ไวรัลที่น่ากลัวจากต่างประเทศ❗ Toxic ใน TikTok ❗ เหตุเกิดซ้ำ 2 เด็กน้อยเลียนแบบการกระทำ Blackout Challenge จนเสียชีวิต
ใน Tiktok จะมีคนออกมาทำ คอนเทนต์ แปลกๆ รวมถึงมีการกระทำแนวๆ " Challenge" ที่มีความรุนแรง อยู่บ่อยครั้ง ถือเป็น Toxic Content ควรระวัง
I❤️Coffee ขอยกตัวอย่างการกระทำที่ดูแล้วอันตรายมาก เช่น ....
⭕ในปี 2020 มี "Skull breaker challenge" เป็นการเล่นโดยให้เด็ก 3 คน กระโดด 2 คนข้างๆ จะขัดขาคนตรงกลางให้ล้มหัวฟาดพื้น คนที่ถูกทำให้ล้ม หัวกระแทกพื้นอย่างรุนแรง อาจทำให้คนกะโหลกศีรษะแตก มีเลือดออกในสมอง เส้นประสาทสมองถูกทำลาย ทำให้หมดสติ อาจถึงขั้นโคมา และเสียชีวิตได้
⭕หรือย้อนไปในปี 2017 ได้มี "The choking game" ที่มีคำเรียกกันว่า “ฝันหวานกดหลับ” เป็นการใช้มือดันบริเวณหน้าอกเพื่อน จนเกิดอาการหมดสติไปชั่วขณะ ซึ่งระบาดหนักในช่วงนั้น
การหายใจเข้าออกลึกๆ ทำให้คาร์บอนไดออกไซด์ต่ำลง เกิดหน้ามืดวิงเวียน กลั้นหายใจและกดหน้าอก ทำให้เลือดเข้าหัวใจและไปเลี้ยงสมองน้อย
การกดรุนแรง ผิดวิธี อาจทำให้หัวใจหยุดเต้น และเสียชีวิตได้
⭕ล่าสุดในต้นปีนี้ ก็ได้มีการทำ Blackout Challenge ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มคนที่เล่น TikTok โดยการทำให้ตัวเองสลบไปชั่วขณะ พร้อมทั้งถ่ายคลิปโพสต์เพื่อทำการ Challenge
จนมีเรื่องราวสลดก็เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยเด็กหญิงวัย 10 ปี ชาวอิตาลี ได้เล่น Blackout Challenge เลียนแบบในแอปฯ TikTok จนในที่สุดตกอยู่ในสภาวะสมองตาย และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
แพทย์ไม่สามารถยื้อชีวิตเด็กหญิงคนนี้เอาไว้ได้ทัน จนหน่วยงานของอิตาลีขอให้แอปฯ TikTok บล็อกผู้ใช้งาน ที่ไม่เปิดเผย หรือไม่สามารถตรวจสอบอายุผู้ใช้งานได้ เพื่อป้องกันไม่ให้มีเด็กๆที่เสียชีวิตแบบเหตุการณ์ดังกล่าวอีก
⭕จนหน่วยงานที่ทำหน้าที่ดูแลความเป็นส่วนตัวของข้อมูลในอิตาลีได้ขอให้แอฯTikTok บล็อกบัญชีผู้ใช้งาน ที่ไม่สามารถตรวจสอบอายุผู้ใช้งานได้เพื่อป้องกันไม่ให้มีเด็กๆเสียชีวิจากเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวอีก
แต่ด้านโฆษกของ TikTok ไม่ได้บอกว่าจะทำตามข้อเรียกร้องของอิตาลีแต่อย่างใด แต่ตัวแทนยืนยันถึงความสำคัญด้านความปลอดภัยเป็นหลัก โดยตัวแอปจะไม่อนุญาตให้มีเนื้อหาที่ “ส่งเสริมหรือยกย่อง” พฤติกรรมที่เป็นอันตราย
-------------------
⭕ท่าทีแบบนี้แล้ว ดูเหมือนออกมาจะปัดความรับผิดชอบอย่างชัดเจน ซึ่งเมื่อเปิด Community Guidelines หรือ แนวทางปฏิบัติสำหรับชุมชน ของ TikTok ที่ระบุ เกี่ยวกับการทำร้ายตัวเอง และพฤติกรรมอันตราย ไว้ว่า
⭕"เราใส่ใจอย่างลึกซึ้งถึงสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้คนในชุมชนของเรา เราจึงไม่อนุญาตให้มีเนื้อหาที่ปรากฏ, ส่งเสริม, เชิดชู หรือทำให้พฤติกรรมที่อาจนำไปสู่การฆ่าตัวตาย, ทำร้ายตัวเอง
หรือพฤติกรรมการกินที่ผิดปกติเป็นสิ่งปกติ นอกจากนี้ เรายังไม่อนุญาตให้ผู้ใช้งานแชร์เนื้อหาที่แสดงให้เห็นว่าตนมีส่วนร่วมหรือสนับสนุนให้ผู้อื่นมีส่วนร่วมในพฤติกรรมอันตรายซึ่งอาจนำไปสู่การบาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิต"
รวมทั้ง "ความปลอดภัยของผู้เยาว์" และอีกหลาย แนวทางปฏิบัติสำหรับชุมชน
⭕และล่าสุดมีเหตุสลดใจเกิดซ้ำอีก เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เด็กชายอายุ 12 ปี ได้ทำ Blackout challenge เลียนแบบใน tiktok เช่นกัน
โดยใช้เชือดผูกรองเท้ารัดคอตัวเอง แล้วสลบไป กว่าจะมีคนไปพบ น้องก็สมองตายไปแล้ว ในที่สุดก็เสียชีวิต
-------------
⭕ในกรณีนี้ เป็นเหตให้ สมองอยู่ภาวะขาดเลือด (Stroke) เป็นภาวะที่หลอดเลือดสมองซึ่งเป็นเส้นทางลำเลียงเลือดถูกตัดขาด โดยเฉพาะเส้นเลือดใหญ่บริเวณลำคอ
ทำให้เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงสมองบริเวณนั้นได้ จึงส่งผลให้เซลล์สมองตายและสมองสูญเสียการทำหน้าที่ในที่สุด
โดยภาวะที่สมองหยุดทำงานนั้น ก็จะส่งผลทำให้เกิดอาการอัมพาต ไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกาย หรือ มีภาวะบกพร่องทางการสื่อความผิดปกติ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของภาวะขาดเลือดในผู้ป่วยแต่ละราย
⭕รู้หรือไม่ว่า...หากสมองขาดเลือดเพียง 4 นาทีก็เพียงพอทำให้เซลล์สมองขาดสารอาหารและตายในที่สุด
📌📌📌📌📌
📌 I❤️Coffee คิดว่านับวัน แอพฯ TikTok ที่ได้รับความนิยมสูงสุด เริ่มเป็น Toxic เป็นพิษเข้าไปทุกวันเสียแล้ว อันตรายน่ากลัวมากๆ หากปล่อยลูกหลานของเราให้อยู่กับหน้าจอ
เพราะเนื้อหาบางอย่าง อาจกระตุ้นปัญหาด้านสุขภาพจิตต่างๆ ในเด็ก บางเนื้อหาก็มีการกระทำที่ไม่เหมาะสม
และเกิดพฤติกรรมเลียนแบบในการกระทำที่อันตราย ต่างๆ ที่ถูกเผยแพร่ไว้ใน แอพฯ TikTok โดยที่เด็กยังมีวุฒิภาวะน้อบมากที่จะแยกแยะ เนื้อหา Toxicเหล่านั้น
😓เมื่อทางแอพฯ TikTok เขาอ้างว่า ก็มี Community Guidelines เขียนไว้ชัดเจนอยู่แล้วนี่ ความรับผิดชอบก็ตกมาอยู่กับผู้ปกครองที่ต้องดูแลลูกหลานเอาเอง อย่างเข้มงวด😓
-------------
reference :
-------------
edited by : I❤️Coffee