Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
It's Harvest Time!
•
ติดตาม
6 เม.ย. 2021 เวลา 04:20 • ไลฟ์สไตล์
วิธีปลูกต้นข้าวสาลีในบ้าน: สำหรับทำน้ำ Wheatgrass joice และให้สัตว์เลี้ยงของคุณ
Feature เสริมของร้านน้ำผลไม้ปั่น นอกจากน้ำผลไม้ตามฤดูกาลแล้ว อีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ น้ำวีทกราส [Wheatgrass joice-น้ำต้นอ่อนข้าวสาลี ] ซึ่งมักอยู่ในเมนูของน้ำผลไม้มานาน แต่อาจจะไม่เป็นที่คุ้นเคยกันมากนัก แต่มันคืออะไรกันแน่? ต้นข้าวสาลีเป็นยอดอ่อนที่เพิ่งงอกใหม่ของต้นข้าวสาลี [Tritium aestivum] ซึ่งในความเป็นจริงมันก็คือ หญ้า!
แม้ว่าคุณอาจจะไม่ได้เป็น นักดื่มน้ำผลไม้ตัวยง แต่คุณอาจเคยเห็น 'หญ้าแมว' กระถางเล็ก ๆ ในร้านขายสัตว์เลี้ยง นอกจากนี้ยังมี 'วีทกราส' ซึ่งเป็นออฟชั่นเสริมให้น้องแมวในบ้าน เพื่อให้มีอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้แทะเล็มเมื่อพวกมันอยากกินหญ้า และวีทกราสที่คุณปลูกเองที่บ้านสามารถให้สัตว์เลี้ยง เป็นทางเลือกที่ปลอดภัย แทนหญ้าเทียมซึ่งอาจมีสารเคมีอยู่
Note : ทั้งสุนัขและแมวกินหญ้าสดเพื่อช่วยในการย่อยอาหาร
สรุปก็คือ วีทกราสเป็น“ อาหารชั้นเลิศ” ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงมากซึ่งสามารถปลูกได้ง่ายที่บ้าน วิธีการปลูกต้นข้าวสาลีแบบ DIY และเครื่องคั้นน้ำวีทกราสขนาดเล็กช่วยให้คุณมีน้ำวีทกราสสดได้ตามต้องการ เมื่อใดก็ตามที่คุณต้องการเพิ่มลงในสมูทตี้หรือใส่ลงร่วมกับผักชนิดอื่น ที่คุณกำลังคั้นน้ำ
แมวและสัตว์เลี้ยงอย่างสุนัข กินหญ้าสดเพื่อช่วยในการย่อยอาหาร
อุปกรณ์สำหรับปลูกต้นข้าวสาลี
อย่ามัวเสียเวลาพิรี้พิไร เรามาเริ่มกันเลย!
1. เมล็ดต้นข้าวสาลีพันธุ์ดี - หากคุณประสบปัญหาในการปลูกต้นข้าวสาลีของคุณเองให้แน่ใจว่าคุณได้มาจากเมล็ดพันธุ์ออร์แกนิก[Organic seeds]ที่ไม่ใช่จีเอ็มโอ [GMOs]
2. ภาชนะสำหรับแช่เมล็ดข้าวสาลี
3. ภาชนะที่มีรูระบายน้ำ - เราสามารถปลูกต้นข้าวสาลีได้สำเร็จด้วยถาดหรือกระถางเกือบทุกชนิดที่มีรูระบายน้ำ ถาดนั้นเหมาะอย่างยิ่ง เพราะเราไม่ต้องการความลึกมากนัก และจะใช้ดินน้อยลงในภาชนะตื้น ๆ สำหรับการปลูกอย่างจริงจัง เราอาจต้องลงทุนกับถาดปลูกที่ออกแบบมาสำหรับการแตกหน่อ
4.วัสดุเพาะปลูก - สามารถปลูกต้นข้าวสาลีในดินขุยมะพร้าว เวอร์มิคูไลท์ หรือ พีทมอส (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับพีทมอส)ได้
5. ขวดสเปรย์ - เลือกใช้ขวดสเปรย์ที่ทนทานที่สุดเท่าที่จะหาได้และซื้อสำรองเผื่อไว้
6. ปุ๋ยสาหร่ายทะเลชนิดน้ำ (ไม่จำเป็น) ซึ่งมีเป็นประโยชน์สำหรับผู้ปลูกโดยใช้วิธีการไม่ใช้ดินเพราะมันสามารถช่วยเพิ่มโคโรฟิลด์เล็กน้อยลงในต้นกล้าสาลีที่ดูซีด
Fact : GMO - ย่อมาจากภาษาอังกฤษคำว่า Genetically Modified Organic sms (GMOs) เป็นสิ่งมีชีวิตไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ พืช จุลินทรีย์ แบคทีเรีย ที่ถูกนำมาแปลงพันธุกรรม โดยเอายีนส์ของสิ่งมีชีวิตหนึ่งไปใส่สิ่งมีชีวิตหนึ่ง เป็นการผสมข้ามสายพันธุ์หรือไม่ผ่านการผสมแบบดั้งเดิม
Fact: Organic seeds - เป็นเมล็ดดั้งเดิมที่ไม่ผ่านการตัดต่อพันธุกรรม (NON GMOs)
วิธีการเร่งอัตราการงอกของเมล็ด
ในขณะที่คุณสามารถปลูกเมล็ดข้าวสาลีในช่วงฤดูหนาวได้ (เมล็ดพันธุ์พืชบางชนิดปลูกยากในฤดูหนาว) แต่ความจริงง่ายๆก็คือ การทำให้เมล็ดงอกก่อนที่จะปลูกลงในวัสดุปลูก จะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า ข้อมูลต่อไปนี้ใช้สำหรับการกระตุ้นการงอกก่อนนำไปปลูกจริง
การแช่น้ำ
มีทางเลือกวิธีการมากมายเพื่อจะได้การปลูกที่ดีที่สุด แต่ทุกคนเห็นด้วยในสิ่งหนึ่งคือ การแช่เมล็ดในน้ำไว้ล่วงหน้าก่อนปลูก อย่างไรก็ตาม คุณมีเมล็ดจำนวนมาก กฎทั่วไปคือ เติมน้ำในภาชนะให้มากขึ้นสามเท่า จากนั้นปล่อยเมล็ดให้แช่ค้างคืนเป็นเวลาอย่างน้อย 12 ชั่วโมง เมื่อคุณแช่เมล็ดเสร็จแล้ว ให้ล้างน้ำให้สะอาดสะเด็ดน้ำจากนั้นย้ายเมล็ดไปยังภาชนะที่มีรูระบายน้ำ ซึ่งมีวัสดุปลูกเตรียมไว้
คุณจะสังเกตเห็นเมล็ดข้าวสาลีกำลังแตกหน่อเมื่อมี "ราก" สีขาวเล็ก ๆ โผล่ออกมาจากเมล็ดข้าว
หมายเหตุ: ผู้ปลูกบางรายเห็นด้วยกับการให้มีการแช่น้ำก่อนปลูก / ระบายน้ำทิ้งเป็นจำนวน 3 ครั้ง ก่อนปลูก เนื่องจากเมล็ดพันธุ์จะแตกหน่ออย่างแน่นอนเมื่อสิ้นสุดวงจรดังกล่าว
อุปกรณ์สำเร็จรูปที่ใช้สำหรับการแตกหน่อของเมล็ด
มี 3 วิธีหลักในการเพาะเมล็ดข้าวสาลี
1. ถุงเพาะออแกนิก [Hemp Sprouting Bag] - การใช้ถุงเพาะทำให้การแตกหน่อง่ายขึ้น โดยเปิดก็อกน้ำใส่น้ำสะอาดล้างไปในถุงเพาะที่มีเมล็ดอยู่ตรงๆ โดยไม่จำเป็นต้องเทน้ำออกหรือย้ายเมล็ดออก (เพราะน้ำจะระบายออกเอง) โดยใช้เวลาสัก 15 ถึง 20 วินาทีก่อนที่จะแขวนถุงไว้ให้สะเด็ดน้ำ ไม่ให้โดนแสงแดดโดยตรง เป็นเวลา 16-24 ชั่วโมงซึ่งเมื่อถึงจุดนั้นเมล็ดจะเริ่มงอกแล้ว
ถุงเพาะรักษ์โลกทำจากใยกัญชง ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
2. ใช้ขวดโหล [ Mason jar method]- เมื่อใช้ขวดโหลเพื่อเพาะเมล็ด ขวดโหลที่ดีที่สุดคือแบบปากกว้าง คุณยังสามารถซื้อฝาปิดแบบตาข่ายเพื่อไม่ให้เมล็ดร่วงหล่นและเป็นช่องให้อากาศเข้า คุณสามารถแช่เมล็ดในขวดจากนั้นล้างออกและตั้งขวดโหลเโดยคว่ำฝาลงเพื่อให้สะเด็ดน้ำ
ขวดโหลสำหรับเพาะเมล็ดข้าวสาลีที่มีฝาปิดแบบตาข่าย สามารถ DIY ได้เอง
3. ชุดเพาะกล้า [Sprouting kits] - นอกจากนี้ยังมีชุดเพาะกล้าที่ยอดเยี่ยมในตลาดที่ทำให้การแตกหน่อทำได้ง่ายที่สุด โดยจัดให้มีการระบายอากาศความชื้นและความอบอุ่นในระดับที่เหมาะสมสำหรับการงอกของเมล็ด
ชุดเพาะกล้า [Sprouting kits] สำเร็จรูป มีอุปกรณ์พร้อมวัสดุปลูกและวิธีใช้งาน
หมายเหตุ: คำแนะนำในการปลูกส่วนตัวของผมคือ ให้ใช้ถุงเพาะสำหรับการงอกและการผสมแบบไม่ใช้ดิน (ผมชอบใช้ขุยมะพร้าวกับเวอร์มิคูไลท์) ในการปลูก ถุงเพาะใช้พื้นที่น้อยและทำให้ล้างออกง่ายและปราศจากเชื้อ ทำได้ง่ายและสะดวก
วิธีการปลูกที่แตกต่างกัน แบบใช้ดินและแบบไม่ใช้ดิน
ไม่มีวิธีใดที่ถูกหรือผิดในการปลูกต้นข้าวสาลี แม้ว่าบางวิธีจะเหมาะกับสถานการณ์ที่แตกต่างกันมากกว่าวิธีอื่นก็ตาม วิธีที่ผู้คนเลือกปลูกส่วนใหญ่เป็นเรื่องของความชอบส่วนบุคคล
สำหรับการปลูกต้นอ่อนข้าวสาลี คือเมล็ดหนึ่งถ้วยเพียงพอที่จะใช้ปลูกคลุมถาดขนาด 10x10 นิ้ว และจะให้น้ำวีทกราสประมาณ 10 ออนซ์ (ประมาณ 300 ml) สมมติว่าคุณได้เพาะเมล็ดข้าวสาลีโดยใช้วิธีใดวิธีหนึ่งข้างต้นแล้วขั้นตอนต่อไปคือการใส่เมล็ดลงในวัสดุปลูก
การปลูกแบบใช้ดิน
โปรดทราบว่าวิธีนี้ ใช้กับการปลูกลงไปในดินปุ๋ยหมักหรือส่วนผสมของดินปลูกอื่น ๆ โดยเฉพาะ
1. ใส่ดินลงในภาชนะปลูกของคุณ
ใส่ส่วนผสมในการปลูกให้ได้ 1 นิ้วลงในภาชนะปลูก สำหรับถาดขนาด 10x10 นิ้ว เมื่ออยู่ในถาด แล้วพรมน้ำให้ทั่ว แต่อย่าให้มากเกินไป หากมีน้ำเจิ่งนองในถาดแสดงว่า คุณพรมน้ำมากเกินไป
2. ใส่เมล็ดข้าวสาลีลงในดิน
กระจายเมล็ดอย่างสม่ำเสมอทั่วผิวดินบาง ๆ คุณอาจจะพรมน้ำที่เมล็ดให้ทั่วเพื่อให้แน่ใจว่า เมล็ดมีความชุ่มชื้นเพียงพอ คุณสามารถกดเมล็ดลงบนผิวดินเบา ๆ ได้ แต่ก็ไม่จำเป็น
3. ปิดฝาภาชนะ
เมล็ดข้าวสาลีต้องการความมืดเพื่อหลอกให้เชื่อว่าอยู่ใต้ผิวดิน ใช้ฝาปิดที่ช่วยให้อากาศถ่ายเทได้เล็กน้อยในขณะที่อยู่ในความมืด ตามหลักการแล้วภาชนะของคุณควรตั้งไว้ในบริเวณที่ได้รับแสงสว่างทางอ้อม บางคนเลือกที่จะคลุมภาชนะด้วยหนังสือพิมพ์ชุบน้ำสองสามแผ่นเพื่อป้องกันความชื้นและบังแดดจากเมล็ดพืช
4. รดน้ำ
ในการเริ่มต้นปลูก คุณควรรดน้ำเมล็ดพืชวันละสองครั้งโดยใช้ขวดสเปรย์ฉีดพ่นด้านบนของพื้นผิวดินเบา ๆ จุดประสงค์ของการรดน้ำนี้คือ เพื่อให้เมล็ดมีความชุ่มชื้นเพื่อช่วยให้รากลงสู่ดินและต้นเริ่มงอก ไม่ว่าคุณจะทำอะไรสิ่งที่สำคัญที่สุดคืออย่าให้น้ำมากเกินไป
5. รับแสงอ่อนๆ และรอ
เมื่อต้นอ่อนข้าวสาลีของคุณสูงประมาณหนึ่งนิ้ว (ใน 3-5 วัน) คุณจะพบต้นอ่อน และปล่อยให้พวกมันได้เจอกับแสงแดดโดยตรงจะส่งผลดีต่อต้นหญ้า
6. การเก็บเกี่ยว
ทันทีที่ต้นข้าวสาลีของคุณมีความสูงถึง 6 นิ้วให้ตรวจดูว่าต้นนั้น“ แตกยอด” หรือไม่ ผู้ปลูกส่วนใหญ่พบว่าต้นข้าวสาลีพร้อมเก็บเกี่ยวหลังจากเจริญเติบโตได้ 10 วัน
การปลูกแบบไม่ใช้ดิน
โปรดทราบว่าวิธีนี้ ใช้กับขุยมะพร้าว เวอร์มิคูไลท์ หรือพีทมอสผสมที่ไม่ใช้ดินใด ๆ
1. เพิ่มวัสดุปลูกในภาชนะที่เตรียมไว้
ใส่ส่วนผสมในการปลูกให้ได้ความสูง 1 นิ้วลงในภาชนะเตรียมไว้ สำหรับถาดขนาด 10x10 นิ้วคุณจะใช้วัสดุปลูกสามถ้วยตวง เวอร์มิคูไลท์จะใช้น้ำ 1 ลิตร แต่ขุยมะพร้าวควรจะให้ชื้นก่อน จากกระบวนการบี้คลายและให้ความชุ่มชื้นเพื่อเตรียมความพร้อมและควรชื้น แต่ไม่เปียก
2. ใส่เมล็ดข้าวสาลีลงในภาชนะที่เตรียมพร้อมไว้
กระจายเมล็ดอย่างสม่ำเสมอทั่วพื้นผิวของวัสดุปลูกบาง ๆ คุณอาจจะพรมน้ำที่เมล็ดให้ทั่วเพื่อให้แน่ใจว่า เมล็ดมีความชุ่มชื้นเพียงพอ คุณสามารถกดเมล็ดลงบนผิวดินเบา ๆ ได้ แต่ก็ไม่จำเป็น
3. ปิดฝาภาชนะ
เมล็ดข้าวสาลีต้องการความมืดเพื่อหลอกให้เชื่อว่าอยู่ใต้ผิวดิน ใช้ฝาปิดที่ช่วยให้อากาศถ่ายเทได้เล็กน้อยในขณะที่อยู่ในความมืด ตามหลักการแล้วภาชนะของคุณควรตั้งไว้ในบริเวณที่ได้รับแสงสว่างทางอ้อม แต่ยังคงอยู่ในอุณหภูมิห้อง บางคนเลือกที่จะคลุมภาชนะด้วยหนังสือพิมพ์ชุบน้ำสองสามแผ่นเพื่อป้องกันความชื้นและบังแดดจากเมล็ดพืช
4. รดน้ำ
เมื่อปลูกในอาหารที่ไม่มีดินการเติมปุ๋ยสาหร่ายน้ำเล็กน้อยลงในน้ำที่คุณรดจะเป็นประโยชน์ ในการเริ่มต้นปลูก คุณควรรดน้ำเมล็ดวันละสองครั้งโดยใช้ขวดสเปรย์ฉีดพ่นด้านบนของผิวดิน จุดประสงค์ของการรดน้ำคือการทำให้เมล็ดพืชมีความชุ่มชื้นเพื่อช่วยให้พวกมันหยั่งรากลงไปในดินและเริ่มต้นงอก และให้สารอาหารแก่พวกมัน ไม่ว่าคุณจะทำอะไรสิ่งที่สำคัญที่สุดคืออย่าให้น้ำมากเกินไป
5. รับแสงอ่อนๆ และรอ
เมื่อต้นอ่อนข้าวสาลีของคุณสูงประมาณหนึ่งนิ้ว (ใน3-5วัน) คุณจะพบต้นอ่อน และปล่อยให้พวกมันได้เจอกับแสงแดดโดยตรงในที่โล่ง จะส่งผลดีต่อต้นหญ้า
6. การเก็บเกี่ยว
ทันทีที่ต้นข้าวสาลีของคุณมีความสูงถึง 6 นิ้วให้ตรวจดูว่าต้นนั้น“ แตกยอด” หรือไม่ ผู้ปลูกส่วนใหญ่พบว่าต้นข้าวสาลีพร้อมเก็บเกี่ยวหลังจากเจริญเติบโตได้ 10 วัน
การปลูกแบบใช้ดิน และแบบไม่ใช้ดิน
การปลูกบนเสื่อที่ทำจากเส้นใยกัญชง [Hemp-Fiber Grow Mats]
1. เตรียมถาดของคุณ
ตัดเสื่อเส้นใยกัญชง ให้พอดีกับถาดปลูก รดน้ำบนเสื่อให้ชุ่มตามคำแนะนำจากผลิตภัณฑ์นั้นๆ โดยอาจจะแช่น้ำเป็นเวลาสั้น ๆ เพื่อให้เสื่อชุ่มชื้นเต็มที่ แต่ให้แน่ใจว่ามันชื้นเท่านั้นไม่ใช่เปียก
2. ใส่เมล็ดข้าวสาลีลงในพื้นผิวของเสื่อเส้นใยกัญชง
กระจายเมล็ดอย่างสม่ำเสมอทั่วพื้นผิวของเสื่อในชั้นบาง ๆ คุณอาจจะพรมน้ำที่เมล็ดให้ทั่วเพื่อให้แน่ใจว่า เมล็ดมีความชุ่มชื้นเพียงพอ
3. ปิดฝาภาชนะ
เช่นเดียวกับวิธีการอื่น ๆ เมล็ดพันธุ์ต้องเชื่อว่าพวกมันอยู่ใต้ผิวดินและจะตอบสนองได้ดีที่สุดภายใน 3 - 5 วันภายใต้ความมืด คุณสามารถใช้ถาดอื่นหรือกระดาษหนังสือพิมพ์ชุบน้ำสองสามแผ่นวางทับภาชนะ
4. รดน้ำ
เมื่อปลูกบนเสื่อเส้นใยกัญชง การเติมปุ๋ยสาหร่ายน้ำเล็กน้อยลงในน้ำที่คุณรดจะเป็นประโยชน์ ในการเริ่มต้นปลูก คุณควรรดน้ำเมล็ดวันละสองครั้งโดยใช้ขวดสเปรย์ฉีดพ่นด้านบนของผิว เป้าหมายคือเพียงเพื่อให้รากงอกเป็นเสื่อเพื่อให้ต้นข้าวสาลีตั้งตัวได้ เสื่อไฟเบอร์สามารถแห้งได้เร็วกว่าวัสดุอื่น ๆ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องใส่ใจกับระดับความชื้นและปรับปริมาณและความถี่ในการรดน้ำให้เหมาะสม
5. รับแสงอ่อนๆ และรอ
เมื่อต้นอ่อนข้าวสาลีของคุณสูงประมาณหนึ่งนิ้ว (ใน3-5วัน) คุณจะพบต้นอ่อน และปล่อยให้พวกมันได้เจอกับแสงแดดโดยตรงในที่โล่ง จะส่งผลดีต่อต้นหญ้า
6. การเก็บเกี่ยว
ทันทีที่ต้นข้าวสาลีของคุณมีความสูงถึง 6 นิ้วให้ตรวจดูว่าต้นนั้น“ แตกยอด” หรือไม่ ผู้ปลูกส่วนใหญ่พบว่าต้นข้าวสาลีพร้อมเก็บเกี่ยวหลังจากเจริญเติบโตได้ 10 วัน
การปลูกบนเสื่อที่ทำจากเส้นใยกัญชง [Hemp-Fiber Grow Mats]
วิธีการเก็บเกี่ยว
ใช้กรรไกรปลายแหลมตัดหญ้าเหนือพื้นผิวของวัสดุปลูก หญ้าขนาด 10x10 นิ้ว และจะให้น้ำวีทกราสประมาณ 10 ออนซ์ คุณสามารถใช้ตู้เย็นเพื่อแช่น้ำวีทกราสไว้ดื่มในภายหลัง แต่ควรใช้แบบสดจะดีที่สุด ที่น่าสนใจคือ ผู้ปลูกต้นข้าวสาลีจำนวนมากสามารถเก็บเกี่ยวได้เป็นครั้งที่สอง จากภาชนะเดิมหากพวกเขายังคงดูแลพืชที่ถูกตัดแต่งของพวกเขาต่อไป
ใช้กรรไกรหรือมีดตัดต้นอ่อนข้าวสาลี เหนือพิ้นผิวในระยะที่เหมาะสม
ปัญหาเกี่ยวกับการเจริญเติบโตของต้นข้าวสาลี
ในช่วงระยะเวลาการปลูก เชื้อราเป็นภัยคุกคามที่สำคัญที่สุดต่อพืช หากพื้นที่ปลูกของคุณสูงกว่า 24 องศาเซลเซียส คุณอาจต้องการใช้พัดลมเพื่อช่วยในการไหลเวียนของอากาศเพื่อไม่ให้อยู่ในสภาพอากาศที่หยุดนิ่ง ซึ่งอาจนำไปสู่การเติบโตของเชื้อรา
เมื่อพืชเจริญเติบโตถ้าพวกมันเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเหลืองนั่นเป็นสัญญาณว่าพวกมันต้องการแสงสารอาหารหรือพวกมันได้รับน้ำมากเกินไปหรือน้อยเกินไป หากมีความสูงเกินหกนิ้วแสดงว่าอาจใช้เวลานานเกินไปก่อนที่จะเก็บเกี่ยว
วิธีการใช้ต้นอ่อนข้าวสาลี
วิธีที่ดีที่สุดในการคั้นวีทกราสคือการใช้เครื่องคั้นน้ำผลไม้บด มีเครื่องคั้นน้ำผลไม้มากมายที่ออกแบบมาสำหรับวีทกราสโดยเฉพาะ หากคุณไม่มีเครื่องคั้นน้ำผลไม้แบบนี้ คุณสามารถใช้ เครื่องเตรียมอาหารแล้วบดให้ละเอียดจากนั้นจึงกรองผ่านผ้าขาว นอกจากนี้ยังสามารถใช้เครื่องอบแห้ง เพื่อทำให้การเก็บเกี่ยวของคุณแห้ง แล้วบดเป็นผงเพื่อใช้เป็นอาหารเสริมที่เป็นผงสีเขียว
เครื่องคั้นน้ำผลไม้ที่ใช้กับต้นอ่อนข้าวสาลีโดยเฉพาะ เพื่อทำน้ำวีทกราส
ประโยชน์ต่อสุขภาพของน้ำวีทกราส
น้ำวีทกราสมีสารอาหารที่มีศักยภาพมากมายและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ต้นข้าวสาลีมีกรดอะมิโน 17 ชนิด
(1) คลอโรฟิลล์ในปริมาณสูงซึ่งเป็นสารอาหารที่ทำให้พืชมีสีเขียว นอกจากนี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมากที่พบในวีทกราสรวมทั้งวิตามิน C และ E
(2) ในขณะที่ยังไม่มีการศึกษาเพียงพอที่จะพิสูจน์ว่าวีทกราสสามารถรักษาอาการเจ็บป่วยได้ แต่ก็มีข้อบ่งชี้ทางคลินิกที่ชัดเจนว่าสามารถลดระดับคอเลสเตอรอลได้ (3) ช่วยลดการอักเสบและอาจช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
(4) โดยไม่คำนึงถึงประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นเป็นวิธีง่ายๆในการเพิ่มสารอาหารที่สำคัญบางอย่างลงในน้ำผลไม้ประจำวันของคุณและไม่มีผลข้างเคียง
ประวัติวีทกราส
มีต้นกำเนิดในเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ ข้าวสาลีได้รับการเพาะปลูกควบคู่ไปกับอารยธรรมของมนุษย์มานานพอ ๆ กับที่มนุษย์ทำการเกษตร บางทีอาจเป็นเพราะความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับข้าวสาลี ทำให้วีทกราสมีบทบาทเชิงสัญลักษณ์ในเทศกาลและพิธีกรรมมากมายตลอดประวัติศาสตร์ ต้นข้าวสาลีถูกใช้ในพิธีกรรมของชาวเปอร์เซียและอินเดียในช่วงเทศกาลต่าง ๆ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความมีชีวิตชีวาและการเกิดใหม่
จนกระทั่งในช่วงทศวรรษที่ 1930 ในอเมริกาวีทกราสได้รับความนิยมในฐานะผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหลังจากการค้นพบของ Charles Schnabel ที่ว่าแม่ไก่สามารถผลิตไข่ได้เป็นสามเท่าด้วยอาหารที่เสริมด้วยผงวีทกราส ประโยชน์ต่อสุขภาพของวีทกราสสำหรับมนุษย์ได้รับการพัฒนาในภายหลัง โดยแอนวิกมอร์ซึ่งอ้างว่ามันช่วยล้างพิษในร่างกายและสามารถช่วยรักษามะเร็งได้
วีทกราส 15 ปอนด์มีคุณค่าทางโภชนาการโดยรวมเท่ากับ 350 ปอนด์ของผักสวนครัวทั่วไป Charles Schnabel
ขอขอบคุณที่ติดตามอ่านจนครบ และขอขอบคุณที่กดติดตามครับ
Resources : แปลและเรียบเรียงใหม่จาก :
https://herbsathome.co/how-to-grow-wheatgrass-indoors/
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย