Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
พึมพำให้ฟัง😊
•
ติดตาม
4 เม.ย. 2021 เวลา 23:00 • ความคิดเห็น
แอบรัก....เจ้านาย Ep 3. ❤️
บ่ายๆของวันจันทร์ เจ้านายเรียกให้ไปพบ เมื่อเราเข้าไปนั่งประจัญหน้า เจ้านายเงยหน้าขึ้น และสังเกตุสีหน้าของเรา เหมือนจะถามว่า เป็นงัย หายดีหรือยัง ซึ่งเราทราบข่าว มาจากพี่หัวหน้า เล่าให้เราฟังเมื่อตอนเช้าว่า “เจ้านาย จัดการเรื่องค่าปรับแล้ว” เราจึงตั้งคำถาม ๆด้วยความเกรงใจ ออกไป “ พี่จัดการอย่างไร ต้องเสียเงิน ให้เขาเยอะแบบนั้นเลยหรือ เอาความผิดพลาดนี้ มาหักเงินเดือนหนูก็ได้ค่ะ”
หน้าที่แสนนิ่ง ยิ้มน้อยๆที่มุมปาก แล้วบอกให้สบายใจว่า “ ไม่หรอก ผมไม่ได้จ่ายให้เขา เยอะอย่างนั้นหรอก ผมคุยกับเจ้าของบริษัทนั้นแล้ว เราเสียค่าปรับ เพียง 2 หมื่น และไม่เป็นไรน๊ะ ความผิดครั้งนี้ ไม่ใช่ความผิดเธอคนเดียว ส่วนหนึ่ง ก็เป็นความผิดจากแผนกสโตร์ด้วย ครั้งนี้ผมยกให้ ครั้งหน้าทำงานให้รอบครอบกว่านี้ เข้าใจไหม แล้วหากมีปัญหาอะไร ให้มาปรึกษา เพราะคิดอะไรคนเดียว มันเสียเวลา มีคนช่วยคิด มันจะได้คลี่คลายง่าย”
เราพนมมือ ไหว้ ขอบคุณจากหัวใจ และตั้งแต่วินาทีนั้น ในใจลึกๆ สรุปได้ทันทีว่า “ที่นี่ คือบ้านที่พึ่งพิงได้ หลังที่ 2 ไม่ว่าข้างหน้า จะเกิดอะไรขึ้น ฉันจะไม่ทิ้งบ้านหลังนี้ไปไหนอีกแล้ว “ พร้อมกล่าวขอบคุณ ที่เจ้านายให้โอกาสได้เข้าทำงาน และเรื่องเสื้อผ้า ของภรรยาเจ้านาย ที่เคยเอามาให้ไปอย่างครบถ้วน
วันเวลาผ่านไป อย่างรวดเร็ว จนเราเองก็ตกใจ จากตึกทาวน์เฮ้าส์ 4 ชั้น มาเป็นตึกใหม่ ใหญ่มโหฬาร มีเฟอร์นิเจอร์ ตกแต่งอย่างทันสมัย มีที่นั้่งประจำตำแหน่ง อย่างเป็นสัดส่วน พนักงานเพิ่มจาก 30 คนเป็น 300 กว่าคน จึงทำให้ เจ้านาย มีลูกน้องเพิ่มมากขึ้น แต่ละคนก็มีสไตล์ความร้ายกาจ ประจำบุคคลให้น่าชวนปวดหัว และแน่นอนที่สุด เราคือหนึ่งในตัวจี๊ด ที่ทำให้ผมเจ้านาย เปลี่ยนสีไปก่อนวัยอันควร
เจ้านายเป็นสุดยอดนักบริหารคน เพราะความที่เป็นคนใส่ใจ สารทุกข์สุกดิบ และเข้าใจนิสัยลูกน้องแต่ละคน อย่างละเอียด ไม่รู้ว่าเอาเวลาที่ไหน มารู้ ว่าใคร เป็นอย่างไร เพราะแต่ละวัน เห็นนั่งเซ็นต์เอกสาร กองมโหฬาร ทุกวัน
ลูกน้องส่วนใหญ่ ของเจ้านาย เป็นผู้หญิง ซึ่งแต่ละนาง ในทีมบริหาร ก็ล้วนแต่ร้ายๆทั้งนั้น มานั่งนึกแล้วอดขำไม่ได้ เพราะความเป็นผู้หญิง เยอะเรื่องริษยา แย่งชิง ผลประโยชน์ต่างๆ แต่ละนาง เขี้ยวลากดินทั้งสิ้น แต่ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้บริษัท ใหญ่ขึ้นๆ ทุกวัน แต่เรื่องประจำๆ คือแต่ละนาง ตีกัน เถียงกัน ในที่ประชุม เราชอบแอบชำเลืองดู สีหน้าเจ้านาย ในขณะประชุมบ่อยๆท่าทาง คงจะรำคาญสุดชีวิต😊
ส่วนเรา ไม่ค่อยจะมีนิสัยผู้หญิง แต่ดันมีนิสัยอันธพาล และหากถึงที่สุด
ก็เหวี่ยงวีนไม่เลือกหน้าเหมือนกัน แต่ที่แน่ๆ การเดินเข้า ไปหาเจ้านาย จะเป็นเรื่องสุดท้าย ที่จะทำ เพราะห้องเจ้านาย เหมือนห้องเย็น อุณหภูมิติดลบ เข้าไปทีไร นั่นแหละ มีเรื่อง
ดังนั้น เราน่าจะเป็นลูกน้องคนเดียว ที่เจ้านายมักจะมี mail มาหาว่า “พรุ่งนี้บ่ายมาหาผมที หรือ กดโทรมาที่โต๊ะ แล้วถามว่า สะดวกไหม มาหาผมที” หรือไม่ก็เดินมาหาที่โต๊ะ เล่นเอาตกอกตกใจ เพราะไม่เคยเห็นหัวเลย นอกจากในห้องประชุม ซึ่งก็มักจะโดดเป็นประจำ
เรื่องประทับใจอีกหลายเรื่อง ที่ทำให้อดรักผู้ชายคนนี้ไม่ได้ อาทิเช่น ในปีที่น้ำท่วมใหญ่ กทม. เจ้านายจ่ายค่าเช่าบ้านให้กับคนที่บ้านถูกน้ำท่วม จนอยู่ไม่ได้ ให้มาเช่าอยู่ ในที่ๆปลอดภัย
พนักงานส่วนใหญ่ ได้ใช้สวัสดิการพิเศษนี้กันอย่างถ้วนหน้า ยกเว้นเรา ที่ไม่ยอมออกจากที่พัก เพราะเป็นห่วงแมว จึงติดอยู่ในบ้าน ที่น้ำท่วมถึงเอว ออกไปทำงานไม่ได้ แต่ไฟฟ้า ยังใช้การได้ และเราก็อาศัยอยู่ชั้นบนของบ้าน ได้อย่างสบายใจ รวมถึงต่อ net ทำงาน online ได้อย่างสะดวกสบาย
ทุกคนที่ออฟฟิศ เป็นห่วงใยโทรเรียกให้ออกไป แต่เราไม่ยอมออก จึงมีสายพิเศษโทรมาหา ให้สยองขวัญจนวันนี้ “ ทำไมเธอไม่ออกมา อยู่เข้าไปได้อย่างไร อาหารการกิน เอาที่ไหน ห้องน้ำใช้ได้อย่างไร ดื้อที่สุดเลยเธอ “ นั่นคือเจ้านายของฉันแหละ. พอเจอหน้ากันหลังน้ำท่วม เจ้านายมองหน้า แล้วส่ายหัวอย่างอ่อนใจ
อีกเรื่องที่ขำขันสุดขีด จำได้ว่ามีงาน project ที่ต้องประมูลงานมูลค่า 100 กว่าล้าน ซึ่งพวกเราทำงานกันเหนื่อยมาก เพระต้องระดมกันทำเอกสารมากมายก่ายกอง เรียกได้ว่า กินนอน ที่บริษัท จริงๆแล้ว ผู้รับผิดชอบงานนี้ควรจะเป็นหัวหน้ารองจากเจ้านาย แต่เธอคนนั้น จัดการได้เพียง จ่ายงาน แล้วก็กลับบ้านไป ปล่อยให้เรา และน้องๆต้องนั่งสัปหงก อยู่กับกองกระดาษมหึมา พอเช้าวันใหม่ หัวหน้ารอง นางนั้นก็เดินเฉิดฉาย เอามือมาแตะๆแล้วก็กลับบ้านไป
จนกระทั่ง เราถึงขีดสุด โทรหาเจ้านายแบบหงุดหงิด สติแตก กรอกเสียงอาละวาดไปหาเจ้านายว่า “ 100 ล้านนี่มันเงินใคร จะไม่มาดูดำดูดีกันหรือไร “ แล้วก็วางหูโครม
สายๆของวันนั้น ซึ่งเวลานั้นเราหายโมโหแล้ว เห็นเจ้านายเดินมา พร้อมกล่องพิซซ่า พะรุงพะรัง หน้าตาเหมือนเพิ่งตื่นนอน เข้ามาที่บริษัท เราตกใจ ว่าทำไมเจ้านายมา เพราะลืมไปแล้ว เลยถามว่า “พี่มาทำไม” เจ้านายทำหน้าปุเลี่ยนๆ แล้วตอบเบาๆ พร้อมเกาหัวแกรกๆ ว่า” ก็เธอโทรไป ฉันรู้ว่าถ้าเธอโทรหาแล้ว ต้องมีอะไรไม่ปกติแน่ เลยต้องเข้ามาดูสักหน่อย” พูดจบก็ยื่นกล่องพิซซ่า มาให้ แล้วบอกว่าไปแบ่งกันกิน😊
หลังจากนั้น พอมีงาน project ใหญ่ๆอีก เจ้านายจะนั่งทำงานด้วย ดึกดื่น ก็นั่งให้ลูกน้องรีดไถเงิน ออกไปซื้อของกินยามดึก ทุกที เจ้านายต้องอยู่ดึกด้วย เพราะ ต้องเซ็นต์ชื่อ ในเอกสารทุกแผ่น ที่จะใช้ประมูลงาน ซึ่งความหนาของเอกสารทั้งหมด น่าจะมากกว่า 2,000 แผ่น
พอเริ่มดึก เจ้านายคงจะเมื่อยมือแล้ว จึงกวักมืเรียกเรา ให้ไปนั่งข้างๆ และสั่งว่า “เธอไปเอาปากกา กับแฟ้มมา แล้วลองเซ็นต์ ลายเซ็นต์ผมซิ” เราค่อยๆเลียนแบบลายเซ็นต์ ทีละนิด จนสักพัก เซ็นต์เหมือนของจริง เจ้านายหันมาพึมพำว่า “ ผมต้องเก็บสมุดเช็คดีๆซะแล้ว เธอเซ็นต์เหมือนมาก” นั่นแหละ จึงใช้เป็นคำขู่เจ้านายว่า “ขโมยสมุดเช็คพี่มาได้เล่มนึง เมื่อวานนี้ ว่าจะเอาไปเซ็นต์แบบไม่ใส่ตัวเลขสักหน่อย “ เจ้านายจะยิ้มๆแล้วตอบว่า “เอาเล้ย ตามสบาย”😊
1
หลังๆ พอทำงานร่วมกับเจ้านายบ่อยๆ จึงเข้าใจบุคลิกภาพ ของท่าน ว่าปกติ ท่านเป็นเสือยิ้มยาก พูดน้อย พูดเล่นไม่เป็น ดูชีวิตจะน่าเบื่อ ชอบตีกอล์ฟเป็นชีวิตจิตใจ เมื่อเป็นเสือยิ้มยาก ดังนั้นลูกน้องสาวๆ แต่ละนาง
จึงถนัดในการ กระเซ้าเหย้าแหย่ ให้ท่านอมยิ้ม แต่ว่าตั้งแต่ทำงานด้วยกันมา หลายสิบปี ยังไม่เคยได้ยินเสียงหัวเราะจากเจ้านายเลยสักครั้ง อย่างมากก็เพียงแค่ยิ้มแรงๆ เท่านั้น
มีอยู่ปีหนึ่ง พวกเราไปจัดทริป เพื่อทำสันทนาการ ที่เมืองกาญจนบุรี พวกเราไปกัน 1 รถบัส และมีบางคน ก็จะขับรถยนต์ส่วนตัว ตามไป
รถบัส คันดังกล่าว มีคนขับไม่ชำนาญทาง จึงเกิดอุบัติเหตุอัดก๊อปปี้กับไหล่เขา เกือบตกหน้าผา เดชะบุญ ที่คนขับรถ ยอมสละชีวิตตัวเอง หันตัวรถอัดกับ เนินเขาอีกด้าน จึงทำให้รถหยุดได้ แต่เพื่อนๆ ของเรา ก็บาดเจ็บกันระนาว และคนขับเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
ภาพนั้น ยังจำติดตา เสียงร้องครวญครางอย่างเจ็บปวด ระงมไปหมด วันนั้น เราตามหลังไปด้วยรถส่วนตัว จึงมีหน้าที่เข้าไปเก็บทรัพย์สิน ของเพื่อนๆ ในตัวรถ เจ้านาย มีสีหน้าเครียดอย่างเห็นได้ชัด เมื่อทราบข่าว และบัญชาการลูกน้อง เข้าออกโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้น เจ้านายก็มีหน้าที่ ขับรถตะเวณ เยี่ยมลูกน้องทุกคน ตามโรงพยาบาล ต่างๆ จนทุกคนหายดี ตั้งแต่ครั้งนั้น การออกทริป เป็นหมู่คณะ จึงถูกพิจารณา อย่างยากเย็น จึงทำให้พวกเราอด ไปทำกิจกรรมข้างนอกตั้งแต่ปีนั้น
📌 ยังมีเรื่องที่น่าทึ่ง ของผู้ชายคนนี้ ให้ติดตามในตอนหน้าค่ะ
บันทึก
5
4
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
เรื่องเบาๆเล่า สบายๆ สไตล์คุณพึมพำ❤️
5
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย