3 เม.ย. 2021 เวลา 03:30 • ธุรกิจ
รู้จัก Mastrena เครื่องชงกาแฟในร้าน Starbucks ที่มีราคาสูงถึง 5 แสนบาท
5
เคยสงสัยกันหรือไม่คะว่าร้าน Starbucks ใช้เครื่องชงกาแฟแบรนด์ไหน ?
สำหรับใครที่เข้าร้านไปดื่มกาแฟร้านนี้บ่อย ๆ
ก็คงจะคุ้นตากับเครื่องชงกาแฟสีทองแดง ที่มีโลโก Mastrena เคียงคู่กับโลโกของ Starbucks
3
ซึ่งคำตอบของคำถามด้านบน ก็คือ Mastrena นั่นเอง
โดยเป็นเครื่องที่สั่งทำขึ้นมาเป็นพิเศษ และมีราคาสูงถึงเครื่องละ 500,000 บาทเลยทีเดียว
 
ที่น่าสนใจคือ เครื่องชงกาแฟ Mastrena นี้ ถูกผลิตโดยบริษัทที่มีพนักงานไม่ถึง 500 คน
แต่สามารถส่งออกเครื่องชงกาแฟไปกว่า 75 ประเทศทั่วโลก
และในปี 2019 ยังทำรายได้สูงถึง 8,500 ล้านบาท
แล้วเครื่อง Mastrena พิเศษกว่าเครื่องชงกาแฟอื่น ๆ อย่างไร ?
ทำไมแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง Starbucks ถึงเลือกใช้ ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
5
เครื่องชงกาแฟ Mastrena ผลิตโดยบริษัท Thermoplan
ที่ก่อตั้งโดยสองพี่น้อง Steiner คุณ Esther และคุณ Domenic ในปี ค.ศ. 1974
โดยเป็นบริษัทจากเมืองเล็ก ๆ อย่าง เวกกีส์ ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ซึ่ง ณ เวลานั้นบริษัทผลิตและส่งออกเครื่องจักรต่าง ๆ ที่ใช้ภายในร้านอาหารเป็นหลัก
ต่อมาในปี ค.ศ. 1995 บริษัทก็เริ่มผลิตเครื่องชงกาแฟอย่างจริงจัง
โดยเน้นไปที่เครื่องชงกาแฟประเภท Super-automatic หรือ เครื่องชงแบบอัตโนมัติสุดอัจฉริยะ
1
ซึ่งการทำงานของมันก็ง่ายมาก ๆ เพียงแค่ใส่เมล็ดกาแฟลงไปและกดปุ่ม
ส่วนที่เหลือเครื่องชงกาแฟจะคำนวณต่อเองทั้งหมด
ตั้งแต่การบดเมล็ดกาแฟ การกดกาแฟ และจบลงที่การสกัดออกมาเป็นชอตเอสเปรสโซ
2
ถือว่าเป็นเครื่องชงกาแฟที่ฉลาดมาก ๆ
แม้ผู้ใช้งานจะไม่มีความเชี่ยวชาญในการชงกาแฟ ก็สามารถใช้ได้ไม่ยาก
รวมทั้งยังเป็นเครื่องชงกาแฟแบบอัตโนมัติเจ้าแรก ๆ ของโลก
ที่สามารถสร้างระบบทำฟองนมได้อีกด้วย
4
อย่างไรก็ตาม หากเราเดินเข้าไปใน Starbucks สมัยที่เพิ่งเริ่มเปิดร้านใหม่ ๆ
เราก็คงยังไม่เห็นเครื่องชงกาแฟ Mastrena ตั้งอยู่อย่างปัจจุบัน
2
เพราะ Starbucks ยังใช้เครื่องชงกาแฟมาตรฐานเหมือน ๆ กับร้านทั่วไป
อย่างแบรนด์ La Marzocco ระดับไฮเอนด์จากประเทศอิตาลี
ที่จำเป็นต้องใช้บาริสตา ที่มีความชำนาญในการใช้เครื่องชงกาแฟ
1
แต่เมื่อ Starbucks เริ่มมีชื่อเสียง และขยายสาขาสู่หลายประเทศ
การชงกาแฟแต่ละแก้วให้มีมาตรฐานเดียวกันในระยะเวลาที่น้อยที่สุดจึงกลายเป็นเรื่องสำคัญ
ซึ่งใครจะรู้ว่ารายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการบดเมล็ดกาแฟและการอัดผงกาแฟ ถือเป็นตัวแปรสำคัญ ที่สามารถทำให้กาแฟเสียรสชาติได้เลย
Starbucks จึงเปลี่ยนมาใช้เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติสุดอัจฉริยะ
ที่กดเพียงแค่ปุ่มเดียวก็สามารถเสกชอตเอสเปรสโซได้เหมือนเดิมทุกครั้ง
ทำให้เครื่องชงกาแฟของบริษัท Thermoplan
กลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกชั้นเลิศของร้าน Starbucks
2
แต่ระดับ Starbucks แล้ว จะสั่งเครื่องชงกาแฟอัตโนมัติธรรมดา ๆ ทั่วไปก็คงไม่ได้
ดังนั้นในปี ค.ศ. 2008 Starbucks จึงสั่งผลิตเครื่องชงกาแฟรุ่นพิเศษอย่าง Mastrena มาใช้ที่ร้าน
4
อย่างไรก็ตาม บริษัท Thermoplan ก็ไม่ได้ผลิตแค่เครื่องชงกาแฟให้ Starbucks เพียงเจ้าเดียวเท่านั้น โดยยังส่งเครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ ที่มีชื่อว่า “Black&White” ให้กับอีกหลายบริษัทยักษ์ใหญ่ เช่น McDonald’s และ IKEA
10
แล้วเครื่องชงกาแฟ Mastrena มีความพิเศษอย่างไร ?
1
อันดับแรก ระบบการทำงานที่ชาญฉลาด
1
แน่นอนว่าวัน ๆ หนึ่ง Starbucks ต้องต้อนรับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
และต้องชงกาแฟอย่างไม่หยุดพัก ทำให้ต้องการเครื่องชงกาแฟที่ทำงานได้อย่างรวดเร็ว
1
ซึ่ง Mastrena สามารถบดเมล็ดกาแฟจำนวนมากในระยะเวลาอันสั้น แต่ยังคงคุณภาพของเมล็ดกาแฟไว้ได้ดี และทำทุกอย่างเสร็จสรรพเพียงแค่ปุ่มเดียว
ทำให้บาริสตามีเวลาเหลือที่จะแบ่งไปให้กับการบริการลูกค้า
1
เรื่องที่สอง Mastrena ไม่สามารถหาซื้อได้ทั่วไป
แม้บริษัท Thermoplan จะผลิตเครื่องชงกาแฟให้ร้านอื่น ๆ อีกหลายร้าน
แต่ความพิเศษของ Starbucks ก็คือ เป็นเจ้าเดียวในโลกที่ได้ใช้เครื่องชงกาแฟรุ่น Mastrena
4
ซึ่งจนถึงวันนี้ Mastrena ได้ตั้งอยู่ในร้าน Starbucks เป็นระยะเวลากว่า 13 ปีแล้ว
โดยมีการพัฒนามาเป็นรุ่น Mastrena CS2 แทน ซึ่งมีระบบปฏิบัติการทำงานที่รวดเร็วกว่า
1
และสุดท้าย Mastrena มีตราสัญลักษณ์ “Swiss Made”
4
อย่างที่รู้กันว่าสวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศผู้นำด้านเครื่องจักรกลไกที่ซับซ้อน เช่น นาฬิกา
และจะมีเครื่องหมาย Swiss Made สำหรับการการันตีคุณภาพ ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก
2
ซึ่งนอกจากเครื่องชงกาแฟรุ่น Mastrena แล้ว
เครื่องชงกาแฟอื่น ๆ ในบริษัท Thermoplan ก็ถูกผลิตและประกอบที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
รวมถึงส่วนประกอบ 80% ของเครื่องชงกาแฟเหล่านี้
ก็ต้องมีตราสัญลักษณ์ Swiss Made เช่นเดียวกัน
5
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ใครอยากซื้อเครื่องชงกาแฟ Mastrena
เพื่อมาตั้งบนบาร์กาแฟในบ้าน เท่ ๆ แบบ Starbucks ก็อย่าเพิ่งเสียใจไป
5
เพราะแม้เราจะซื้อรุ่น Mastrena ไม่ได้ แต่บริษัท Thermoplan ก็ยังมีเครื่องชงกาแฟอีกหลายรุ่น
ที่รับรองว่าคุณภาพไม่แพ้กันแน่นอน เพราะการันตีด้วยสัญลักษณ์ “Swiss Made” อยู่แล้วทุกเครื่อง
3
โฆษณา