6 เม.ย. 2021 เวลา 03:49 • ไลฟ์สไตล์
สวัสดียามเช้าชาว Blockdit ค่ะ ✨✨
ห่างหายไปนานกับการเขียน วันนี้จึงอยากมาแชร์อีกครั้งเกี่ยวกับเรื่องของ “Mind” 💛
โพสต์แรกผู้เขียนกล่าวถึง “Law of attraction” ว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่นำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงของตัวเองหลายๆ อย่าง เชื่อว่าคนส่วนมากเคยได้ยินทฤษฎีนี้กันมาบ้างอยู่แล้ว
แต่อาจจะมีน้อยคนที่เคยได้ยินคำว่า “Law of assumption” กฎแห่งการตั้งสมมติฐาน
ซึ่งจริงๆ แล้วต้องบอกว่า ชีวิตส่วนตัวทุกด้านของผู้เขียนสามารถเกิดความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีมหาศาลได้นั้น มาจาก “Law of assumption” ต่างหาก
Law of assumption อธิบายว่า สิ่งใดก็ตามที่เราคิด เชื่อ หรือมีความรู้สึกเกี่ยวกับตัวเรา ผู้อื่น หรือสถานการณ์ สิ่งนั้นจะมาปรากฏให้เป็นความจริง (reality) ในชีวิตเราเสมอ
1
กล่าวคือ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกใบนี้มาจากสิ่งที่เราคิดในใจเราไว้มาก่อนทั้งสิ้น ไม่มีสิ่งใดที่เป็นความบังเอิญ
“Whatever your conscious mind assumes and believes to be true, your subconscious mind will accept and bring to pass” - Joseph Murphy (The Power of Your Subconscious Mind).
“Whatever you assume is true, regardless if it really is true or false, will harden into a fact” - Neville Goddard
“เรื่องที่เราเจออยู่ตอนนี้ มันเคยถูกออกแบบมาแล้วในความคิดของเรา สังเกตให้ดี สิ่งที่เราคิดอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน มันจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของเรา เราจะเป็นอย่างที่เราคิด” (ว. วชิรเมธี)
นั่นหมายความว่า สิ่งที่เป็นตัวกำหนดนำทางชีวิตเราไม่ว่าจะไปในทิศทางใดก็ตาม คือ “Mind” หรือจิตของเรานั่นเอง หาใช่ “จักรวาล” หรือ “พลังภายนอก” อันใดไม่
เช่น หากเรามีความเชื่อเกี่ยวกับตนเอง (self concept) ตลอดมาว่า เราเป็นคนโชคไม่ดี ในโลกความจริงของเรา (our reality) ก็จะมีเหตุการณ์ที่เข้ามาในชีวิตเพื่อยืนยันสมมติฐานความเชื่อนี้ของเราเสมอ
แต่คนเรานั้นถูกหล่อหลอมเติบโตมาด้วยความเชื่อต่างๆ จากครอบครัว สังคม สื่อ สิ่งแวดล้อม ก่อให้เกิดเป็นสิ่งที่เรียกว่า “Limiting Beliefs” ความเชื่อที่จำกัด (จำกัดความสุข จำกัดความสบายใจ จำกัดความก้าวหน้า ฯลฯ)
ตัวอย่างไหนบ้างที่เป็น Limiting beliefs ที่พบเห็นกันบ่อยๆ เช่น “โลกใบนี้มันอันตราย” “No pain, no gain” “ความรักดีๆ หายาก” “ฉันยังดีไม่พอ” “เงินทองหายาก” “ชีวิตมันไม่ง่าย” “คนเราชอบเห็นแก่ตัว” เหล่านี้เป็นต้น
หากตอนนี้ใครมีชีวิตด้านใดที่ยังไม่พึงพอใจ ลองสำรวจดูว่าเรามี”ความเชื่อที่จำกัด” อะไรอยู่บ้าง
“We don’t see things as they are, we see things as we are”. 🎭
หากเราเชื่อว่า เพื่อนร่วมงานคนนี้นิสัยไม่ดี เราก็มักจะได้เห็นการกระทำนั้นของเขาเรื่อยไป เราเปลี่ยนความเชื่อที่เรามีต่อเขาได้เมื่อไหร่ เราก็จะได้เห็นเขาที่เปลี่ยนไปเมื่อนั้น :)
หากเราตำหนิต่อว่าสถานการณ์ต่างๆ ด้วยความไม่ชอบใจเราก็ยังคงวนเวียนต้องพบเจอสถานการณ์นั้นๆ อยู่ซ้ำๆ
ทุกความสัมพันธ์คือกระจกบอกว่าเรามีความสัมพันธ์กับตัวเราเองเช่นไร
หากวันนี้รู้สึกว่าไม่ได้รับการยอมรับ ไม่ได้รับความรัก ไม่ได้รับความเข้าใจ ลองพิจารณานั่งอยู่กับใจตัวเองนิ่งๆ ถามตัวเองว่า เรายอมรับในตัวเองอย่างไร? เราให้ความรักกับตัวเองอย่างไรบ้าง? เราเข้าใจตัวเราเองมากน้อยแค่ไหน?
“Everyone is a reflection of you ทุกคนในโลกของเรา คือกระจกสะท้อนสิ่งที่อยู่ในตัวเรานั่นเอง ✨✨✨
Bible verse “As within, so without” ไม่มีอะไรที่เกิดขึ้นในโลก โดยไม่ได้เริ่มเกิดมาก่อนจากจิตของเรา 🌟
ขอให้วันนี้และทุกๆ วัน มี “ใจ” ที่เบาสบาย มองเห็นความรักและความดีต่อทุกสิ่งนะคะ 🌸🍃❤️
โฆษณา