ผู้นำประเทศสายทหารที่ (น่าจะ) ได้รับคะแนนนิยมสูงสุดในโลก
เมื่อวานเขียนเรื่องอิสราเอลไปแล้วนึกถึงเพื่อนบ้านอย่างอียิปต์ที่มีหลายอย่างคล้ายไทยในปัจจุบันจึงคิดว่าเอามาเขียนหน่อยละกัน
ในช่วงหลายปีมานี้ถ้าใครได้ตามข่าวในไทยจะพบว่ามีโพลบางสำนักสำรวจความนิยมในตัวพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของเราและมักได้ผลที่น่าพอใจ แบบว่าส่วนมากของผู้ตอบแบบสอบถามมักเชียร์ให้ลุงอยู่ต่อ ไม่ก็บอกว่ายังไม่เห็นใครเหมาะกว่าลุง
แต่เชื่อไหมครับว่าโพลที่ว่าอวยลุงแล้วก็ยังได้คะแนนไม่เท่ากับความนิยมจากการเลือกตั้งจริงในอียิปต์อยู่ดี ส่วนจะเยอะแค่ไหนผมจะเล่าให้ฟังต่อจากนี้ครับ
ภาพจาก Scoop Empire
อับดุลฟัตตาห์ อัซซีซี ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของอียิปต์น่าจะเป็นผู้นำประเทศที่ได้รับคะแนนนิยมสูงสุดในโลก (เท่าที่ผมรู้)
23-24 พฤษภาคม พ.ศ.2555 (เลือกตั้งรอบแรก) และ 16-17 มิถุนายน ปีเดียวกัน (เลือกตั้งรอบสอง) อียิปต์ได้ผู้นำประเทศคนแรกในประวัติศาสตร์ที่มาจากการเลือกตั้งเสรีตามระบอบประชาธิปไตยหลังการลุกฮือของประชาชนสามารถโค่นล้มอดีตประธานาธิบดีหุสนี มุบาร็อก ที่กุมอำนาจอยู่นาน 3 ทศวรรษ
มุฮัมมัด มุรซี จากพรรคเสรีภาพและยุติธรรม ได้รับเลือกให้เป็นประมุขของประเทศด้วยคะแนนป็อบปูลาร์โหวต 13,230,131 คะแนน คิดเป็น 51.73% ของผู้ใช้สิทธิ์
ด้านอะหมัด ชาฟิก ได้ป็อปปูลาร์โหวตที่ 12,347,380 คะแนนหรือคิดเป็น 48.27% เรียกว่าคะแนนเฉือนกันไปไม่มากนัก
กกต.อียิปต์ระบุว่าจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งออกไปใช้สิทธิ์ 52% ขณะที่แคนดิเดตในครั้งนี้มีมากถึง 10 คน
ภาพจาก wikipedia
แต่แล้วเมื่อเกิดการประท้วงในช่วงกลางปี 2556 อำนาจอธิปไตยอันเป็นของประชาชนก็ถูกปล้นไปโดยน้ำมือของกองทัพอียิปต์ซึ่งขณะนั้นนำทัพโดยพลเอกอับดุลฟัตตาห์ อัซซีซี ซึ่งแน่นอนว่าอ้าง "ความมั่นคงและสงบเรียบร้อย" เพื่อสร้างความชอบธรรมให้การรัฐประหารคล้ายกับกองทัพในชาติอื่น ๆ
รัฐบาลชั่วคราวบริหารประเทศอยู่ประมาณ 9 เดือนก็จัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีอียิปต์ในวันที่ 26-28 พฤษภาคม พ.ศ.2557
ซีซีได้คะแนนถล่มทลายโดยได้ป็อปปูลาร์โหวต 23,780,104 คะแนน คิดเป็น 96.91% ของผู้ใช้สิทธิ์
ด้านฮัมดีน เศาะบาฮี คู่แข่งเพียงคนเดียวของซีซีได้ป็อปปูลาร์โหวตที่ 757,511 คะแนน คิดเป็น 3.09% ของผู้ใช้สิทธิ์เท่านั้น
ภาพจาก wikipedia
รัฐบาลของซีซีมีความชอบธรรมในการบริหารประเทศมากขึ้นเพราะเขาชุบตัวในบ่อทองคำด้วยการเลือกตั้งแล้ว (คุ้น ๆ อีกละ)
แม้ว่าเศรษฐกิจในประเทศจะแย่ลงเรื่อย ๆ พร้อมกับข้อครหาเรื่องมนุษยธรรมและการใช้อำนาจเกินกว่าเหตุจัดการฝ่ายตรวข้าม แต่อดีตนายพลผู้นี้ก็อยู่จนครบวาระ 4 ปีได้
การเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบใหม่ในวันที่ 26-28 มีนาคม พ.ศ.2561 ซีซีได้รับคะแนนนิยมอย่างถล่มทลายแบบแลนด์สไลด์ยังชิดซ้าย โดยคะแนนป๊อปปูลาร์โหวตของเขาอยู่ที่ 21,835,387 คะแนน หรือคิดเป็น 97.08% ของผู้ออกไปใช้สิทธิ์ทั้งหมด
ขณะที่มูซา มุสเฏาะฟา มูซา ขู่แข่งเพียงคนเดียวของเขาในตอนนั้นได้คะแนนป็อปปูลาร์โหวตที่ 656,534 คะแนน หรือคิดเป็น 2.92% ของผู้ใช้สิทธิ์เท่านั้น
ภาพจาก wikipedia
อย่างไรก็ตามถ้าสังเกตให้ดีซีซีคือเสียงส่วนใหญ่ของคนส่วนน้อยนั่นเอง! เพราะการเลือกตั้งในปี 2557 มีผู้ออกไปใช้สิทธิ์เพียง 47.45% ท่ามกลางข้อกล่าวหาเรื่องการเลือกตั้งที่ไม่โปร่งใส เช่นเดียวกับในปี 2561 ที่มีผู้ออกมาใช้สิทธิ์คิดเป็น 41.05% ของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในประเทศเพียงเท่านั้น
แต่ก็อย่างว่านะครับ ในทางประชาธิปไตยแล้วการที่ผู้มีสิทธิ์เลือกจะบอยคอตไม่ไปออกเสียงเพราะไม่เห็นด้วยกับกติกาที่ไม่เป็นธรรมหรือเหตุผลอื่น ๆ แต่ผลของมันก็จะเท่ากับการที่เสียงของพวกเขาไร้ความหมายไปโดยปริยาย และผลการเลือกตั้งจะตัดสินจากผู้ไปใช้สิทธิ์เพียงเท่านั้น
ฉะนั้นต่อให้เป็น "เสียงส่วนใหญ่ของคนส่วนน้อย" ก็เท่ากับ "เสียงส่วนใหญ่" อยู่ดี
คะแนนนิยมดีขนาดนี้ผู้นำสายทหารแถวบ้านเราน่าไปศึกษาดูงานนะครับ
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
