Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Re•Work
•
ติดตาม
8 เม.ย. 2021 เวลา 00:00 • ธุรกิจ
งาน สินค้า หรือผลิตภัณฑ์ของคุณ มีคุณภาพเพียงพอหรือยัง?
เรียนรู้วิธีการพัฒนาคุณภาพ ด้วย “4 ระดับขั้นการพัฒนาคุณภาพ”
ยอดขาย กำไร ผลประกอบการของคุณอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมต่อความพยายามของคุณหรือยัง ลองมาเช็คกันหน่อย กับ 4 ระดับขั้นการพัฒนาคุณภาพ
การที่เราจะพัฒนาคุณภาพของสินค้าหรือบริการของเราให้ดีขึ้น (คุณภาพดีขึ้นคืออะไรคุณคงเข้าใจจากบทความ " “คุณภาพ” ได้ยินกันบ่อยเหลือเกิน แต่จริงๆแล้ว มันคืออะไรกันนะ?" ของผม) เราจะต้องมาทำความเข้าใจกับพฤติกรรมของคนเรากันก่อน เพื่อให้เข้าใจง่ายๆ ลองเช็คไล่ตามแต่ละข้อนี้ ว่าสินค้าหรือบริการของคุณอยู่ที่ระดับไหนแล้ว
1. เหมาะสมกับมาตรฐาน (Fitness to Standard)
ขั้นแรกเลย เราต้องตรวจสอบตัวเอง ว่าสินค้าหรือบริการของเรานั้นอยู่ในมาตรฐานมั้ย โดยอาจจะทำได้โดยการเปรียบเทียบกับคนอื่นที่มีลักษณะธุรกิจใกล้เคียงกับเรา
หา Baseline ให้กับธุรกิจของตัวเอง ลิสออกมาว่าถ้าเทียบกับมาตรฐานแล้ว มีหัวข้อไหนบ้างที่เราดีกว่าคู่แข่ง และมีหัวข้อไหนบ้างที่เราดีไม่เท่าคู่แข่ง
โดยถ้าดูจากมาตรฐานของคู่แข่งแล้ว สิ่งแรกเลยที่เราควรจัดการเป็นอย่างแรก คือการยกระดับสิ่งที่เรายังทำไม่ถึงมาตรฐาน ขึ้นมาให้อย่งน้อยอยู่ในระดับมาตรฐาน
อาจจะยังเห็นภาพไม่ชัด ลองนึกภาพปั๊มน้ำมั้น 2 แห่งกำลังแข่งกัน
ปั๊ม A : ราคาน้ำมัน = มาตรฐาน
มีร้านอาหารร้านเดียว = มาตรฐาน
ห้องน้ำสะอาด ติดแอร์ > มาตรฐาน
ปั๊ม B : ราคาน้ำมั้น = มาตรฐาน
มีร้านอาหารให้เลือกหลายร้าน > มาตรฐาน
ไม่มีห้องน้ำ < มาตรฐาน
คุณคิดว่าจะเข้าปั๊มไหน ก็คงเป็นปั๊ม A แน่นอน เพราะห้องน้ำก็เป็นสิ่งจำเป็นของคนที่มาปั๊ม
แล้วคุณลองคิดว่าเพียงแค่ คุณ ที่เป็นปั๊ม B แค่สร้างห้องน้ำเพิ่มเข้าไป ไม่ต้องดีมาก แต่นั้นก็จะทำให้คุณมีโอกาสมีลูกค้าได้มากขึ้นเยอะเลย
นั้นทำให้เราสังเกตเห็นได้อย่างหนึ่งว่า
“Nothing Wrong” ไม่เท่ากับ “Anything Right”
การที่เราไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้ทำอะไรมากกว่ามาตรฐานมาก แต่มันก็มีโอกาสที่จะดีกว่าการที่สินค้าหรือบริการของเรา มีสิ่งที่ดีเกินมาตรฐานไปบ้าง แต่กลับมีบางอย่างที่ไม่ผ่านมาตรฐาน เลยเป็นที่มาของคำว่า “Nothing Wrong” ไม่เท่ากับ “Anything Right”
พอรู้แบบนี้แล้ว ลองเช็คกับตัวเองดูครับ ว่าธุรกิจของเรามีอะไรที่ Wrong หรือต่ำกว่ามาตรฐานมั้ย
2. เหมาะสมต่อการใช้งาน (Fitness to Use)
ในระดับต่อมา พอเราสามารถทำให้สินค้าหรือบริการของเราอยู่เหนือมาตรฐานทั่วไปแล้วเนี่ย เราก็ต้องหันกลับมามองถึงวัตถุประสงค์จริงๆ ของสินค้าบริการของเรา ว่ามันมีไว้เพื่ออะไร คนจะซื้อหรือรับบริการไปทำไม
เมื่อเรารู้ถึงวัตถุประสงค์ที่แท้จริงแล้ว เราก็ต้องรู้ให้ได้ว่าลูกค้าคาดหวังว่าสิ่งนี้จะไปตอบโจทย์อะไรในชีวิตเขาได้
เราต้องมั่นใจว่ามันสามารถทำในสิ่งที่ลูกค้าต้องการได้
แต่ในระดับนี้ จะเป็นเพียงความต้องการทั่วไป หรือมีความสามารถของสินค้าและบริการแบบตรงๆ เช่น ซื้อปากกาไป รูปลักษณ์สวย แต่ก็ต้องเขียนให้ดีด้วย เพราะปากกาเราซื้อ เรามีไว้เขียน
3. ราคาเหมาะสม (Fitness to Cost)
เมื่อสินค้าของเราพร้อมแล้วต่อการจำหน่ายไปให้ลูกค้า อีกสิ่งหนึ่งที่เราต้องคำนึงให้เหมาะสมเลยก็คือเรื่องของ ราคา
ราคา เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่จะมากำหนดความมี "คุณภาพ" ของสินค้า
จากที่เคยได้อธิบายไปในบทความก่อนหน้า เรื่องที่ว่า "คุณภาพ" แท้จริงแล้วคืออะไร
ของราคาแพงไม่ได้แปลว่ามีคุณภาพดีเสมอไป มันขึ้นอยู่กับบริบทของลูกค้าที่ต้องการในช่วงระยะเวลานั้นๆ เป็นอย่างไร
ดังนั้นถ้าเราสามารถกำหนด ราคา ได้เหมาะสมตรงกับความต้องการและวัตถุประสงค์ของลูกค้า เราก็จะได้สินค้าหรือบริการที่ดีขึ้นไปอีกหนึ่งระดับครับ
4. มีความเหมาะสมต่อความต้องการที่แอบแฝงของลูกค้า (Fitness to Latent Requirement)
ลองสังเกตบริษัทที่ประสบความสำเร็จดูสิครับ พวกเขามักจะซ่อนเคล็ดลับสำคัญที่จะช่วยยกระดับพวกเขา สู่ระดับขั้นการพัฒาคุณภาพ ขั้นที่ 4
ผมจะขอยกตัวอย่างบริษัทชื่อดัง ที่โดดเด่นทางด้านการขายกาแฟและเครื่องดื่ม อย่าง Starbucks นะครับ
คุณคิดว่าคุณภาพของสินค้าและบริการของ Starbucks สูงกว่ามาตรฐานร้านกาแฟทั่วไปมั้ยครับ
คุณคิดว่าคุณภาพของสินค้าและบริการของ Starbucks มีเครื่องดื่มที่รสชาตดี เป็นที่พึงพอใจต่อลูกค้ามั้ยครับ
คุณคิดว่าคุณภาพของสินค้าและบริการของ Starbucks มีราคาของสินค้า เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายของร้นค้ามั้ยครับ
ผมคิดว่าทุกคนคงตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า "ใช่"
แต่สุดท้ายสิ่งที่ทำให้การพัฒนาคุณภาพมาถึงระดับที่ 4 นี้คือ พวกเขาตอบโจทย์ต่อความต้องการแฝงของลูกค้าครับ
ไม่ใช่ลูกค้าทุกคนที่เข้า Starbucks อยากกินเครื่องดื่มครับ บางครั้งพวกเขาต้องการแค่นั่งพักผ่อน นั่งทำงาน ถ่ายรูปลง Social สวยๆ หรือแม้กระทั่งต้องการสร้างภาพลักษณ์ให้ตนเอง
นี่แหละครับคือความต้องการแฝงของลูกค้า Starbucks
พวกเขาไม่ได้พัฒนาแค่สินค้าหรือบริการของเขา พวกเขาศึกษาและค้นหาสิ่งเหล่านี้ด้วย นั้นจึงทำให้พวกเขาเป็นหนึ่งในร้านกาแฟที่มีชื่อเสียงและมีผู้เข้ารับบริการอยู่เป็นอันดับต้นๆ
เมื่อเราทราบถึงระดับขั้นการพัฒนา "คุณภาพ" แล้ว คุณลองกลับไปคิดทบทวนถึงสินค้าและบริการของคุณนะครับว่าคุณอยู่ในระดับขั้นที่เท่าไหร่แล้ว และหวังว่าระดับขั้นการพัฒนาเหล่านี้ จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจของทุกๆคนนะครับ
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย