7 สิ่งที่คนเก่งเรื่องเงินจะไม่ซื้อ
“อิสรภาพทางการเงิน”, “ความมั่งคั่ง”, “ความร่ำรวย” ผมเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเป้าหมายของคนทำงานจำนวนไม่น้อย
แน่นอน.. ผมก็เป็น 1 ในนั้น..
มีใครบ้างละ ไม่อยากรวย?
แต่ลึกๆแล้ว แต่ละคนก็คงมีเหตุผลที่แตกต่างกัน
บางคนอยากรวยเพราะต้องการความมั่นคงในชีวิต
บางคนอยากรวยเพราะอยากมีเวลาไปทำสิ่งที่รักโดยไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน
บางคนอยากรวยเพราะจะได้ดูแลคนที่รักได้อย่างเต็มที่
และบางคนอยากรวยเพราะจะได้ซื้อสิ่งที่ต้องการได้อย่างสบายใจ
ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุไหน ปลายทางก็เหมือนกันคือทุกคนอยากมีเงิน..
.
.
วันก่อนผมไปเจอบทความหนึ่งในนิตยสาร Business Insider ที่ค่อนข้างน่าสนใจและคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับคนอยากมีเงินทุกคน เลยอยากนำมาแชร์ครับ
บทความนี้เล่าถึง 7 สิ่งที่คนเก่งเรื่องเงินจะไม่ซื้อ เพราะคนมีเงินส่วนใหญ่มักจะประหยัดกว่าที่เราคิดและมีมุมมองการใช้จ่ายเงินที่แตกต่างจากคนธรรมดา
แล้ว 7 สิ่งนี้จะมีอะไรบ้างลองไปดูกันเลยครับ
.
1. พวกเขาไม่ซื้อรถใหม่
กูรูด้านการเงินอย่าง Lynnette Khalfani – Cox เล่าว่า คนที่มีเงินในบัญชีหลักล้านหรือสิบล้านมักจะเลือกรถที่มีอายุการใช้งาน 5 – 10 ปีแล้ว เพราะรถใหม่นั้นราคาจะตก 10% ในเดือนแรก และ 20% ในปีแรก คนที่มีการเงินดีจึงไม่อยากจะเสียมูลค่าตรงนั้นไป
จะว่าไปมันก็แปลกนะครับ หลายคนเวลาซื้อทรัพย์สินอย่างหุ้นหรือกองทุนรวม แล้วมูลค่าตก 10 – 20% จะรู้สึกเครียด กระวนกระวายใจ แต่พอซื้อรถใหม่ แม้ว่ามูลค่าจะตกลงเรื่อยๆ แต่กลับไม่รู้สึกเครียดเลย นี่ยังไม่นับเรื่องที่ว่า หุ้นยังมีเงินปันผลให้ ในขณะที่รถต้องเสียค่าน้ำมัน,ค่าบำรุงรักษา,ประกัน ฯลฯ
.
.
2. และพวกเขาก็ไม่ผ่อนรถด้วย
คุณจะไม่ได้เป็นเจ้าของสิ่งใดจริงๆ ด้วยเงินกู้ จนกว่าคุณจะจ่ายครบทุกงวด การกู้เงินมาซื้อรถหรือ การเช่าซื้อ (Leasing) ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุดของคนกลุ่มนี้
.
3. พวกเขาไม่ซื้อบ้านที่เกินกำลังของตัวเอง
เศรษฐีหลายคนซื้อบ้านที่มีราคาไม่สูงกว่าเงินที่มี ยกตัวอย่างเช่น Warren Buffett เศรษฐีชื่อดังก็อาศัยอยู่ในบ้านที่มีราคาแค่ราวๆ 25 - 26 ล้านบาท เทียบกับทรัพย์สินทั้งหมดของเขาเขาที่หลายล้านล้านบาทไม่ได้เลย
.
.
4. พวกเขาไม่รูดบัตรเครดิตเกินตัว
คนการเงินดีไม่เคยต้องจ่ายดอกเบี้ยให้บริษัทบัตรเครดิตเลย และพวกเขาจะรูดก็ต่อเมื่อมีเงินที่พร้อมจะจ่ายอยู่แล้ว แค่เลือกจ่ายโดยใช้บัตรเครดิตเพราะต้องการสะสมแต้มและสิทธิประโยชน์อื่นๆเท่านั้น
.
5. พวกเขาไม่ซื้อสินค้า Luxury หรือพวกของแบรนด์เนมจากดีไซน์เนอร์ชื่อดัง
พวกเขาลงทุนกับของคุณภาพดีมากกว่าแบรนด์
Hillary Hoffower นักข่าวของ Insider รายงานว่า การอวดรวยไม่ใช่วิธีที่บ่งบอกความรวยอีกต่อไป ในประเทศสหรัฐอเมริกา กลุ่มคนที่มีทรัพย์สินมากที่สุด 1% แรกของประเทศเริ่มซื้อสินค้า Luxury หรือพวกของแบรนด์เนมน้อยลงตั้งแต่ปี 2007 แล้ว และเอาเงินนั้นมาลงทุนกับเรื่อง Privacy , สุขภาพ และการศึกษามากกว่า
.
6. พวกเขาไม่ซื้อของมากมายตามใจอยากและเลือกซื้อของจากคุณภาพมากกว่าปริมาณ
พวกเขาไม่ค่อยซื้อเสื้อผ้าที่ราคาไม่แพงอย่างพวกแนว Fast-fashion แต่จะเลือกซื้อเสื้อผ้าที่มีเนื้อผ้าคุณภาพดี,ใส่พอดีตัวและใส่ได้นานกว่า คนที่มีสุขภาพทางการเงินดีมักจะไม่หลงไปกับวัฒนธรรมบริโภคนิยม (Consumerism)
.
.
7. พวกเขาไม่ทุ่มเงินกับงานแต่ง
งานแต่งอาจจะมีวันเดียวในชีวิตก็จริง แต่ลองคิดดูดีๆ แทนที่จะทุ่มเงินมากมายไปกับงานๆเดียว สู้เราเอาเงินนั้นไปสร้างประโยชน์และคุณค่าอย่างอื่นไม่ดีกว่าหรือ เช่น เอาไปลงทุน, ท่องเที่ยว หรือเรียนต่อ ก็อาจจะก่อให้เกิดประโยชน์ได้มากกว่า
.
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ? มีสิ่งไหนที่คุณเองก็ไม่ซื้อเหมือนกันไหมครับ?
ส่วนตัวผมเองเข้าเกณฑ์ทุกข้อเลยครับ.. ไม่ใช่เพราะผมมีเงินแล้วไม่ตัดสินใจซื้อนะครับ แต่เป็นเพราะยังมีเงินไม่พอซื้อต่างหาก (555)
.
สุดท้ายแล้ว นี่ก็เป็นแค่นิสัยการใช้จ่ายของคนการเงินดีส่วนหนึ่งเท่านั้นแหละครับ คนมีเงินบางคนอาจไม่ได้ใช้จ่ายแบบนี้ก็ได้ แต่ผมเชื่อว่าถ้าคุณสามารถทำตามนี้ได้ คุณจะมีเงินเหลือให้ไปทำอะไรได้มากขึ้น และภาพความสำเร็จทางการเงินก็คงจะเข้ามาใกล้ความเป็นจริงขึ้นอีกนิดอย่างแน่นอน
อย่างที่พี่หนุ่ม The Money Coach เคยกล่าวไว้ว่า “เริ่มเหลือ ก็เริ่มรวย”
.
ขอให้ทุกคนมีสุขภาพทางการเงินที่ดีนะครับ
.
จุ้ย-ศรีแก้ว
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
