หลังจากฉีดวัคซีน Covid-19 เข็มแรกแล้ว เกิดอาการแทรกซ้อนขึ้นมา ควรจะทำอย่างไร?
วันเสาร์เช้า 10:30 am เข้าไปฉีดยาตามที่นัดหมายกับ NHS (กระทรวงสาธารณสุข) เพื่อฉีดวัคซีน Covid-19 เข็มแรก
Cliff Pavilion, Southend-on-Sea. UK
เจ้าหน้าที่ ที่คอยให้การบริการ จะให้คำชี้แจงก่อนการฉีด และคำแนะนำหลังการฉีดอย่างละเอียด
ก่อนการฉีดจะถามถึงสุขภาพในปัจจุบันของเรา ว่าแข็งแรงปรกติดีมั้ย? เคยติดเชื้อโควิดมาก่อนมั้ย? เคยได้รับการตรวจเช็คโควิดมาก่อนมั้ย?
ขณะที่ถูกฉีด พยาบาลมือเบามากๆฉีดแป๊บเดียวเสร็จ ให้คำแนะนำว่า หลังการฉีด จะมีผลข้างเคียงอาจจะทำให้ มีไข้ขึ้น หรือมีอาการปวดแขนบริเวณที่ฉีด ก็ขอให้ทานยาพารา เพื่อช่วยบรรเทาอาการเหล่านี้ให้ทุเลาลง และพักผ่อน สัก 2-3 วัน
หลักการป้องกันตัว หลังฉีดวัคซีนเข็มแรก เรายังจำเป็นจะต้องใช้ หน้ากากป้องกันตัวขณะออกไปนอกบ้าน หรือช๊อปปิ้ง และยังต้องใช้เจลล้างมือบ่อยๆ ให้ป้องกันตัวเองไป จนกว่าจะได้รับวัคซีนเข็มที่สอง ถึงจะถือได้ว่าอยู่ในขั้นที่ปลอดภัย
6 ชั่วโมงหลังจากฉีดวัคซีนไป เริ่มมีอาการหนักหน่วงที่ต้นแขนบริเวณที่ฉีดยา และมีอาการเพลียหน่อยๆ (เหมือนฉีดวัคซีนไข้หวัดทั่วไป) ก็เลยทานยาพาราไป2เม็ด และไปนอนพักผ่อน หลังจากตื่นขึ้นมาก็ยังมีอาการเจ็บหน่วงๆที่แขน ซึ่งก็เป็นปรกติเหมือนการฉีดวัคซีนทั่วไปค่ะ
หลายคนกังวลใจเรื่องการฉีดวัคซีน มีข่าวออกมาว่า มีผลกระทบหลังฉีดแล้ว ทำให้เสียชีวิตก็ไม่กล้าไปฉีด แต่ถ้าเรานำข่าวบางข่าวมาพิจารณาคนที่ฉีดวัคซีนแล้วตายนั้น เป็นผู้สูงอายุ 70, 80, 90 ปีขึ้น ซึ่งบางท่านก็อาจจะถึงอายุไขก็เป็นได้ ที่ได้ยินข่าวว่ามีผลกระทบกับกลุ่มคนอายุที่กล่าวมานั้น เพราะประเทศอังกฤษ และบางประเทศเลือกที่จะให้ผู้สูงอายุฉีดวัคซีนก่อน ซึ่งแต่ล่ะท่านก็ทราบดีว่าผู้สูงอายุ มีภูมิต้านทานโรคน้อย ควรจะได้รับวัคซีนก่อน และไล่ตัวเลขต่ำลงมาเรื่อยๆ ปัจจุบันคิวฉีดวัคซีนเข็มแรกในประเทศอังกฤษ อยู่ในคิวของระดับคนอายุ 30 ปีขึ้น และที่นอร์เวย์อยู่ในคิวคนที่มีอายุ 70 ปีขึ้น ตั้งแต่อ่านข่าวมายังไม่เคยได้ยินคนอายุต่ำกว่านี้ ฉีดวัคซีนแล้วตาย รู้เพียงว่ามันคือกฏ NHS ของประเทศอังกฤษ และหลายๆประเทศในโซนยุโรป ที่จะต้องได้รับการฉีดวัคซีน หากคุณไม่ฉีดวัคซีน คุณจะไม่สามารถเดินทางไปต่างประเทศได้ เพราะจะมีการแจ้งเข้ากับระบบในพาสปอร์ตว่าคนที่รับวัคซีนครบแล้ว จะปลอดภัยในการเดินทาง ไม่มีการรับเชื้อหรือแพร่เชื้อให้ประชากรที่บ้านเขาได้ แน่นอนค่ะ เราเองเดินทางบ่อย เดี๋ยวเดินทางเข้าไทย ดูไบ อิตาลี สเปน นอร์เวย์ สวีเดน ไปฮอลิเดย์บ้าง ไปถวายงานรับใช้ครูบาอาจารย์ หล่อพระ ปิดทองพระ เดินทางไปปฏิบัติธรรมบ้าง เพื่อความปลอดภัยทั้งตัวเราเองและคนรอบข้าง ยังไงต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนตามกฏระเบียบของบ้านเมือง และของทั่วโลกที่กำหนดไว้
เข้าใจดีว่าสุขภาพร่างกายคนเรานั้นไม่เหมือนกัน แต่ที่สำคัญคือขอให้รักษาสุขภาพร่างกายตัวเองให้แข็งแรง มีสุขภาพจิตที่ดี วิตามินก็ขอให้ทานทุกวัน ทั้งวิตามินรวม วิตามิดี ซี แคลเซียม ทานเป็นหลักไว้เลยค่ะ ตัวเราเองทานไม่เคยขาด ยิ่งหน้าหนาวต้องเน้นย้ำไว้เลยว่า "อย่าลืม" เพราะร่างกายต้องการทั้งวิตามินดี และซีเพิ่ม ทางเมืองยุโรปมีแดดน้อย ยิ่งประเทศนอร์เวย์หน้าหนาวมีแต่หิมะปกคลุมหนามาก บรรยากาศท้องฟ้าเป็นสีเทาอึมครึม และประเทศอังกฤษถึงจะไม่ค่อยมีหิมะและไม่ค่อยหนาวมากเหมือนอย่างประเทศนอร์เวย์ แต่หน้าหนาวก็มีบรรยากาศคล้ายคลึงกันคือ ท้องฟ้าสีเทาอึมครึม (แค่เห็นบรรยากาศมันก็ทำให้เราเศร้าหมอง หรือ depressed แล้ว) หากเราเพิกเฉย ปล่อยร่างกายเราขาดวิตามินดีไปนานๆ อาจจะทำให้เกิดผลกระทบทางจิตใจ เกิดความเศร้าและหดหู่ใจจนไม่อยากทำอะไรเลย ซึ่งจะนำมาสู่โรคซึมเศร้าได้ เราควรจะรักษาระดับจิตของเราให้ดีให้สดชื่นสดใสตลอดนะค๊ะ 💖💖
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
