5 เม.ย. 2021 เวลา 14:07 • ประวัติศาสตร์
วันนี้ เราจะพาทุกคนมารู้จักกับเมือง Longyearbyen เมืองที่หลายๆคนยังคงเข้าใจผิดๆอยู่ว่า
เป็นเมืองที่มีกฎหมายว่า “ห้ามตาย”
Longyearbyen เมืองที่มีคนอาศัยอยู่ทางตอนเหนือสุดของโลกในหมู่เกาะ Svalbard ในนอร์เวย์ ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของโลกระหว่างนอร์เวย์และขั้วโลกเหนือ
สถานที่นี้เป็นสถานที่ๆ พระอาทิตย์จะหายไป 4 เดือนในฤดูหนาว ซึ่งมีชื่อเรียกว่า The Midnight Sun ซึ่งบ่งบอกได้ว่าฤดูหนาวของที่นี่ค่อนข้างจะหนาวจัด ซึ่งในช่วงหน้าหนาวเมือง Longyearbyen จะมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ระหว่าง -14 ถึง -8 องศาเซลเซียส และช่วงที่อากาศอบอุ่นที่สุดของ Longyearbyen โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 5 ถึง 9 องศาเซลเซียส
แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนตะลึงคือ เมืองนี้ขึ้นชื่อว่า ความตายเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ซึ่งจริงๆแล้วเมืองแห่งนี้ความตายไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมายอะไร เพียงแต่ เมืองแห่งนี้ ไม่อนุญาตให้ใครก็ตามฝังศพอยู่ที่นี่ต่างหาก แต่ถ้าอยากฝังจริงๆ คุณจะต้องเผาศพให้กลายเป็นเถ้าถ่านเสียก่อน ก่อนที่จะฝังเถ้าถ่านพวกนั้นโดยการขออนุญาติจากทางการก่อน
เหตุผลอะไรถึงไม่ให้ฝังศพ?
เรื่องนี้มีที่มาครับ ในปี 1950 เมื่อชาว Svalbard ได้ค้นพบสิ่งที่น่าตกใจว่า ศพของคนตายที่ถูกฝังอยู่ใต้ดินในเมืองแห่งนี้ไม่ได้ย่อยสลายลงไปเลย และที่หนักไปกว่านั้น ในปี 1990 นักวิทยาศาสตร์ได้พบว่าร่างกายของมนุษย์ที่ล่วงลับไปแล้วในปี 1918 จากโรคไข้หวัดใหญ่สเปน นอกจากร่างกายจะไม่ย่อยสลายแล้ว ยังคงมีเชื้อไวรัสอยู่อย่างสมบูรณ์ และที่หนักไปกว่านั้นคือ permafrost จะดันโลงศพที่ฝังไว้ใต้ดินโผล่ออกมาอีกต่างหาก
นับตั้งแต่ปี 1950 เมือง Longyearbyen จึงออกกฎไม่ให้ฝังศพในเมืองแห่งนี้อีก ซึ่งก็จะมีข้อปฏิบัติที่ตามมาว่า ถ้าใครที่กำลังป่วยหนัก หรือชราภาพ มักจะไปใช้ชีวิตบั้นปลายสุดท้ายที่แผ่นดินใหญ่ในเมืองออสโล ประเทศนอร์เวย์แทน
นอกจากกฎหมายที่ห้ามให้ฝังศพแล้ว เมือง Longyearbyen ยังมีกฎหมายแปลกๆอื่นๆอีกเช่น
- ห้ามเลี้ยงแมว ด้วยเหตุผลที่ว่าแมวอาจทำร้ายสัตว์ป่า โดยเฉพาะ”นก”เพื่ออนุรักษ์นกอาร์กติกสายพันธุ์ที่หายาก
- กำหนดให้บุคคลใด ๆ ที่ออกไปเที่ยวข้างนอกต้องพกปืนไรเฟิลติดตัว เพื่อป้องกันหมีขั้วโลกทำร้าย
- ที่เมืองนี้คุณสามารถพูดคุยกับคนในเมืองได้ แต่การถ่ายรูปจำต้องขออนุญาต และอย่าถ่ายรูปเด็กที่โรงเรียนอนุบาลหรือโรงเรียน
- ห้ามเด็ดดอกไม้ เพราะพืชพรรณในทุ่งหญ้าทุนดราเหลือเพียง 10% ของพื้นที่
- ห้ามแตะต้องซากวัฒนธรรมเก่าๆ ที่นี่มีกฎหมายปกป้องร่องรอยของมนุษย์ตั้งแต่ก่อนปี 1946
และก็อีกสารพัดข้อปฎิบัติต่างๆในเมืองแห่งนี้ ที่มันจะดูแปลกๆหน่อย เพราะภูมิสาศตร์ของที่นี่ ไม่ค่อยเหมือนที่อื่นๆบนโลก แต่อย่าลืม นี่ก็เป็นหนึ่งในเมือง ที่มีคนไทยอาศัยอยู่ค่อนข้างเยอะมากๆทีเดียว
1
#Obsoletearticles
โฆษณา