4 เม.ย. 2021 เวลา 08:11 • ความคิดเห็น
หลายคนอาจจะคุ้นชินกับในหนังสือตำราต่างๆ ละครจักรๆ วงศ์ๆ และอื่นๆ ไปบ้าง
วันนี้เราจะเล่าถึงวรรณคดีเรื่องโปรดของเรา "รามเกียรติ์" นั่นเอง และไม่มีใครที่ไม่รู้จักอสุราผู้ยิ่งใหญ่มากตัณหาอย่าง "ทศกัณฐ์" ผู้คนต่างก็ชื่นชอบตัวละครนี้ถึงขั้นเอามาทำเป็นคำคม , บทเพลงที่ส่วนใหญ่ได้กล่าวถึงความบอบช้ำในเรื่องของความรัก
แต่ว่าทศกัณฐ์นั้น รักนางเอกของเรื่องอย่าง "นางสีดา" จริงที่คำคมและบทเพลงได้บอกเอาไว้หรือไม่
เรามาหาคำตอบกัน
๑. ความหลงครอบงำ
หลังจากที่นางสำมนักขา น้องสาวที่ไปอ่อยผู้ชายแล้วนก อธิบายความงามของนางสีดาให้จอมอสุราให้ฟัง ทำให้เจ้าตัวหลงกับความงามทั้งๆ ที่ไม่ได้เจอหน้า ถึงขั้นไปกอดน้องตัวเองเพราะคิดว่านางสีดาอยู่ตรงหน้า
(แล้วน้องตัวดีก็ไปกอดพี่ชายเพราะคิดว่าพระรามอยู่ตรงหน้า ช่างเป็นพี่น้องที่โบ๊ะบ๊ะซะจริงๆ )
๒. ชั้นดีกว่าผัวเธอตั้งเยอะ
ภารกิจแย่งเมียชาวบ้านก็ได้เกิดขึ้น โดยให้มารีศแปลงกายเป็นกวางทองสุดแสนจะน่ารัก ไปล่อให้นางสีดาเห็น พอนางเห็นเข้า ก็ให้ผัวเอากวางตัวนี้มาให้
พระรามบอกว่าถ้าจับไม่ได้ล่ะ นางก็บอกไปว่า
"ไม่เป็นไรค่ะเตง เตงแค่แล่หนังกวางให้เค้านอนเล่นก็ได้"
(โหดสัสรัสเซียซะเหลือเกิน)
พระราม : แต่ว่ากวางตัวนี้ อาจจะเป็นยักษ์ปลอมตัวมาก็ได้ น้องอย่าเอาเลย
นางสีดา : ไม่เอา เค้าอยากได้ เตงเอากวางให้เค้าหน่อย เค้าอยากได้ // ชักดิ้นชักงอแบบเด็กงอแงอยากได้ของเล่น
พระราม : ก็ได้ๆๆ เซ้าซี้จัง
พออีกวางล่อให้พระรามเข้าป่าไปลึกๆ แล้ว ไล่ไปไล่มา เจ้าตัวเลยโมโหว่าคิดว่ายิงแม่งเลยดีกว่า เหนื่อยชิบหาย อีกวางที่ได้ยินก็หนีจนหัวกวางกลายเป็นหัวยักษ์
พระราม : อ้าวเฮ้ย!!! ไอ้มารีศ กูไม่น่าไว้ชีวิตมึงเลย ยิงทิ้งแม่งเลย Feel The Sun!!!
มารีศ : เอ๊อะ!!!
พอไอ้มารีศใกล้ตายแล้ว ก็เลียนเสียงเป็นพระรามล่อให้พระลักษมณ์ออกมาด้วย นางสีดาคิดว่าผัวกำลังจะถูกยักษ์ฆ่าตาย ก็ให้น้องเขยไปช่วย แต่ฮีไม่ไป เพราะคิดว่าเป็นกลลวงของมัน
นางสีดา : ถ้ามึงคิดว่าไม่ได้ทรยศพี่ตัวเอง ไปช่วยผัวกูเดี๋ยวนี้เลย
พระลักษมณ์ : ครับพี่
ตอนนี้ก็เหลือแค่สาวงามคนเดียว ทศกัณฐ์ก็แปลงกายเป็นฤาษีไปหานางสีดา และพยายามล่อให้นางเป็นของตน โดยการอวยตนเองว่าป๋าดีกว่าพระรามยังไง
แต่อนิจจา นางสีดากลับด่าเปิงเข้าให้ว่าฤาษีเหี้ยอะไรวะ ยุให้เมียชาวบ้านให้ไปอยู่กับคนอื่น แถมด่าป๋าจนเจ้าตัวเจ็บช้ำน้ำใจ จนคืนร่างและลักพาตัวนางสีดาได้ในที่สุด
๓. แพ้แล้วพาล
หลังจากที่ได้แรร์ไอเท็มมาครอบครองแล้ว ก็เกรงใจเมียอย่างนางมณโฑ ป๋าทศก็เอานางไว้ที่สวนขวัญ และให้สหัสกุมารเฝ้าเอาไว้
หลังจากที่ได้นางสีดามาอยู่ที่กรุงลงกาแล้ว ป๋าทศก็ไม่เป็นอันทำอะไร คอยมาแวะเวียนนางมาโดยตลอด แต่ไม่ว่าจะทำยังไง แทนที่จะได้ความรัก กลับได้ความเกียจชังมาแทน แถมแตะตัวนางไม่ได้
พอทำไม่ได้ ก็ไปพาลใส่นางกำนัลอีก นางกำนัลพวกนั้นก็ฟิวส์ขาด ก็เข้าไปด่านางสีดาประหนึ่งพี่ว้ากด่ารุ่นน้องให้นางเจ็บช้ำน้ำใจเล่นๆ แต่ก็ไม่สามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้
พอนางสีดารู้สึกว่า ตนเองต้อยต่ำถึงขั้นโดนยักษ์ชั้นต่ำรุมด่า จึงตัดสินใจผูกคอตายที่ต้นโศก แต่ตอนนั้นหนุมานได้ส่งข่าวมาพอดี จึงได้ไปช่วยนางไม่ให้คิดสั้น และบอกข่าวพร้อมหลักฐานยืนยัน ทำให้นางสีดาได้ความหวังขึ้นมา
๔. หลงจนโงหัวไม่ขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นนางสีดาตัวจริงหรือตัวปลอม ป๋าทศก็หลงไม่ต่างกัน ทำให้เสียฟอร์มกลางท้องพระโรงไปหลายครั้ง
ครั้งแรกป๋าได้ใช้หลานสาวอย่าง นางเบญกายไปแปลงกายเป็นนางสีดาไปหลอกพระรามว่าเมียตายแล้ว แต่ไม่สำเร็จ แถมนางเบญกายได้ผัวเป็นหนุมานมาด้วย
พิเภก : กูจะดีใจหรือเสียใจดีวะ
ครั้งที่ ๒ คราวนี้ไปหลอกนางสีดาว่า ผัวตายแล้วเด้อ เผื่อว่านางจะหมดห่วงเตรียมตัวหาผัวใหม่ แต่นางไม่เชื่อ ป๋าทศจึงยอมให้นางสีดายืมบุษบกแก้วไปเห็นกับตา
แต่หารู้ไม่ว่าบุษบกแก้วนั้น ถ้าเป็นหญิงหม้ายลอยไม่ได้ ทำให้นางรู้ว่าผัวยังไม่ตาย แค่สลบไป
ครั้งสุดท้าย คราวนี้เป็นแผนของอินทรชิต ลูกรักของป๋าทศ โดยการให้สุขาจารแปลงเป็นนางสีดาและเดินทางออกไปในสนามรบ
เมื่อถึงสนามรบอินทรชิตบอกพระลักษมณ์ให้มารับนางสีดา หากไม่มารับจะฆ่านาง พระลักษมณ์บอกให้อินทรชิตนำนางไปถวายพระรามเอง อินทรชิตจึงฆ่านาง แล้วทำทีเหาะไปยังกรุงศรีอยุธยา แต่กลับอ้อมไปทำพิธี แต่ก็ความแตกจนได้
๕.ศักดิ์ศรีมันค้ำคอ
การที่ทศกัณฐ์ไม่คืนนางสีดาให้กับพระรามนั้น ส่งผลให้เกิดความชิบหายไปตามๆ กัน แต่เพื่อนางสีดา เขาทำได้ทุกอย่าง ยอมไล่พิเภกออกจากเมือง ไม่สนคำเตือนของนางมณโฑ ฯลฯ
ในศึกครั้งท้ายๆ หนุมานก็ยื่นข้อเสนอว่า หากคืนนางสีดาให้ ศึกทุกอย่างจะจบลง แต่ป๋าไม่ยอม พร้อมบอกว่าระหว่างเขากับนางสีดาเป็นพรหมลิขิต ถึงจะแลกชีวิตก็ยอม แม้ว่าเราจะไม่ได้เป็นคู่กัน แต่ชาติหน้าเราค่อยมาคู่กัน
มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ป๋าเกือบจะตัดใจกับนางสีดา คือ หลังจากที่อินทรชิตถูกพระลักษมณ์ฆ่าตาย เกิดความแค้นขึ้นมา หมายจะฆ่านางให้จงได้
แต่เปาวนาสูรกลับบอกว่า ถ้าฆ่านางไป พระรามคงน๊อตหลุดจนฆ่ายักษ์ไม่เลือกหน้าแน่ และอีกอย่าง อินทรชิตก็ไม่ฟื้นขึ้นมาได้อีก และที่สำคัญ ความงามของนางหาไม่ได้แล้ว ทำให้ป๋าทศเพ้อละเมอนางสีดาจนลืมลูกไปเลย
๖.ใช้เส้นสาย
ไม่ว่าแสดงความรักหรือใช้กลอุบายใดๆ ก็ไม่สำเร็จ ทศกัณฐ์จึงอัญเชิญท้าวมาลีวราชเป็นผู้พิพากษา และกล่าวความเท็จว่า...
นางสีดาอยู่กลางป่าคนเดียว ไม่มีญาติ ไม่มีลูกและผัว เลยรับมาเลี้ยงดูที่สวนขวัญ แต่อยู่ๆ ไอ้ ๒ พี่น้องอย่างพระรามกับพระลักษมณ์มาบุกที่เกาะลังกา อ้างว่าพระรามเป็นผัวนาง
ท้าวมารีวราชก็เชิญพระรามกับพระลักษมณ์มาขึ้นศาล พระรามก็เล่าเรื่องตั้งแต่พิธีเลือกคู่ที่เมืองมิถิลา จนถึงตอนที่โดนกลลวงของทศกัณฐ์
เมื่อความเห็นไม่เหมือนกัน ท้าวมาลีวราชจึงเชิญนางสีดามาขึ้นศาลและเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง ปรากฎว่าเล่าตรงกับพระราม ทำให้ศาลได้ตัดสินว่า ทศกัณฐ์มีความผิดที่ไปลักพาตัวผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
แต่แทนที่จะสำนึกผิด ทศกัณฐ์กลับด่านางสีดาว่า...
"อีแพศยา เห็นคนหล่อก็เข้าข้างตลอด ส่วนพวกเทวดาก็พากันเกลียดข้าจนทำให้นางสีดาเข้าข้างพระราม ถ้าข้าส่งนางสีดาคืนก็เท่ากับว่าข้าแพ้มนุษย์และวานร ทั่วโลกจะเย้ยหยัน ทั้งญาติวงศ์ที่ตายไปก็ไม่อาจฟื้นคืนมาได้"
เมื่อเห็นดังนั้น ท้าวมาลีวราชก็สาปแช่งทศกัณฐ์ให้ต้องศรของพระรามตาย
จะเห็นได้ว่าแม้ทศกัณฐ์จะบอกว่าตนรักนางสีดามากเพียงใด แต่สิ่งที่เขาให้ไปนั้น ล้วนมีแต่ความเจ็บช้ำน้ำใจ ไม่ว่าจะเป็นการถูกลักพาตัว พาลใส่นางกำนัลจนพวกนางรุมด่า หลอกลวง แม้กระทั่งพยายามหักหน้าว่านางโกหกต่อหน้าศาล
แต่ด้วยบารมีของนางสีดาที่เป็นพระแม่ลักษมีอวตาร และความซื่อสัตย์ต่อผู้เป็นพระสวามี ทำให้ทศกัณฐ์ไม่สามารถแตะต้องนางได้
ดังนั้นสิ่งที่ทศกัณฐ์ได้ทำไปนั้นไม่ใช่ความรัก แต่เป็นความหลงใหลรูปงามของนางถึงขั้นทำทุกอย่างเพื่อให้ของสะสมสุดแสนจะหายากอยู่ในกำมือ แม้จะยอมเสียสละชีวิตของพี่น้อง และลูกหลานก็ยอม
สรุปแล้ว ทศกัณฐ์รักใครไม่เป็นเลย
นอกจากรักตัวเอง
โฆษณา