6 เม.ย. 2021 เวลา 05:00 • ปรัชญา
นิทานชาดก เรื่อง วานรินทชาดก (ลิงเจ้าปัญญา)
ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่วัดเชตวันเมืองสาวัตถี ทรงปรารภความพยายามเพื่อปลงพระชนม์พระองค์ของพระเทวทัต ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธกว่า...
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว พระโพธิสัตว์เกิดเป็นพญาวานรตัวหนึ่ง มีรูปร่างขนาดเท่าลูกม้า มีพละกำลังมาก อาศัยอยู่ในชายป่าแห่งหนึ่ง เที่ยวหากินอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำแห่งหนึ่งซึ่งอุดมสมบูรณ์ไปด้วยผลไม้นานาชนิด พญาวานรจะกระโจนจากฝั่งแม่น้ำข้างนี้ไปพักที่แผ่นหินกลางน้ำ แล้วกระโจนจากแผ่นหินไปขึ้นบนเกาะนั้นในเวลาเช้า เที่ยวหากินผลไม้ต่างๆ ในเกาะนั้นในเวลากลางวัน แล้วจะกระโดดกลับทำนองเดียวกันในเวลาเย็น โดยลักษณะเช่นนี้เป็นประจำทุกวัน
Cr.pixabay.
ในแม่น้ำนั้น มีจระเข้ผัวเมียคู่หนึ่งอาศัยอยู่ ได้มองเห็นลิงนั้นกระโดดข้ามไปมาทุกเช้าเย็น ในเช้าวันหนึ่ง จระเข้ผู้เมียเกิดแพ้ท้องต้องการกินหัวใจของลิง จึงพูดกับสามีว่า
      " พี่ ฉันแพ้ท้องต้องการกินหัวใจของลิงตัวนั้น พี่จงหามาให้ฉันหน่อยนะ "
จระเข้ผู้สามีกล่าวว่า
      " ได้จ้า ที่รัก เดี๋ยวพี่จะคอยจับมันที่มาจากเกาะในเย็นวันนี้ "
Cr.pixabay.
ฝ่ายพญาวานรเที่ยวหากินบนเกาะนั้นทั้งวัน ครั้นถึงเวลาเย็นก็มายืนอยู่ที่ชายฝั่งที่เคยกระโดดข้ามทุกวัน มองเห็นความผิดปกติของแผ่นหินกลางน้ำแล้วคิดว่า
      " วันนี้ ทำไมแผ่นหินจึงสูงกว่าเดิม ปริมาณน้ำก็ยังเท่าเดิม เห็นทีจะมีสัตว์อะไรมานอนบนแผ่นหินนั่นกระมัง "
จึงทำเป็นเรียกแผ่นหินว่า
      " หิน หิน "
ก็ไม่ได้รับคำตอบ จึงพูดเปรยๆขึ้นว่า
      " หิน ทำไมวันนี้ ท่านจึงไม่ขานรับข้าพเจ้าละ"
ฝ่ายจระเข้ที่นอนอยู่บนแผ่นหิน ได้ฟังเช่นนั้นคิดหลงกลว่า
      " ในวันอื่นๆ แผ่นหินนี้ คงให้คำตอบแก่ลิงเป็นแน่ "
จึงขานรับออกไปว่า
      " อะไร ท่านลิง"
พญาวานร
      " ท่านเป็นใคร ? "
จระเข้
      " เราเป็นจระเข้"
พญาวานร
      " ท่านมานอนอยู่ที่นี่ทำไม ? "
จระเข้
      " เพื่อต้องการหัวใจของท่าน"
พญาวานร
      " ท่านต้องการไปทำไม ? "
จระเข้
      " เมียเราแพ้ท้อง ต้องการกินหัวใจของท่าน "
พญาวานรคิดว่า
      " เราไม่มีทางอื่น นอกจากจะลวงจระเข้ตัวนี้ " จึงพูดว่า " จระเข้สหายรัก เราตกลงสละร่างกายให้ท่านแล้วละ เพื่อเห็นแก่ลูกน้อยของท่าน ท่านจงอ้าปากไว้ เราจะกระโจนเข้าปากของท่านเอง "
หลักความจริงมีอยู่ว่าเมื่อจระเข้อ้าปาก ตาทั้ง ๒ ข้างก็จะหลับ จระเข้ไม่ทันคิดถึงเหตุนี้ จึงอ้าปากคอย พญาวานรจึงกระโดดเหยียบหัวจระเข้กระโดดข้ามไปยังฝั่งตรงข้ามอย่างรวดเร็ว
จระเข้พอคิดได้ว่าหลงกลพญาวานรก็สายเสียแล้ว จึงกล่าวเป็นคาถาว่า
     " พญาวานร ผู้ใดมีธรรม ๔ ประการนี้ คือ สัจจะ ธรรมะ ธิติ และจาคะ
       เช่นกับท่าน ผู้นั้น ย่อมครอบงำศัตรูที่ตนพบเห็นได้ "
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ผู้มีปัญญาสามารถเอาชีวิตรอดได้ด้วยสติปัญญาของตน
Cr.pixabay.
วิเคราะห์ตัวละคร นิทานชาดกเรื่อง วานรินทชาดก (ลิงเจ้าปัญญา)
1. พญาวานร มีสติปัญญาที่ชาญฉลาด สามารถหลีกหนีภัยที่มาใกล้ตัวได้ ดังตัวอย่างที่ว่า
พญาวานร
      " ท่านเป็นใคร ? "
จระเข้
      " เราเป็นจระเข้"
พญาวานร
      " ท่านมานอนอยู่ที่นี่ทำไม ? "
จระเข้
      " เพื่อต้องการหัวใจของท่าน"
จากใจความข้างต้นทำให้พญาวานรู้ถึงจุดมุ่งหมายของจระเข้ที่คิดร้ายต่อตน จึงได้ออกอุบายหลอกถามให้จระเข้พูดถึงจุดประสงค์ที่แท้จริง ด้วยสติปัญญาที่ชาญฉลาดทำให้พญาวานรรอดพ้นจากภัยครั้งนี้ไปได้
Cr.pixabay.
2.จระเข้เพศผู้ เป็นจระเข้ที่รักเมียตัวเองอย่างมากและเป็นจระเข้ที่ซื่อตรง สติปัญญาไม่ฉลาดมากนัก ทำให้หลงกลต่อพญาวานร ดังตัวอย่างที่ว่า
" พี่ ฉันแพ้ท้องต้องการกินหัวใจของลิงตัวนั้น พี่จงหามาให้ฉันหน่อยนะ "
จระเข้ผู้สามีกล่าวว่า
      " ได้จ้า ที่รัก เดี๋ยวพี่จะคอยจับมันที่
จากตัวอย่างข้างต้นทำให้รู้ว่า จระเข้เพศผู้ตัวนี้รักเมียตัวเองอย่างมากและไม่เฉลียวฉลาดมากนักและเป๋ยจระเข้ที่ซื่อตรงอีกด้วน
Cr.pixabay.
3. จระเข้เพศเมีย มีนิสัยดุร้ายเป็นชาตญาณของสัตว์ และเอาแต่ใจตัวเอง ดังตัวอย่างที่ว่า
" พี่ ฉันแพ้ท้องต้องการกินหัวใจของลิงตัวนั้น พี่จงหามาให้ฉันหน่อยนะ "
จากตัวอย่างข้างต้นแสดงให้เห็นถึงบุคลิกนิสัยของจระเข้เพศเมียตัวนี้รวมถึงเป็นชาตญาณของสัตว์ร้ายที่กินเนื้อเป็นอาหาร ทำให้เห็นถึงพฤติกรรมตัวครได้เด่นชัด
ัที่มา : หนังสือนิทานชาดก เล่มที่ ๑ โดย พระมหาสุนทร สุนฺทรธฺมโม
ที่มา.นิทานชาดกเรื่องวานรินทชาดก.
โฆษณา