11 เม.ย. 2021 เวลา 00:00 • ธุรกิจ
เริ่มตอนนี้ยังไม่สาย เรียนรู้งานอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วย The Umbrella Model
ในยุคสมัยที่เปลี่ยนไป องค์กรต่างๆที่ต่างต้องมีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก หรือที่ช่วงนี้ได้ยินกันบ่อยๆเลยก็คือ Agile ซึ่งเป็นที่มาของกลยุทธต่างๆขององค์กร
พวกเรา ที่ไม่ว่าจะเป็นคนที่ย้ายที่ทำงาน เปลี่ยนสายงาน หรือแม้กระทั้งคนที่จบมาแล้วทำงานไม่ตรงสาย และโดยเฉพาะเหล่า First Jobber ต่างต้องมีข้อสงสัยในใจกันทั้งนั้นแหละว่า “เราจะเริ่มเรียนรู้จากตรงไหนก่อนดีนะ”
ยิ่งเป็นช่วงที่เจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมากของข้อมูล มีศาสตร์ต่างๆ องค์ความรู้ต่างๆ เกิดขึ้นมากมายในแต่ละวัน เราจะเริ่มเรียนรู้มันยังไงดีล่ะ
ผมขอแบ่งขั้นตอนการเรียนรู้ออกเป็น 3 ขั้นแล้วกัน
1. เริ่มกันที่ด้ามจับ
ด้ามสิ่งที่เราต้องจับเลยเวลาใช้ร่ม เปรียบเสมือนเป็นสิ่งที่เราได้สัมผัสโดยตรง แล้วเป็นสิ่งที่อยู่ล่างสุดของโมเดลอีกด้วย
ด้ามของร่ม สื่อถึงสิ่งที่เกี่ยวของกับงานใน Field หรือสายงานเราโดยตรง
ให้เราเริ่มจากการเรียนรู้งานที่เราต้องทำเป็นประจำเป็นขั้นต่ำก่อน เช่นงาน Routine งาน Daily ที่เราต้องทำเป็นประจำ ซึ่งเราสามารถดูได้จาก Master Plan หรือตัวชี้วัดผลการทำงานของเรานั่นแหละ ให้เราเริ่มจากตรงนั้น
ข้อมูลอะไรบ้างที่เราต้องรู้เพื่อให้งานของเราดีขึ้น ในหน่วยงานที่เราอยู่ เราได้รับมอบหมายเรื่องอะไร มี Data Flow (การไหลของข้อมูล) เป็นอย่างไร อะไรเป็น Input (ข้อมูลป้อนเข้า) ของงานเราบ้าง ต้องติดต่อใครเพื่อให้ได้ข้อมูลนั้นมา
รวมถึงจากมุมมองของเราที่เป็นคนที่เรียนรู้งานใหม่ เรารู้สึกว่ามีงานในจุดไหนที่สามารถพัฒนา หรือทำให้ดีขึ้นได้ ทั้งในเชิงค่าใช้จ่าย หรือในเชิงระยะเวลาในการทำก็ตาม (อาจจะใช้พวก Technology มาจับก็ได้นะ)
เมื่อเราเรียนรู้งานใน Field ของเราเสร็จแล้ว อาจจะไม่ต้องดีเลิศที่สุดก็ได้ แต่พอที่จะทำให้งานสามารถดำเนินต่อไปได้ นั้นก็แปลว่าคุณพร้อมที่จะไปขั้นตอนต่อไปแล้วล่ะ
2. ต่อกันที่ก้าน
ก้าน เป็นสิ่งที่พุ่งขึ้นไปจากด้าม ก็เปรียบเสมือนกับงานของเรา ที่ถูกส่งต่อไปเพื่อใช้ประโยชน์ หรือเอาไปวิเคราะห์เพิ่มคุณค่าให้กับงานของเรา (อย่างที่เราน่าจะเคยได้ยินคำว่า Synergy อะนะ)
ถ้าเราต้องการที่จะเข้าใจวัตถุประสงค์ หรือ Value ที่แท้จริงของงานของเรา เพื่อที่จะให้งานของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้น ให้เราไปศึกษาเรียนรู้ว่า เหนือเราขึ้นไปนั้นมีอะไรอยู่
อาจจะสังเกตได้แบบง่ายๆ คือ งานที่เราทำ ข้อมูลต่างๆ ที่เราส่งมันออกไป ใครเอามันไปใช้ต่อบ้าง งานที่เราปล่อยออกไป ส่งผลกระทบต่อหน่วยงานอื่นมั้ย แล้วเขาเอาไปใช้ทำอะไร (พูดง่ายๆ ก็คือ งานของเราไปเป็น Input ให้ใครนั้นแหละ) งานที่เราส่งออกไปตรงกับวัตถุประสงค์ที่ปลายทางอยากได้รับรึป่าว
ถ้าเรารู้เราก็จะสามารถปรับเปลี่ยน พัฒนางานของเราให้ดีขึ้นได้ อีกทั้งยังจะทำให้เรามองเห็นภาพที่กว้างขึ้นของงานของเราอีกด้วย
แต่ก็อย่างที่เห็น ก้านร่ม มันก็เป็นแค่ก้านโดดๆ ขึ้นไปเชื่อมกับด้านบน ก็คือ เรายังไปเข้าใจและเรียนรู้ พัฒนางานของเรา ในเชิงของผู้ที่เกี่ยวข้องกับเราอยู่โดยตรง หน่วยงานสายตรงที่อยู่เหนือเรา
ในเชิงของการทำงานเป็นองค์กร การที่มีคนมาถึงขั้นตอนที่ 3 ที่จะบอกต่อไปนี่ได้ จะป็นสิ่งที่บริษัทต้องการให้มีคนแบบนี้เยอะๆเลย
3. จบกันที่โครง และผ้าของร่ม
โครง คือหน่วยงานอื่นๆ ที่อาจจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเราโดยตรง ซึ่งเมื่อเรารู้แล้ว ว่างานของเราคืออะไร ทำยังไง พัฒนาต่อยอดอย่างไรได้บ้าง เราก็ควรรู้ ว่า คนอื่นเขาทำงานอะไร Output หรือ Outcome ของเขาคืออะไร
อย่าคิดว่านั้นไม่เกี่ยวข้องกับคุณแล้วคุณไม่จำเป็นต้องรู้ก็ได้
ในทุกๆสิ่งมันต้องมีความเชื่อมโยงซ่อนอยู่
การที่ตอนนี้คุณบอกว่าหน่วยงานนู้น หน่วยงานนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับคุณ คุณอาจจะเข้าใจผิดกันมาตลอดก็ได้ ในเมื่อคุณไม่รู้ว่า งานของหน่วยงานเหล่านั้นมีข้อมูลอะไรออกมาบ้าง และพวกเขาเหล่านั้นก็ไม่รู้ว่าคุณต้องใช้ข้อมูลอะไร หรือแม้กระทั้งว่าไม่รู้ว่า Output ของงานคุณคืออะไร
การที่คุณเรียนรู้มาถึงขั้นตอนนี้ คุณรู้ว่าโครงแต่ละโครงเชื่อมโยงกันยังไง คุณก็จะเป็นคนที่บริษัทอยากจะรักษาไว้ในที่สุด เพราะคุณสามารถมีความคิดเชื่อมโยง จากด้ามหรืองานตัวเอง มายังก้านหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเรา แล้วยังเชื่อมมายังโครงของร่มแต่ละโครง มาจัดเรียงความเป็นระเบียบของโครง
เพื่อให้ได้มาซึ่ง ผ้าของร่มที่กางออก เปรียบเสมือนที่เป็นร่มเงา เป็นความผาสุข เป็นผลกำไรขององค์กร
เท่านี้ คุณก็สามารถเรียนรู้งานของคุณได้อย่างเป็นระบบ และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วย The Umbrella Model หรือโมเดลร่มของเรานี่เอง
หวังว่าทุกท่านที่เข้ามาอ่านถึงจุดนี้จะสามารถเอาเทคนิคนี้ไปปรับใช้ในชีวิตการทำงานของทุกคนนะครับ
โฆษณา