6 เม.ย. 2021 เวลา 16:09 • สุขภาพ
ระบาดระลอก 3 รุนแรงกว่าเดิม "ติดเชื้อไม่มีอาการ" ภัยเงียบแฝงทุกพื้นที่
5
หลายคนคงสงสัย "โควิดระลอก 3" มายังไง ทำไมลามขนาดนี้ ดารา ศิลปิน พริตตี้ ยันรัฐมนตรี ทั้งติด ต้องกักตัวระนาว!
2
วันนี้ได้พูดคุยกับคุณหมอธีระวัฒน์ เหมะจุฑา อาจารย์แพทย์จุฬาฯ แกวิเคราะห์ให้ฟังแบบนี้ค่ะ คือ คลัสเตอร์ใหม่ระบาดจากสถานบันเทิงรอบนี้รุนแรงกว่าการระบาดเมื่อปี 63 อยู่มากๆ คุณหมอบอกว่าต้นตอคือ "คนติดเชื้อไม่มีอาการ" แฝงตัวอยู่เยอะมากเรียกว่าเป็น "ภัยเงียบ" ที่อาจถูกมองข้ามไปเพราะเขาไม่ได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด
3
บางคนมีเชื้อในตัวแต่ไม่มีอาการปรากฎออกมา คือ ไม่เป็นอะไรเลย ไม่มีไข้ ไอ ปวดหัว ทีนี้พอคนกลุ่มนี้เขาออกไปใช้ชีวิตประจำวัน ( บนพื้นฐานของความไม่รู้ว่าตัวเองติดเชื้อ ) ก็ไปเจอกับผู้คนมากมาย และดันไปแจ็คพ็อตแตกเจอคนที่ "ภูมิต่ำ"ร่างกายไม่แข็งแรง ก็ติดเชื้อแบบแสดงอาการ ก็แพร่กระจายเชื้อต่อไปเรื่อยๆยังคนใกล้ชิดรอบตัวแบบหาต้นตอไม่ได้ว่ามาจากใครเป็นคนแรก
 
อธิบายจากคลัสเตอร์สถานบันเทิง พฤติกรรมของคนเที่ยวเรารู้กันดีอยู่แล้ว ใกล้ชิดกัน เต้น ชนแก้ว ตะโกน บลาๆๆๆ พวกสารคัดหลั่งกระเด็นออกไปง่ายมาก บางคนไม่สวมหน้ากาก การเว้นระยะห่างแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ที่บอกเปิดแบบ New Normal ในทางปฎิบัติทำไม่ได้อยู่แล้วค่ะ
ผับ บาร์ สถานบันเทิงจึงกลายเป็นกลุ่มที่ระบาดง่ายที่สุดและลามไปอย่างรวดเร็ว
6
ถ้าถามว่า มาตรการควบคุมโรคที่แต่ละจังหวัดใช้ในการควบคุมโรค อย่างพื้นที่โซนสีแดง สั่งปิดผับ สถานบันเทิงเป็นโซนๆ ร้านอาหารเปิดได้ถึง 3 ทุ่ม จะควบคุมการระบาดระลอกนี้ได้มากน้อยแค่ไหน
2
คุณหมอธีระวัฒน์ บอกว่า ไม่มีทางได้ 100% ถ้าจะคุมทุกพื้นที่ต้องใช้มาตรการเดียวกันทั้งหมด ถ้าใช้วิธีการคุมเป็นโซนๆแบบนี้ ไม่จำเป็นต้องสั่งปิดก็ยังได้เพราะคนติดเชื้อไปไกลแล้ว เห็นได้จากแต่ละจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อมากขึ้น
4
ประเด็นเรื่องการ ปิดๆเปิดๆผับ สถานบันเทิงน่าสนใจมาก เลยถามคุณหมอว่า จะใช้ชีวิตกันยังไงดี พอปิดสถานการณ์ดีขึ้น พอเปิดก็กลับมาระบาด New Normal ก็ทำไม่ได้จริง ไม่เปิดธุรกิจเขาก็เจ๊ง!
3
คุณหมอบอกว่า ต้องไปแก้ที่ต้นตอคือการตรวจโควิด ก็วนลูปอีก เพราะตอนนี้เราปูพรมตรวจไม่ครบทั้งประเทศ แม้ว่าจะมีการตรวจเชิงรุกก็จริง แต่การตรวจเชิงรุกมักจะทำเมื่อทราบว่าพื้นที่นั้นมีคนติดเชื้อ มีกลุ่มเสี่ยง เช่น สมุทรสาคร เกิดคลัสเตอร์แรงงานต่างด้าว ถ้าไม่ระบาดกลุ่มนี้ก็จะไม่ได้ตรวจมากมายขนาดนี้
รัฐต้องตรวจให้ครบทั้งประเทศให้ได้ ที่สำคัญกระบวนการตรวจก็เป็นปัญหา เพราะเราไม่มีการนำชุดตรวจรวดเร็วมาใช้งานให้แพร่หลาย Rappid test จริงๆควรนำมาใช้ให้ครอบคลุมประชากร ไปตรงจุดให้ภาคธุรกิจต้องมีความพร้อมตรวจให้ทันที เราจะทราบว่าใครติดเชื้อ ไม่ติดเชื้อบ้าง
2
ส่วนการฉีดวัคซีน ไม่ได้ผลเลยหรอ ต้องปรับแผนกลุ่มเป้าหมายในการฉีดใหม่รึเปล่า อาจจะเน้นกลุ่มสถานบันเทิงด้วย
1
คุณหมอบอกว่า แผนที่ดำเนินการดีอยู่แล้ว แต่ต้องเร่งฉีดให้เร็วกว่านี้ อย่างไรก็ตามการฉีดวัคซีนก็ยังมีข้อจำกัดคือ ไม่สามารถการันตีได้ว่า ฉีดแล้วจะไม่ติดเชื้อ "วัคซีน" เป็นตัวสร้างภูมิคุ้มกัน ลดความรุนแรงของโรค ไม่ใช่ฉีดแล้วเชื้อเข้าตัวไม่ได้
2
ดังนั้นช่วงสงกรานต์ไม่จำเป็นพยายามอย่าเคลื่อนย้ายไปไหน ป้องกันตนเองตามมาตรการที่ สธ.แนะนำจะดีที่สุด
โฆษณา