Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
โหราทาสเล่าเรื่อง
•
ติดตาม
7 เม.ย. 2021 เวลา 16:34 • ธุรกิจ
MONEY GAME บทที่ 1 ถึง 10
By Punyawe Chantarakajorn
PART 1 MONEY GAME
บทที่1 ทฤษฎีทองบิน
ราคาทองคำจะขึ้นได้แรงเมื่อ
1 เงินดอลลาร์สหรัฐต้องเสื่อมค่าลงมากๆ
2 ผลตอบแทนที่แท้จริง (ดอกเบี้ย-เงินเฟ้อ) ต้องติดลบ ไม่ดอกเบี้ยต่ำมาก เงินเฟ้อก็ต้องสูงมาก
3 มีคนต้องการทองคำเป็นหลักประกันความเสี่ยงมากๆ
4 มีคนใช้ทองคำเป็นสื่อกลางอัตรแลกเปลี่ยนของโลกแทนสกุลเงินหลัก
บทที่2 Bitcoin มาแทนทองได้ไหม
Bitcoin จะมีบทสรุปได้3 แบบ
1 ฟองสบู่แตกแบบ Tulip Mania
2 คนนิยมแทนคำ
3 เป็นสื่อกลางอัตราแลกเปลี่ยนโลก
แบบ3 มีโอกาสเกิด แต่ต้องรอให้ราคาผันผวนน้อยกว่านี้
บทที่3 ทองคำไม่ได้มีแค่สีทอง
1 ราคาน้ำมันดิบในอนาคตถูกกำหนดทิศทางจากประเทศที่มีปริมาณสำรองเหลือมากคือสหรัฐ ซาอุ และรัสเซีย
2 สหรัฐกำลังมีอำนาจกำหนดราคามากขึ้นจากการเป็นผู้ส่งออกสุทธิ เปลี่ยนจากการเป็นผู้นำเข้าในอดีต
3 เวลาน้ำมันขึ้นจะมีคนส่งเสียงสองกลุ่ม คือแสดงความไม่พอใจที่ต้นทุนใช้ขีวิตสูง และอีกกลุ่มที่ดีใจจากการขึ้นของราคาที่นำกำไรมาให้
ศึกษาการเทรด Future น้ำมันเพื่อเป็นคนกลุ่มหลัง แนะนำ Contract for Difference (CFD) ไม่ต้องลงเงินมาก จ่ายเฉพาะส่วนต่าง
บทที่4 Impossible Trinity
นโยบายการเงินระกว่างประเทศสามอย่างที่เกิดขึ้นพร้อมกันไม่ได้ ต้องเลือกใช้แค่2 ใน3
1 กำหนดนโยบายการเงินอิสระ
2 อัตราแลกเปลี่ยนคงที่
3 เงินทุนเคลื่อนย้ายเสรี
หมายเหตุ:
วิกฤตต้มยำกุ้งเกิดจาก
ไทยใช้ทั้ง3อย่างพร้อมกัน คือ
เงินทุนเคลื่อนย้ายเสรี (ช่วยผู้ประกอบการไทยนำเงินต่างชาติมาลงทุน)
อัตราแลกเปลี่ยนคงที่ (ช่วยผู้ส่งออกนำเข้าให้ราคาซื้อขายไม่ผันผวน)
แต่เรากำหนดนโยบายการเงินอิสระ (คงอัตราดอกเบี้ยสูง แทนที่จะปรับลงตามกลไกตลาด ทำให้มีเงินไหลเข้าจากต่างชาติที่ดอกเบี้ยถูก มากินส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่สูง ผู้ประกอบการไทยอาศัยต้นเงินทุนต่างชาติถูกมาเก็งกำไรที่ดินอสังหาจนเกิดฟองสบู่)
คิดแบบง่ายๆคือถ้าเราปล่อยให้เงินทุนไหลเข้าออกโดยเสรี ก็ต้องปล่อยให้อัตราแลกเปลี่ยนหรืออัตราดอกเบี้ยอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นไปตามกลไกตลาดให้เกิดสมดุล
บทที่5 เก้าประเด็นที่ต้องรู้เกี่ยวกับFed
Fed ย่อมาจาก Federal Reserve
คือธนาคารของธนาคาร
และเป็นธนาคารของรัฐบาลสหรัฐ
มีหน้าที่ควบคุมปรับสมดุลปริมาณเงินในระบบไม่ใช่พัฒนาเศรษฐกิจ
มักถูกกดดันจากประธานาธิบดี
เพราะรัฐบาลอยากได้เงินกู้ต่ำมาลงทุนกระตุ้นเศรษฐกิจจนอาจผิดวินัยการเงิน
Fed จึงทำหน้าที่ตรวจสอบควบคุมการใช้จ่ายของรัฐบาลอีกที
แต่บางประเทศเช่นญี่ปุ่น ที่นโยบายการเงินของธนาคารกลาง กับนโยบายการคลังของรัฐบาลล้อไปด้วยกันอย่างดี
การผ่อนคลายทางการเงินจึงมีผลแค่ระยะสั้นเพราะการอัดฉีดเงินล้วนมีต้นทุน
บทที่6 เมื่อ Fed โกงความตาย
1
Fed ยืดวงจรเศรษฐกิจออกไปเรื่อยๆ ด้วยนโยบายผ่อนคลายการเงิน โดยการพิมพ์เงินเพื่อมาซื้อสินทรัพย์ ตั้งแต่ 3Q2019 ทำให้งบดุลของธนาคารกลางเต็มไปด้วยหนี้ ทำให้ไม่สามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ แต่ความต้องการเงินดอลลาร์นอกประเทศสหรัฐยังคงมีสูง Fed จึงยังคงพิมพ์เงินออกมาตอบสนองความต้องการได้โดยเงินดอลลาร์สหรัฐไม่เสื่อมค่าลง
บทที่7 เมื่อมีเงินเฟ้อต้องให้เจอกับดอกเบี้ย
การขึ้นดอกเบี้ยเป็นยาแก้อาการโดยตรงของเงินเฟ้อแต่ก็มีผลข้างเคียง
เงินเฟ้อเกิดขึ้นได้2สาเหตุคือ
Demand-pull เป็นเงินเฟ้อคุณภาพดีของแพงเพราะมีความต้องการซื้อสูง คนมีกำลังซื้อรัฐบาลแค่ปรับอัตราดอกเบี้ยให้สูงคนก็อยากออมลงทุนน้อยลง
Cost-push เงินเฟ้อเพราะต้นทุนสูง การขึ้นดอกเบี้ยจะเป็นการซ้ำเติม
ปัญหาของเศรษฐกิจโลกตั้งแต่ปี2020 คือดอกเบี้ยใกล้ศูนย์ เงินเฟ้อก็ยังไม่มาเพราะคนไม่จับจ่ายใช้สอย ทำให้ Fed มีนโยบาย QE ออกมา
บทที่8 รูปร่างหน้าตาโดยย่อของ QE
QEมาจากQuantitative Easing
หรือการผ่อนคลายเชิงปริมาณ
คือการพิมพ์เงินเพื่ออัดฉีดเข้าสู่ระบบ ด้วยการซื้อพันบัตรตราสารหนี้จากธนาคาร แล้วธนาคารจะนำเงินที่ได้ไปปล่อยกู้ต่อไป แต่ธนาคารกลับไม่ยอมปล่อยกู้เพราะกลัวหนี้เสีย กลับนำมาเก็บไว้กับตัวหรือไปซื้อพันธบัตรนำมาขายให้ Fed เพื่อกินส่วนต่าง
ทำให้ Fed ยิ่งต้องพิมพ์เงินเพิ่มมาซื้อพันธบัตรเพื่อกดอัตราดอกเบี้ยให้ต่ำเพื่อจูงใจธนาคารนำเงินไปปล่อยกู้ สิ่งที่เป็นกังวลคือธนาคารกลางอาจซื้อสินทรัพย์เน่าๆเพื่ออุ้มธนาคารไม่ให้เจ๋งซึ่งไม่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม
1
สิ่งที่สำคัญกว่าเป็นหนี้เท่าใด อยู่ที่ว่ากู้ไปทำอะไร
บทที่9 สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าดอกเบี้ย
ในแง่ของธนาคารกับรายย่อย ดอกเบี้ยทำหน้าที่เหมือนเครื่องสูบน้ำ ช่วงไหนเศรษฐกิจร้อนแรงเกิน ธนาคารจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสูบน้ำหรือภาพคล่องออก ช่วงไหนที่เศรษฐกิจซบเซาธนาคารจะปรับลดดอกเบี้ยให้น้ำไหลเวียนในระบบมากขึ้น
แต่ในแง่ตลาดหุ้น ขึ้นดอกเบี้ยแล้วหุ้นขึ้น ลดดอกเบี้ยแล้วหุ้นลงอาจไม่จริงเสมอไป ขึ้นกับบริบทด้วย
1
บทที่10 เงินอาจไม่ได้ไหลขึ้นที่สูงตลอดเวลา
การขึ้นลงของดอกเบี้ยมีผลต่อการเคลื่อนย้ายเงินระหว่างประเทศและอัตราแลกเปลี่ยน
ธรรมชาติของเงินคือการวิ่งเข้าหาที่สูง ถ้าสองประเทศมีพื้นฐานเศรษฐกิจเหมือนกันเงินจะไหลเข้าประเทศที่ให้ดอกเบี้ยสูงกว่า
แต่ในความเป็นจริงอาจกลับกัน อยู่ที่ความเชื่อคน ต่อให้สหรัฐมีหนี้มหาศาลแต่คนจำนวนมากเชื่อว่าสหรัฐจะไม่ล้มหรือล้มยากกว่าอินเดีย(ค่าเงินอินเดียจึงมีโอกาสเสื่อมค่ามากกว่าเงินดอลลาร์สหรัฐ) เงินก็จะไหลเขาสหรัฐมากกว่าอินเดียทั้งที่อินเดียให้อัตราดอกเบี้ย6.7%สูงกว่าสหรัฐที่ 1.75%
Interest Rate = Price of Currency
12 บันทึก
5
7
12
5
7
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย