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขเรื่องที่เกิดขึ้นไปแล้วได้
หวังว่าเมียนมาร์จะกลับมาสู่ความปรกติสุขโดยเร็ว
หมูน้อย
หากท่านใดอยากสนับสนุนหมูน้อย ฝากเข้าไปติดตามใน Facebook แฟนเพจของพื้นฐานการลงทุนหมูน้อยออมเงินได้ที่ลิ้งด้านล่างนี้ได้เลยครับ
ทางหมูน้อยจะได้มีกำลังใจในการผลิตเนื้อหาดีๆมาให้ทุกท่านได้อ่านกันอย่างต่อเนื่องครับ
reference
IMF : COVID-Lending-Tracker
Worldometer : Myanmar Covid Case
SCMP : China closes Myanmar border bridge and orders city lockdown after new cluster emerges
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
