10 เม.ย. 2021 เวลา 10:29 • ไลฟ์สไตล์
คดีลอตเตอรี่ อลเวง 12 ล้าน กับ "ทฤษฎีสมคบคิด"กำลังจะเกิดขึ้น
2
🔷จากคดีลอตเตอรี่ 30 ล้านครูปรีชา และ ลุงจรูญ กำลังจะถึงจุดสิ้นสุดนั้น ก็ได้มีคดีลอตเตอรี่ 12 ล้าน "ป้าไพ-ป้ารัตน์"เรื่องราวอลเวงเรื่องใหม่กำลังจะเกิดขึ้น
I❤️Coffee ขอนำเรื่องราวการเสี่ยงโชคของคนไทย จนเป็นความอลเวง วุ่นวายและก่อกำเนิด "ทฤษฎีสมคบคิด" ( Conspiracy Theory) กลายเป็นมหากาพย์ มีตัวละครมากมาย โครงเรื่องยาวซับซ้อน ...
1.เมื่อคุณป้าท่านหนึ่ง ชื่อ "ป้าไพ" แกอ้างว่าถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 เลขรางวัล 835538 งวดวันที่ 1 มี.ค.64 โดยที่แกได้จองไว้ 2 ใบและเขียนชื่อสลักหลังลอตเตอรี่เอาไว้แล้ว...... พูดง่ายๆ คือ เขียนชื่อจองไว้ ยังไม่ได้จ่ายตังค์
2. คดีความก็เริมต้นขึ้นทันที เมื่อป้าแกเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสกลนคร เอาผิด ป้ารัตน์ คนขายลอตเตอรี่ ในข้อหายักยอกทรัพย์ โดยให้การว่าลอตเตอรี่ที่จองไว้อยู่กับคนขาย ที่ตนเขียนชื่อสลักหลังไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้จ่ายเงิน แม่ค้ากลับบอกว่าขายลอตเตอรี่ใบดังกล่าวให้กับคนอื่นไปแล้ว
3. ด้าน ป้ารัตน์ คนขายลอตเตอรี่ แกก็ยืนกรานว่า ป้าไพ จองด้วยวาจาและเขียนชื่อไว้ด้านหลังลอตเตอรี่จริง แต่ไม่ได้จ่ายเงิน แบบนี้จะรู้ไหมว่าจะเอาหรือไม่เอา จากวันนั้น ป้าไพ ก็ไม่ได้ติดต่อกลับมายืนยันอีกเลย
4. ป้ารัตน์ คนขายลอตเตอรี่ ไม่มั่นใจว่า ป้าไพ คนซื้อ จะมาเอาลอตเตอรี่หรือไม่ และใกล้วันหวยออกแล้ว ลอตเตอรี่ก็ยังเหลืออยู่เยอะ เลยรีบขายออกไป จำไม่ได้ว่าขายให้ใครบ้าง และลอตเตอรี่ดังกล่าวที่จองไว้ก็จำไม่ได้ว่าเป็นเลขอะไร
5. ป้าไพ ท้า ป้ารัตน์ คนขายลอตเตอรี่ สาบานต่อหน้าองค์พระธาตุนารายณ์เจงเวงมีเพื่อน ช่วยเป็นพยานเห็นเหตุการณ์ขณะตกลงซื้อขายลอตเตอรี่กัน ป้ารัตน์ยังยื่นปากกาให้เขียนชื่อสลักหลังก่อนเก็บคืนใส่กระเป๋า
6. จากนั้นตำรวจได้นำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้าน ป้ารัตน คนขายลอตเตอรี่ หาสลากฯ ดังกล่าว แต่ไม่เจอ ตำรวจจึงนำต้นขั่วสลากกินแบ่งรัฐบาลงวด วันที่ 1 มีนาคม 2564 รวม 41 ใบ สมุดบัญชีรายชื่อลูกค้า 1 เล่ม ไปตรวจสอบเพื่อหาความเชื่อมโยง
7. ตำรวจหาต้นตอ ที่มาของลอตเตอรี่ที่ ป้ารัตน์ รับมาขายว่ามาจากที่ใด และเตรียมตรวจสอบ ถึงต้นขั้วลอตเตอรี่ใบที่อ้างว่าถูกรางวัลที่ 1 ทั้งต้องรอข้อมูลจากกองสลาก ฯ ที่อาจรู้ถึงข้อเท็จจริงได้ต่อไป
8. กองสลากฯ สั่งอายัดลอตเตอรี่ที่เป็นข่าว ตามที่ตำรวจยื่นเรื่องมาขอสอบสวนจนกว่าคดีจะสิ้นสุด ว่าลอตเตอรี่เป็นของใคร
cr: https://www.amarintv.com/
9. เรื่องวุ่นๆ ก็เกิดขึ้นเมื่อ ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ เผยมีหนุ่ม จากกทม.คนหนึ่ง ติดต่อเข้ามา อ้างเป็นเจ้าของลอตเตอรี่ 12 ล้านตามที่เป็นข่าว และเป็นคนที่ลบชื่อของป้าไพ ที่เขียนชื่อสลักหลังเอาไว้ออกไป
10. หนุ่นคนดังกล่าว ยืนยันซื้อลอตเตอรี่ที่เป็นข่าวกับ ป้ารัตน์ ที่หน้าห้างโฮมโปร สาขาศรีนครินทร์ ที่อ้างว่าซื้อกับป้ารัตน์ โดยถามหาเลข 538 ป้ารัตน์บอกว่ามีอยู่ 2 ใบ แต่มีคนเขียนชื่อไว้แล้วแต่ยังไม่ยอมจ่ายเงิน
🔷เป็นที่น่าแปลกใจว่า ทั้งป้าไพ และ ป้ารัตน์ มีการซื้อขายลอตเตอรี่อยู่ที่ สกลนคร แต่หนุ่มตัวละครคนที่ 3 นี้ กลับบอกว่าตนซื้อลอตเตอรี่ดังกล่าว ที่ กทม.
cr: https://www.amarintv.com/
11. หนุ่มคนนี้ได้เอาลอตเตอรี่ให้เมียดู เมียบอกว่า ไปซื้อลอตเตอรี่ที่มีชื่อคนอื่นสลักไว้ทำไม จึงใช้ปากกาขีดฆ่าชื่อที่เขียนไว้ว่า "ไพมณี" แล้วเขียนชื่อตัวเองกับชื่อเมียไว้แทน ทั้ง 2 ใบ
🔷คนที่ติดตามข่าวนี้คงคิดว่าเรื่องจบแล้ว เจอเจ้าของลอตเตอรี่ตัวจริงแล้ว ตำรวจไขคดีได้..แต่ แต่ ..
12. แต่กลับเป็นว่า หนุ่นคนดังกล่าวอ้าง จำไม่ได้ว่าเอาลอตเตอรี่ไว้กับพี่ชายหรือไว้กับตัวเอง ซึ่งหลังจากวันที่ 1 มี.ค. วันหวยออกนั้น จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าตนถูกลอตเตอรี่ เพราะซื้อไว้หลายใบ และไม่แน่ใจว่าลอตเตอรี่อยู่กับใครกันแน่ เพราะวันที่ซื้อลอตเตอรี่ได้ไปวัดกับพี่ชาย ถามพี่ชายแล้วบอกไม่ได้เอาไป และที่ตนก็ไม่มี
13. หนุ่มคนนี้พยายามเค้นถามเมีย จนมีปากเสียงกัน จนต้องแยกกันอยู่ โดยตนอยู่กับพี่ชาย ส่วนเมียอยู่กับน้องสาว และไม่ขอกล่าวถึงคนอื่น ว่าใครเอาไป ขอให้คนที่เก็บไว้เอามาคืยก็จะเป็นเรื่องที่ดี
14. ในที่สุดหนุ่มคนนี้ เตรียมเข้าแจ้งความ ว่าลอตเตอรี่หาย จะขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดกล้องวงจรปิด เป็นหลักฐานว่าตนได้ซื้อลอตเตอรี่กับ ป้ารัตน์จริง ๆ และเป็นเจ้าของลอตเตอรี่ 2 ใบนี้ตัวจริง ไม่ใช่คนอื่น
15. เมียหนุ่มคนนี้ เผยผัวเป็นคนชอบเสี่ยงโชค และเคยมีเรื่องราวพยายามกล่าวหาว่าตนเป็นคนเอาลอตเตอรี่ไปซ่อน เพื่อหวังขึ้นเงินคนเดียว จนมีปากเสียงกัน และแยกกันอยู่ และเผยต่ออีกว่า ผัวตนน่าจะเสพข่าวนี้มากไป แล้วมโนไปเองว่าเป็นเจ้าของหวย
1
🔷ติดตาม มหากาพย์ เรื่องนี้ที่เริ่มจะมีตัวละครเพิ่มมากขึ้น โครงเรื่องเริ่มซับซ้อน ว่าเป็น"ทฤษฎีสมคบคิด" หรือ เหมือนข่าวอื่นๆ ที่ผ่านหรือไม่
-สรุป-
🔷"ทฤษฎีสมคบคิด" กรณี หลังการถูกลอตเตอรี่ มีข้อสังเกตประสาชาวบ้าน ที่น่าจะเป็นไปได้...ว่า...
1
1. จะมีข้อพิพาทระหว่างคน 2 คน เฉพาะถูกรางวัลที่ 1 เท่านั้น
2. ทั้งฝ่าย โจทก์ และ จําเลย สร้างเรื่องราว ยืนยันว่าตนคือเจ้าของ
3. ทั้งฝ่าย โจทก์ และ จําเลย สร้างพยานหร้อมหลักฐานสนับสนุนสร้างความน่าชื่อถือกับตนเอง และไม่น่าชื่อถือกับฝ่ายตรงข้าม
4. หากทั้ง 3 ข้อข้างต้นยังไม่พอ จะสร้างตัวละคร อาจจะมากกว่า 1 ตัวละคร เพิ่มเติม สร้างเรื่องราวอีกมุม สนับสนุนทางอ้อม แบบที่เราคาดไม่ถึง
5. มีคลิปเสียงถูกเผยแพร่ออกมาทางสื่อ สนับสนุนสร้างความน่าชื่อถือกับตนเอง และไม่น่าชื่อถือกับฝ่ายตรงข้าม
6. ภาพถ่ายหรือคลิปจากกล้องวงจรปิด ที่ระบุได้ชัดเจน เพื่อจะเป็นข้อมูลมายืนยันได้นั้น.......จะไม่มีแน่นอน
🔷เรื่องราวข้อพิพาทดังกล่าว ก็ต้องพึ่งเจ้าหน้าตำรวจฝ่ายสืบสวนสอบเท่านั้น และเป็นที่น่าเห็นใจต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ฯ
🔷เมื่อเรื่องราวไปส่งผลต่ออารมณ์ความรู้สึกพ่วงความเชื่อ ของคนบางส่วน ได้มากกว่าเหตุผลและหลักทางวิทยาศาสตร์ รวมถึงการตีไข่ใส่สีเพิ่มเข้าไปจนต้องลุ้นระทึก น่าติดตาม กลายปัญหาและความเสียหายต่อรูปคดี
🔷"ทฤษฎีสมคบคิด" อยู่ใกล้ตัวเรามากเลย และเราอาจจะเคยทำ
❓ท่านๆ คิดเห็นอย่างไร พูดคุยกันได้ครับ❓
-สวัสดี-
I❤️Coffee
09/04/64
อ้างอิงจากข่าวทุกสื่อ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา