5 เม.ย. 2021 เวลา 08:31 • ไลฟ์สไตล์
ปัญหาอะไรที่เราเจอและบอกว่ามันคือปัญหาที่หนักที่สุดในชีวิต จากการรวบรวมสิ่งที่ได้เจอมามาตลอดหลายสิบปี ของบอกว่าเจอมาหลายรูปแบบ และหลายครั้งเคยคิด ถึงการฆ่าตัวตาย
แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่กล้าทำร้ายตัวเองให้เจ็บถึงตายได้(ถนัดประชดประชัน แล้วก็เฉียดตายแบบว่าไม่ตั้งใจ ก็เลยเข็ดและไม่กล้าทำอีก)
ช่วงชีวิตที่ผ่านมา ขอบอกว่าปัญหาที่เกิดขึ้น จะมีความซับซ้อนและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็นเรื่องใหญ่โต และเมื่อยิ่งโต(อายุมากขึ้น=แก่) ก็ยิ่งพบว่า ปัญหาที่เคยคิดว่าใหญ่โตในสมัยก่อนมันเป็นแค่เรื่องขี้ประติ๋ว จิ๊บๆ
1
ตอนเป็นเด็ก ทำไมพ่อแม่เราไม่เหมือนพ่อแม่คนอื่นๆ ทะเลาะกันได้ ทุกวัน ดีนะที่ไม่ตีกันหัวร้างข้างแตกแล้วพาลมาฟาดลูกเต้า พ่อกับแม่รักลูกๆทุกคนเรารู้เพราะเวลาอารมณ์ดีอะไรก็ยอม ทั้งสองคนคงเกลียดกันเองเพราะปัญหาที่แต่ละคนสร้างขึ้นเอง
1
คิดตามภาษาเด็ก ก่อนจะคิดมาอยู่ด้วยกันทำไมไม่เลือกให้ดีๆก่อนนะ พ่อกับแม่(พอถึงคิวตัวเองช่วงหลังแต่งงานมันเข้าใจเอง อ้อ..มันเป็นเช่นนี้เอง 555) ช่วงนั้นกลัวมากว่า กลัวจะเกิดความรุนแรง ถ้าเขาสองคนควบคุมตัวเองไม่ได้ วัดจากเสียงทะเลาะที่ตะเบ็งใส่กัน มีหลายครั้งที่แม่อารมณ์เสียมากๆ เราเป็นลูกคนโตมักจะถูกดุด่า จากเสียงบ่นของแม่เป็นประจำ เคยคิดว่า ถ้าเราไม่มีประโยชน์ไม่มีคุณค่าอย่างที่แม่พูด ก็ไม่ควรมีชีวิตอยู่เลย เราผ่านช่วยวัยเด็กที่เจ็บปวดแต่ก็ผ่านมาได้
แต่เพราะอะไรถึงผ่านมาได้โดยไม่ไปกระโดดน้ำตาย (ว่ายน้ำไม่เป็นคงตายแน่ถ้าไปกระโดด ก็เลยกลัวสำลักน้ำตายคงทรมานไม่เอาดีกว่า)
เมื่อโตอีกหน่อยถูกจับให้ไปอยู่โรงเรียนประจำ พร้อมกับศัตรูข้างกายน้องชายที่อายุอ่อนกว่าเรา 1 ปี เป็นช่วงชีวิตที่ต้องเผชิญกับการต่อสู้ กับคนแปลกหน้า หน้าแปลกๆมากหน้าหลายตา (แอบคิดได้หนีพ้นจากเสียงทะเลาะกันของพ่อแม่ที่บ้าน ) แต่ก็รู้สึกถึงความทรมานจากการที่ต้องพรากจากพ่อแม่(คิดถึงเสียงทะเลาะที่ไม่ได้อีก หึ หึ) บางครั้งเป็นเดือนๆถึงจะได้เจอกัน คิดถึงพ่อกับแม่มากๆ โดนเฉพาะเวลาผ่านของที่เคยกินแต่ไม่มีเงินซื้อ ขอใครไม่ได้ คุณครูไม่ให้พกเงิน และคิดถึงอาหารที่บ้าน ของอร่อยๆที่คุ้นเคยจากที่บ้าน สรุปว่าคิดถึงอะไรคิดถึงคน หรือของกิน555 และถ้าไม่ปิดเทอมใหญ่ก็ไม่ได้กลับบ้าน
1
หลายครั้งที่ต้องนอนร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่คนเดียว ความคิดถึงบ้าน เพราะเจ้าน้องตัวแสบหลับอุตุไปนานแล้ว เขาไม่เคยรับรู้สิ่งที่เรารู้สึกหรือต้องแบกรับไว้ในฐานะพี่ คำสั่งของพ่อแม่ให้ดูแลน้อง เมื่อไม่มีพ่อแม่ก้องในหู แต่ทำไมน้องชายแท้ๆของเรากลับไปเข้าข้างศัตรู มันน่าเสียใจเหลือเกิน เจ็บใจ....เสียใจเกินจะทน
1
ชีวิตกว่าจะโต พอที่จะทำงานหาเลี้ยงชีพต่อได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยสำหรับบางครอบครัว ปัญหาเสาหลักของการเลี้ยงดู ปัญหาสังคมและเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม ถ้าทุกอย่างลงตัว เรียบร้อบดั่งผ้าที่พับไว้รอเก็บเข้าตู้คงจะดี
ภาวะบ้านแตกสาแหรกขาดมาจากหลายปัจจัย ความสุขความทุกข์ที่ประดังเข้ามา อาจบั้นทอนความรู้สึก ทุกคนมีไดอารี่ชีวิตที่แตกต่างกัน
ทั้งที่เราอาจจะมีเป้าหมายเหมือนกัน แล้วทำไมเส้นทางการมุ่งสู่จุดหมายจึงแตกต่างกัน
ความเหลื่อมล้ำของฐานะ???
ความเหลื่อมล้ำของสติปัญญา ???
ขาดแหล่งสนับสนุนจากสิ่งแวดล้อมอื่นๆ???
เมื่อเข้าสู่วัยทำงาน เป็นช่วงของชีวิตที่ยาวนานที่สุด การเตรียมพร้อมของครอบครัว พ่อแม่ส่งเข้าขัดเกลาในโรงเรียน เวลามากน้อยแตกต่างกัน บางคนมาก บางคนน้อย จวบจนพร้อมจะเข้าทำงานเลี้ยงชีพตนเองพร้อมภาระที่ต้องแบกต่อ
วันแรกของการทำงาน การปฐมนิเทศน์ ตัดสินใจพร้อมมุ่งเป้าหมายชีวิต จากความคิดว่าจะทำงานให้ดีที่สุด จะช่วยเหลือผู้คน จะดีกับทุกคนที่รู้จัก คำสอนที่เคยติดตัวจากครูบาอาจารย์ที่ย้ำเตือนเสมอว่า
วิชาชีพนี้ต้องมีความอดทน เมื่อผู้ที่เข้ามาปฐมนิเทศน์เน้นเรื่องความอดทนขึ้นมา และคำสอนของพ่อที่เราไม่เข้าใจนัก เมื่อนึกย้อนถึง
1
" คนเราต้องอดทน และบางครั้งต้องทนอด นัยยะที่เราตีความคิด ว่าจากที่พ่อต้องทนแม่มาตลอด ต้องข่มความโกรธและอารมณของตนเอง ที่เรียกว่า ทนอด
ทนอด คือ การอดกลั้นอารมณ์ตนเอง
1
ซึ่งแต่ก่อนที่ผ่านมาไม่เคยตระหนักลึกซึ้งในประโยคนี้เท่าไร เมื่อมีประสบการณ์จากการทำงานมาหลายๆปี สิ่งที่ชัดเจนและเป็นปัญหาในชีวิตอย่าแท้จริงของตัวเอง
# การไม่รู้จักการอดทนอดกลั้นนั้นเอง
# ทุกครั้งที่เจอปัญหาทางอารมณ์ ก็จะไปให้ถึงที่สุด และหยุดที่ทะเลาะ โกรธ หรือจนกว่าจะหายโมโหเพราะมีคนยอม และไม่ใช่ฉัน เหตุการณ์บางอย่างอาจคลี่คลายลง หลังมีสติและคิดได้ แต่หลายปัญหาก็ยังอยู่เหมือนภูเขาไฟใต้มหาสมุทร ที่กำลังรอวันประทุ
มีหลายครั้งที่อับจนหนทาง หลังจากดิ้นรนต่อสู้จนท้อ ความคิดที่พุ่งมาคือหนี และหนีไปที่ไหนถึงจะพ้นจากปัญหาที่รัดคออยู่ ตายดีมั้ย
หลังจากตัดสินใจเลือกทางออก กลับมาถามตัวเองว่า ตายแล้วหนีพ้นจากปัญหา จริงหรือ ? ทิ้งปัญหาไว้ให้ผู้อื่นอีกใช่มั้ย?
อย่ากระนั้นเลย เอาลูกไปด้วย เพราะถ้าไม่มีเราเขาก็อยู่ไม่ได้ เพราะทุกวันนี้ก็มีแค่เราที่เป็นห่วงเขาอย่างจริงจัง คนเดียวจริงๆ
แต่ในที่สุดความกลัวบางอย่างก็เข้ามาว้าปในจิต เราทุกข์ขนาดนี้เศร้าขนาดนี้ เจ็บขนาดนี้ แล้วต้องกลับมาชดใช้อารมณ์แบบนี้อีก 500 ชาติ 1000ชาติกับการชดใช้ที่ต้องทุกข์ทรมานสุดชีวิตก่อนตาย จะต้องมาทำแบบเดิมเป็นร้อยชาติพันชาติ อย่ากระนั้นเลย ปล่อยตามเวรกรรมตามเวรให้จบในชาตินี้ ว่าแล้วเราก็ต้องกัดฟันอดทนสู้ต่อให้ถึงที่สุด อะไรจะเกิดก็ยอม ดีกว่ามั้ย
1
ไม่ตายผิดธรรมชาติแล้ว
เมื่อ....ไม่เหลืออะไรสักอย่างในชีวิตก็ชั่ง ไม่มีเงิน ไม่มีบ้าน ไม่มีรถ ติดหนี้ ติดคดีหรือจะติด....คุก ก็ต้องปล่อยให้เกิด แล้วถ้าจะไม่มีกิน ถึงอดตายก็ยอม อย่างน้อยที่สุดบาปก็จะไม่เกิด ไม่ต้องใช้กรรมเพราะทำร้ายใคร
เราฆ่าใครไม่ได้ ฆ่าลูกไม่ได้ ฆ่าศัตรูไม่ได้ ฆ่าผู้มีพระคุณไม่ได้ เเละสุดท้ายฆ่าตัวเองไม่ได้ เราต้องทนอด และอดทน ต่อไป มีชีวิตต่อไป
เรามีหน้าที่ดูแลสังขารนี้ อย่างดีที่สุด
ทุกบาดแผลสร้างความเจ็บปวดเจียนตายได้หมด แผลเล็กๆแค่รูเข็มก็ทำให้ตายได้ และบางครั้งแผลใหญ่ขนาดเสียแขนขา แต่ไม่ยอมเสียชีวิต เราก็ผ่านและรอดมาได้
1
แล้วทำไมกับความไม่สมหวัง ถึงกับต้องลงมือทำร้าย คนอื่นหรือตัวเอง
มุมมองของทุกอย่างที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะตอนที่เราไม่พร้อมจะตัดสินใจใดๆ คือตอนเจ็บปวด ทำทุกอย่างตามปกติต่อไปรอจนทุเลาความเจ็บ แล้วมาค้นหาหรือเลือกทางออกกันต่อไป น่าจะเป็นเวลาที่ดีที่สุด อดทน อดกลั้นให้มากๆ รอและรอต่อไป
ภูมิใจให้มากๆที่เรารอดมาจนถึงวันนี้ได้ แปลกใจมั้ย เราต้องเจอเหตุ
การณ์ร้ายๆตั้งหลายอย่าง การคิดถึงความผิดหวังไม่ได้ช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้น ไม่ได้บอกให้ลืม แต่บอกให้รอด้วยความอดทน อดกลั้น รอต่อไป
2
จงทำตามหน้าที่บทบาทที่มี จะเจ็บ จะอายอดสู ไม่รู้จะสู้หน้ากับใครได้ ก็ต้องยอม อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด ในวันที่เลือกไม่ได้ก็ต้องรอให้มัน ผ่านไปเอง เราเองเท่านั้นที่จะสามารถบอกได้ว่า ที่ผ่านมาอะไรที่ทำให้เราเจ็บที่สุด ถ้ามันยังไม่ผ่านพ้น แน่นอนเรายังสรุปไม่ได้
2
ขอบคุณภาพจาก
โฆษณา