ปัญหาพื้นฐานของคนไทยเกินกว่าครึ่ง คือ “ปัญหาทางการเงิน” ไม่ว่าจะเป็น เงินไม่พอใช้ เป็นหนี้ หรือใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย
ยิ่งมีความรู้เรื่องการเงินน้อยมากเท่าไหร่ เรายิ่งเดินเข้าใกล้หุบเหวของปัญหาการเงินของตัวเองมากขึ้นเท่านั้น หัวใจสำคัญในการทำธุรกิจหรือการเงินส่วนบุคคลประกอบไปด้วย 3 สมการหลักที่เสริมเกาะป้องกันที่ทุกคนต้องรู้ คือ
1.สร้างกำไร (Make profit)
ไม่ว่าจะเป็นบริษัทหรือบุคคล สิ่งที่คำนึงถึงเป็นอันดับแรก นั้นคือ “กำไร” หากบริษัทไม่มีกำไร จะทำมาหากินไปเพื่ออะไร ? จริงไหมครับ
สุดท้ายแล้วการกระทำของเราควรเพิ่มมูลค่าในเชิงเศรษฐกิจ บางช่วงอาจขาดทุน เป็นเรื่องปกติ โดยภาพรวมแล้วกำไรเป็นสิ่งสำคัญ นี้เป็นสมการพื้นฐานหากำไรสุทธิ
กำไรสุทธิ = รายได้ – ค่าใช้จ่าย
หากรายได้มากกว่าค่าใช้จ่ายเรื่อยๆ เงินเก็บหรือกำไรสะสมเพิ่มพูน และเพิ่มมูลค่ามากขึ้นในระยะยาว
ในทางตรงกันข้าม หากรายได้น้อยกว่าค่าใช้จ่าย เงินทุนก็ร่อยหรอ จนหมดตัว ดังนั้นการสร้างกำไรจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก นำไปสู่เป้าหมายทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
2.สร้างกระแสเงินสด (generate cash flow)
“ธุรกิจที่ขาดทุน อาจอยู่ได้เป็นสิบปี แต่ธุรกิจที่ขาดกระแสเงินสดอย่างหนักหน่วง อาจล่มสลายได้ไม่กี่เดือน”
ลองจินตนาการดูครับ หากคุณเป็นมหาเศรษฐีที่เครื่องบินตก แล้วไปโผล่ประเทศใดประเทศหนึ่งในฝังแถบแอตแลนติก เงินทองหล่นหายไปในทะเลหมด ถึงแม้ว่าคุณจะมีทรัพย์สมบัติมากมายอยู่ในธนาคารประเทศบ้านเกิด แต่ตอนนี้ไม่มีเงินใช้ ก็อาจอยู่ได้ไม่กี่วัน
กระแสเงินสด คือ สภาพคล่อง เป็นตัวแทนของความลื่นไหลในชีวิต จะมุ่งหาแต่กำไรอย่างเดียวไม่ได้ ต้องบริหารกระแสเงินสดเช่นกัน เพื่อชีวิตจะได้ไม่ติดขัด
กระแสเงินสดคงเหลือ = กระแสเงินสดเข้า - กระแสเงินสดออก
3.อยู่รอดได้ (stay solvency)
วอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนอันดับหนึ่งของโลกเคยกล่าวว่า “เมื่อตอนที่น้ำลงเท่านั้น ที่ทำให้เรารู้ว่าใครบ้างที่เปลือยกายว่ายน้ำ”
หมายความว่า ในยามที่น้ำขึ้น ถ้าเปรียบเทียบก็คือ เศรษฐกิจดี สภาพเศรษฐกิจรุ่งเรือง ไม่มีทางรู้เลยว่าใครที่กำลังประมาท เลินเล่อ แต่เมื่อใดก็ตามที่เศรษฐกิจย่ำแย่(ระดับน้ำลดลง) คุณจะรู้ทันทีใครเปลือยกายว่ายน้ำอยู่ ธุรกิจไหนที่ไม่ใช่ของจริง
ความมั่งคั่งสุทธิ = สินทรัพย์ - หนี้สิน
โดยพื้นฐานแล้วควรมีความมั่งคั่งเป็นบวกเสมอ เพราะสภาพโครงสร้างการเงินที่ดีจะช่วยให้ผ่านพ้นวิกฤตไปได้
ทั้ง 3 ข้อที่กล่าวมาข้างต้น ควรนำไปใช้ได้กับธุรกิจ หรือการเงินส่วนบุคคล ส่วนคำถามที่ว่า “ทำไมถึงต้องรู้เรื่องการเงิน” ก็เพราะ ความรู้เรื่องการเงินเปรียบเป็นเกราะป้องกัน พร้อมจะรับมือกับเรื่องที่นอกเหนือความคาดหมาย ยิ่งมีเกาะป้องกัน(ความรู้การเงิน) แข็งแรงเท่าไหร่ โอกาสที่จะเจ็บตัวน้อยลง
หากชอบบทความนี้อย่าลืม กดไลค์ กดแชร์ และกดติดตาม เพจ "THE MONEY"
ช่องทางติดตาม
Source: หนังสือ Money Lecture
Blockdit : https://www.blockdit.com/therichman2019
กลุ่มแลกเปลี่ยนข้อมูลธุรกิจ การเงิน : https://www.facebook.com/groups/385262412772955
ขอบคุณครับ
- 6
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
